งานเผาศพ คุณสมบูรณ์ แก้วพรรณา อายุ 97 ปี ที่วัดอัยยิกาวาส คลองสิบ ปทุมธานี บ่ายสามโมงวันเสาร์ อากาศร้อนมากแต่ประหลาด! บรรยากาศงาน เคล้าเสียงเพลง โปรดเถิดดวงใจ ที่ทูล ทองใจ ร้อง กลับดูรื่นรมย์ ร่มเย็นพิธีกรงานประกาศว่า โปรดเถิดดวงใจ เป็นเพลงโปรดคุณสมบูรณ์ผมนั่งแถวหน้ากับแขกผู้ใหญ่ มีคนข้างหลังกระซิบเข้าหู ตอนโปรดเถิดในดวงใจ เปิดเสียงดัง มีหลายคน เดาได้ว่าเป็นคนที่รักอาลัยคุณสมบูรณ์ น้ำตาไหลภาพถ่ายข้างหีบศพ เป็นภาพชายชรายิ้มอารมณ์ดี ในเสื้อผ้าธรรมดา “อ๋อย” เพื่อนไทยรัฐ...ลูกรักคนหนึ่งบอกผม ภาพนี้พ่อถ่ายเมื่อสองปีที่แล้ว แม้ก่อนเวลาสุดท้าย ล้อมรอบด้วยลูกหลานที่บ้านพ่อก็ไม่เปลี่ยนไปมากน้อยคนวัยใกล้ร้อย สุขภาพกายใจดี...อาชีพช่างเครื่องยนต์ เลี้ยงลูกหกคนแบบพ่อไม่มีเงิน ให้ลูกได้แต่ความรู้จากการเรียน เติบโตและบางคนเติบใหญ่ นี่คือความสำเร็จในชีวิตของคนเป็นพ่อ นี่คือที่มาคนที่มีเสียงเพลงในหัวใจในช่วงนี้ ผมมีช่วงเวลาคิด...คิดไปถึงใคร...สองคนคนแรก ทูล ทองใจ เจ้าของเสียงร้อง เขาเป็นคนบางกะพ้อม อัมพวา สมุทรสงคราม...กระดูกอยู่ที่วัดบางกะพ้อม ฝั่งอัมพวา แต่รูปปั้น ทูล ทองใจ ยืนสง่าอยู่ที่วัดอมรินทร์ฯ ฝั่งตรงข้ามนอกจากโปรดเถิดดวงใจ เพลงดังอันดับหนึ่ง ทุกเช้ามืดคนใกล้บ้านงาน...ที่ใช้เครื่องไฟเครื่องขยายเสียง จะได้ยิน จนเรียกชื่อเพลงนี้ว่า เพลงปลุกแม่ครัว...อีกหลายเพลง เสียงดุเหว่าแว่ว คืนนั้นสวรรค์ล่ม น้ำตาเทียน ฯลฯ ไม่น่าเชื่อ วันนี้ยังมีคนเปิดฟังกันอยู่...โปรดเถิดดวงใจ มีตัวเลขคนกดฟังหลายล้าน แม้ตัวจะไม่อยู่ แต่เสียงร้อง ทูล ทองใจ ยังอยู่วลีเพลงอมตะหลายเพลงถูกใช้ แต่เพลงของทูล อยู่เหนือคำอมตะนั้นผมเคยคิดเล่นๆ ถ้าระบบแบ่งปันผลประโยชน์ให้นักร้องยุติธรรม ...ครอบครัว ทูล ทองใจ คงสบายๆ ไม่ลำบากลำบนอย่างที่ผมรู้แต่ชีวิตศิลปินมักเป็นเช่นนี้ ทูล ทองใจ ตาย หลังเสียงเพลงหายไปจากวิทยุหลายปี...ลูกชายเป็นพนักงานโรงพิมพ์ใหญ่ เพื่อนสำนักพิมพ์เล่าว่า งานศพทูลมีแต่เพื่อนร่วมงาน พนักงานสำนักพิมพ์ คนในวงการแทบไม่มีแขกงานศพ ขนาดของงานเล็กใหญ่...เกี่ยวข้องกันมากน้อย...กับชีวิต ทูล ทองใจ ตอนยังเป็นๆคนที่สองคนแต่งเพลง โปรดเถิดดวงใจ เบญจมินทร์ (ตุ้มทอง โชคชนะ) โด่งดังทั้งเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง ผู้กำกับหนัง แต่บั้นปลาย เหงาๆอยู่ในวาสนะเวศม์ บ้านพักคนชรา พระนครศรีอยุธยาบ้านพักคนชราที่นี่ ที่มีประโยคเตือนใจที่ป้ายชื่อ “วันนี้ทอดทิ้งผู้เฒ่า เหมือนทอดทิ้งตัวเราวันหน้า”มีคำถามไปถึงลูกๆ...คำตอบ...พ่อบอกว่า ไปทำงานนอกบ้าน แล้วพ่อก็หายไปหลายๆปีความรักความผูกพันจากน้ำเสียงลูกๆ แทบไม่มีออกมาผมหยุดคิด มีประกาศสุดท้าย เชิญประธานงานวางผ้าบังสุกุล และจุดไฟเผา เสียงเพลงโปรดเถิดดวงใจ ดังขึ้นอีกครั้ง...ผมเหลือบเห็นวี่แววเศร้า และน้ำตาในดวงตาคนหลายคนรอบๆตัวเสียงเพลงเสียดหัวใจของทูล ทองใจ ด้านหนึ่งให้ความรักหวานหวาม...แต่อีกด้านก็ยังเป็นความจริง มนุษย์เรานั้น....เมื่อถึงยามพรากจากกัน...ความโศก ความคร่ำครวญ ความพิไรรำพัน เก็บซ่อนไว้ลึกแค่ไหนก็ไม่อยู่ผมนึกถึง อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ท่านเขียนบทความ เรื่อง จากครรภ์มารดา ถึงเชิงตะกอนข้อเขียนนี้บอกผู้นำรัฐบาล ที่อาจสับสนกับงาน หน้าที่ของท่าน ก็ดูแลทุกชีวิตคนไทยที่เกิดมา ให้จบลงที่เชิงตะกอน...ด้วยดีแบบมีเสียงเพลง แค่นี้เอง.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม