สาวจีนหายตัวปริศนา เพื่อนโร่แจ้งตำรวจบางรักหลังขาดการติดต่อ ขณะเดียวกันญาติเร่งสถานทูตในไทยช่วยเหลืออีกทาง เพราะมีบุคคลนิรนามโทร.อ้างจับกุมตัวไว้พร้อมเรียกเงิน 1 ล้านหยวน หรือ 5 ล้านบาท เป็นค่าไถ่ ขณะเดียวกันสัญญาณมือถือสาวจีนหายไปบริเวณสวนสาธารณะใกล้วัดหลวงพ่อโสธร ก่อนพบไปมีการใช้จ่ายซื้อของกินของใช้ที่มาเก๊าวันรุ่งขึ้น ส่วนวงจรปิดจับภาพหนุ่มจีนต้องสงสัยเช่ารถเก๋งขับรับสาวจีนหมกอยู่ด้วยกัน 1 คืนในซอยสุขุมวิท 16 ก่อนค่ำวันรุ่งขึ้นพบรถขับออกมามุ่งหน้าชลบุรีและย้อนกลับมาแปดริ้ว ก่อนพบหนุ่มจีนบินไปฮ่องกงวันรุ่งขึ้น ล่าสุดตำรวจพบสัญญาณไม่ดีเจอคราบเลือดในสถานที่ต้องสงสัยในซอยสุขุมวิท 16 และพบกระเป๋าสาวจีนถูกเผาในพื้นที่แปดริ้ว แต่ยังไม่เจอตัวสาวจีนหายปริศนาหวั่นเกิดเหตุร้ายครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 12 ก.ค. นายช่าย ป๋อซวน ชาวจีน เข้าแจ้งความขอความช่วยเหลือกับพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ว่า น.ส.หยาน รุ่ยหมิน อายุ 38 ปี เพื่อนนักศึกษาชาวจีนหายตัวไป ครั้งสุดท้ายที่ติดต่อกันเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. น.ส.หยาน บอกว่าจะไป จ.ภูเก็ต แต่ต่อมาวันที่ 2 ก.ค.ได้ขาดการติดต่อเกรงจะได้รับอันตราย นอกจากนี้เมื่อญาติ น.ส.หยานทราบเรื่องได้รีบเดินทางมาประเทศไทย พร้อมประสานขอความช่วยเหลือจากสถานทูตจีนประจำประเทศไทยเพื่อช่วยเหลือติดตามตัวอีกทางเพราะมีบุคคลปริศนาติดต่อไปอ้างว่าได้จับตัว น.ส.หยานไว้ โดยข่มขู่เรียกค่าไถ่เงิน 1 ล้านหยวน หรือเป็นเงินไทยประมาณ 5 ล้านบาท และสั่งห้ามแจ้งตำรวจและสถานทูตเด็ดขาดมิฉะนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัยหลังเรื่องดังกล่าวถูกรายงานตามลำดับชั้น พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.6 บก.สส. บช.น. และ สน.บางรัก เร่งรัดติดตามสืบสวนหาตัว น.ส.หยาน โดยเร่งด่วนจากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า น.ส.หยาน รุ่ยหมิน เข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 ผ่านด่าน ตม.ทอ.ดอนเมือง ได้รับยกเว้นการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยว (ผ.ผ.30) (90-180) อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 25 ก.ค.67 แจ้งข้อมูลที่พักตาม ม.38 เมื่อวันที่ 18 เม.ย.67 เข้าพักที่โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ 151 ถนน ราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯเมื่อตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือของ น.ส.หยาน พบสัญญาณโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายปรากฏที่สวนสาธารณะใกล้เคียงกับวัดโสธรวราราม (วัดหลวงพ่อโสธร) จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 04.58 น. วันที่ 3 ก.ค.67 ต่อมาวันที่ 4 ก.ค. เวลา 00.12 น. ปรากฏข้อมูลการใช้ระบบการจ่ายเงินออนไลน์ Wechat Pay จาก น.ส.หยาน ซื้อของที่ห้างคาร์ฟูร์ มาเก๊า เป็นเงิน 9,694.76 หยวน ต่อมาวันที่ 5 ก.ค.67 เวลา 09.14 น. พบการใช้จ่ายเงินค่าเกี๊ยวน้ำใน เวเนเชี่ยน มาเก๊า 229 หยวน และวันที่ 6 ก.ค. เวลา 17.04 น. จ่ายค่าซื้อของช็อปปิ้ง 1,043 หยวน และในเวลา 18.40 น. วันเดียวกัน ได้จ่ายค่าซื้อของที่ห้างคาร์ฟูร์ มาเก๊า 9,694.76 หยวนขณะเดียวกันจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก พบผู้ต้องสงสัยชื่อนายชิงหยาน หม่า ชาวจีน เช่ารถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเอชอาร์วี สีขาว ทะเบียน 4 ขณ 428 กรุงเทพมหานคร โดยบริษัทให้เช่าได้นำรถไปส่งที่โรงแรมบัญดารา สีลม เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 30 มิ.ย.67 เป็นโรงแรมที่ผู้ต้องสงสัยเข้าพักก่อนเกิดเหตุต่อมาวันที่ 1 ก.ค.67 น.ส.หยานออกจากหมู่บ้านนันทวัน พระราม 9 โดยรถยนต์เก๋ง สีขาว 4 ประตูเป็นรถเช่าผ่านแอปพลิเคชันแกร็บพร้อมคนขับ มาส่งที่ไทม์สแควร์ สุขุมวิท 12 เวลา 17.20 น. ไล่เลี่ยกันเวลา 17.26 น. มีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเอชอาร์วี สีขาว ทะเบียน 4 ขณ 428 กรุงเทพมหานคร รถของนายชิงหยาน หม่า ผู้ต้องสงสัยไปรับ น.ส.หยาน ก่อนขับมุ่งหน้าเข้าไปในซอยสุขุมวิท 16 ไม่ทราบจุดหมายนอกจากนี้ กล้องวงจรปิดริมถนนสุนทรโกษา (ตลาดคลองเตย) เวลา 18.05-19.43 น. วันที่ 1 ก.ค. พบรถเก๋งที่นายชิงหยานเป็นคนขับและมี น.ส.หยาน นั่งมาด้วย จอดข้างทางเวลา 18.05 น. และทั้งคู่ลงไปเลือกซื้อทุเรียนยืนกินไม่ไกลรถ จากนั้นเดินเท้าไปทางถนนพระราม 4 หายไปจนเวลา 19.43 น. ถึงเดินจับมือกลับมาที่รถและขึ้นรถไปด้วยกัน จนกระทั่งเวลา 20.00 น. วันที่ 2 ก.ค. พบรถคันดังกล่าวออกจากซอยสุขุมวิท 16 มุ่งหน้าไป จ.ชลบุรี จนกระทั่งเวลา 02.00 น.วันที่ 3 ก.ค.พบรถยนต์คันดังกล่าวขับวนกลับมาใน จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่สัญญาณโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายของ น.ส.หยาน จะหายไปบริเวณสวนสาธารณะแห่งหนึ่งใกล้วัดโสธรวราราม ช่วงเวลา 04.58 น. วันที่ 3 ก.ค. ส่วนนายชิงหยาน หม่า ผู้ต้องสงสัยพบว่า ได้ไปเช็กอินที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านศรีนครินทร์เมื่อเวลา 06.00 น. จนกระทั่งเวลา 12.00 น.ได้เช็กเอาต์พร้อมคืนรถให้กับบริษัทรถเช่า ก่อนจะเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิและเดินทางออกนอกประเทศผ่านสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก เที่ยวบิน CX654 ไปยังฮ่องกง ในเวลา 13.46 น. ของวันเดียวกันรายงานข่าวแจ้งว่า การโอนเงินใช้จ่ายในแต่ละครั้งที่มาเก๊า น.ส.หยานไม่ได้เป็นคนโอน แต่คนร้ายใช้โทรศัพท์ของ น.ส.หยาน โอน คาดว่าตัวของ น.ส.หยาน ยังอยู่ในประเทศไทย แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 ร่วมกับ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ ต.บางพระ อ.เมืองฉะเชิงเทรา หลังพบจุดเผากระเป๋าเดินทางที่คาดว่าเป็นของ น.ส.หยาน ที่หายตัวไป ขณะนี้อยู่ระหว่างร่วมตรวจสอบกับกองพิสูจน์หลักฐานมีรายงานว่า พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. เข้าสอบปากคำแม่บ้านทำความสะอาดของ อินโฮม ทาวน์เฮ้าส์ ซอยสุขุมวิท 16 พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ พฐ. เก็บหลักฐาน ห้องพักที่ 288/7 อินโฮม ทาวน์เฮ้าส์ ซอยสุขุมวิท 16 ไปตรวจพิสูจน์ โดยแม่บ้านให้การว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 ก.ค.ได้ทำความสะอาดชั้นสามห้องนอนใหญ่ มีห้องน้ำในห้องนอนห้องเดียว ส่วนห้องอื่นๆไม่มีร่องรอยใช้งานในห้องที่ทำความสะอาดพบคราบเลือดบนที่นอนและที่หมอน ได้ถ่ายภาพไว้แล้วนำไปซักทำความสะอาดปกติแล้วจึงเปลี่ยนผ้าปู, ปลอกหมอน, ผ้าคลุมใส่ผ้าห่มใหม่ก่อนหน้านี้ ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบบริเวณสวนสาธารณะ และบริเวณลานจอดรถโดยรอบวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยนำรูป น.ส.หยาน ให้ชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าในบริเวณนั้นดู แต่ทั้งหมดล้วนบอกเป็นเสียงเดียวว่าไม่เคยพบเห็นและพบความผิดปกติของชาวต่างชาติที่เดินมาในบริเวณนี้ ขณะเดียวกันจากการสำรวจพบว่ากล้องวงจรปิดในสวนสาธารณะถูกถอดออกไปหมด เหลือแต่สายและกล่องสัญญาณบางส่วน ทราบว่าได้มีการถอดกล้องวงจรปิดออกไปก่อนหน้านี้ได้ไม่นาน เพราะจะมีการปรับปรุงสวนและติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดใหม่ทั้งหมดมีรายงานเพิ่มเติมว่า ญาติและเพื่อน น.ส.หยาน รุ่ยหมิน มาแจ้งความกับทางตำรวจแล้วตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ต่อมาวันที่ 11 ก.ค. ญาติให้ข้อมูลสถานทูตเพิ่มเติมว่า มีการโทร.มาเรียกค่าไถ่ 1 ล้านหยวน เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งติดตาม นอกจากนี้ยังมีข้อมูลด้วยว่า น.ส.หยานเป็นดาวติ๊กต่อกคนหนึ่งในโซเชียลประเทศจีนด้วยอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่