“ดาบเศก” มือคลุมถุงดำบังคับ “ลุงเปี๊ยก” สารภาพเป็นแพะฆ่าเมียแทน 5 โจ๋โหด แก๊งตำรวจย่องเงียบพบพนักงานสอบสวนกลางดึก ตำรวจสอบเครียดร่วมชั่วโมง แต่ยังไม่แจ้งข้อหา ม.157 ก่อนชงให้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ขณะที่ครอบครัว “ป้ากบ” ผวาภัยมืด หลังพบกลุ่มวัยรุ่นไม่หายซ่ายังป้วนเปี้ยนอยู่ในพื้นที่ หวั่นตามแก้แค้น นายอำเภอต้องสั่งผู้ใหญ่บ้านจัด ชรบ.ดูแลความ ปลอดภัยตลอด 24 ชม. ด้าน ผบ.ตร.เอาจริงสั่งจเรตำรวจแห่งชาติสอบโปลิศสระแก้วให้รู้ผลภายใน 15 วัน หวังกู้ภาพลักษณ์ปทุมวันกลับคืนยังคงเป็นประเด็นที่ประชาชนเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด กรณี 5 วัยรุ่นแก๊งลูกตำรวจร่วมกันฆ่าโหด น.ส.บัวผัน หรือป้ากบ ตันสุ อายุ 47 ปี โยนทิ้งบ่อน้ำใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แต่หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ กลับสร้างตราบาปให้กับผู้บริสุทธิ์ด้วยการใช้ถุงดำคลุมศีรษะบังคับให้นายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก คงแสนคำ อายุ 56 ปี สามีป้ากบ รับสารภาพ กระทั่งความจริงปรากฏหลักฐานลุงเปี๊ยกกลายเป็นแพะในคดีจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความฉาวโฉ่วงการสีกากี ทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งเอาผิดผู้ใต้บังคับ บัญชาและเดินหน้ากู้ภาพลักษณ์ตำรวจกลับคืนมา ล่าสุด พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 แถลงสรุปผลสอบสวนข้อเท็จจริง พบตำรวจเข้าข่ายผิดวินัย 2 นายคือ พ.ต.ท.พิชิต วัฒโน รอง ผกก.สส.สภ.อรัญประเทศ และ ด.ต.ภิเศก พวงมาลีประดับ โดยเฉพาะดาบเศกหนึ่งในชุดสืบสวนที่ใส่ขาเทียมและลุงเปี๊ยกยืนยันว่าเป็นคนใช้ถุงดำคลุมหัวผิดอาญา ม.157 ด้วยความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 ม.ค. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช.มีคำสั่ง ตร.ที่ 44/2567 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีดังกล่าว มี พล.ต.ท.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ จเรตำรวจ เป็นประธานกรรมการ พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ รองจเรตำรวจ พล.ต.ต.นฤนาถ พุทไธสง ผบก.จต.2 จตร. พ.ต.อ.กฤษชวินทร์ วีระจิตต์ ผกก.ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 จต.2 จตร. พ.ต.ท.สกุลสิงห์ สมบูรณ์ธนรักษ์ ผกก.ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 จต.2 จตร. เป็นกรรมการ และเลขานุการ พ.ต.ท.วีรพล ทิพย์โว สว.ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 จต.2 จตร. เป็นผู้ช่วยเลขาฯรายละเอียดในคำสั่งระบุว่า ด้วยภาพข่าวในสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสระแก้วที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องร้องเรียนข้าราชการตำรวจให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน ถ้าคณะกรรมการเห็นว่ากรณีมีมูลผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดอื่นนอกเหนือที่ระบุในคำสั่งนี้หรือกรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงพาดพิงถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่น และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาเบื้องต้นแล้วเห็นว่าข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำในเรื่องที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ด้วย ให้ประธานคณะกรรมการรายงานมาโดยเร็วพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยว่า มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคู่ขนานกับคำสั่งของ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนทุกด้าน ได้รับรายงาน ผบช.ภ.2 มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.ชัยณรงค์ บุญด้วง รอง ผบก.ภ.จ.สระแก้วรรท.ผกก.สภ.อรัญประเทศ เปิดปฏิบัติการ“อรัญประเทศ 67” นำกำลังบูรพา 491 กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ ออกตรวจตราป้องกันเหตุ ปราบปรามจับกุมการกระทำผิด เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย“ปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ละเว้นแม้แต่ความผิดเล็กน้อย ขี่รถ จยย.ไม่สวมหมวก ขี่รถ จยย.ไม่สวม บัตรทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติการณ์กระทำผิดกฎหมาย เป้าหมายกลุ่มแก๊งทำประวัติ เข้าค้นบ้านเป้าหมายทุกวันอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลาย เข้มงวดตั้งด่านตรวจค้นจับกุมยาเสพติดเน้นย้ำใบกระท่อมและน้ำกระท่อม ช่วงเวลากลางคืนหลังเวลา 22.00 น. เป็นช่วงเวลาที่มักเกิดเหตุ ทุกฝ่ายต้องเข้มงวดมากกว่าเดิม ห้ามไม่ให้มีเหตุอีก และช่วงกลางวันให้ตำรวจลงพื้นที่ออกตรวจเยี่ยม ประชาสัมพันธ์พบปะพูดคุย โดยเฉพาะครอบครัวเยาวชนที่มีพฤติการณ์หรืออยู่ในกลุ่มแก๊งสืบสวนหาข่าวเข้าตรวจค้นจุดเสี่ยงเพื่อแก้ไขสถานการณ์ สภ.อรัญประเทศ” ผบ.ตร.กล่าวทั้งนี้ มีรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 20 ม.ค.เวลา 20.00 น. ที่หน้า สภ.อรัญประเทศ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 ร่วมกับ พ.ต.อ.ชัยณรงค์ บุญด้วง รอง ผบก.ภ.จ.สระแก้ว รรท.ผกก.สภ.อรัญประเทศ ระดมปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมและตรวจค้นแหล่งมั่วสุมกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ ตามแผนปฏิบัติการ “เมืองอรัญปลอดภัย คนดีอยู่สบาย คนร้ายอยู่ร้อนนอนทุกข์” มีกำลังจาก บก.สส.ภ.2 บก.ภ.จ.สระแก้ว และฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศร่วมปฏิบัติหน้าที่ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ชาวอรัญประเทศ ก่อนจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 ราย เป็นคดีเสพยาเสพติด 1 ราย คดีขับรถและเสพยา 5 ราย และคดีครอบครองและเสพยาเสพติดอีก 1 รายพล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่า ได้รับมอบหมายมาจาก ผบ.ตร. และ ผบช.ภ.2 ให้มาร่วมกันแก้ปัญหา กอบกู้ภาพลักษณ์ และให้กำลังใจตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ทุกนาย ขอให้ทุกคนมีขวัญกำลังใจ ไม่ย่อท้อ และยึดถืออุดมคติตำรวจในการปฏิบัติงานที่ เน้นเรื่องการเคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ การเปิดแผนปฏิบัติการในครั้งนี้เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีมีความปลอดภัย ส่วนคนร้ายต้องนอนทุกข์ระทม โดยจะเปิดปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องทุกวันส่วนบรรยากาศที่ สภ.อรัญประเทศ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันเดียวกัน สื่อมวลชนจากหลายสำนักไปเฝ้าติดตามความคืบหน้าในการสอบสวนเอาผิดตำรวจที่เกี่ยวข้อง หลังมีข่าวว่า ด.ต.ภิเศก หนึ่งในชุดสืบสวนที่ใช้ถุงดำคลุมหัวลุงเปี๊ยกจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในความผิด ม.157 แต่ตลอดทั้งวันยังคงไร้เงาของ ด.ต.ภิเศก ทราบภายหลังว่า ดาบเศกแอบมาพบพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ชุดสอบสวนสอบปากคำประมาณ 1 ชม. ก่อนเดินทางกลับออกไป ทั้งนี้ มีรายงานจากทีมสอบสวนว่า ตอนนี้ยังไม่แจ้งข้อหากับ ด.ต.ภิเศก หลังจากสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว พนักงานสอบสวนต้องนำสำนวนคำให้การและเอกสารหลักฐานทั้งหมดส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด เนื่องจาก ด.ต.ภิเศกเป็นเจ้าหน้าที่รัฐต้องให้ ป.ป.ช.เป็นผู้ฟ้องคดีที่ศาลาวัดป่าหนองน้ำใส ต.หนองน้ำใส อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว หลังเสร็จสิ้นพิธีเผาศพ น.ส.บัวผัน หรือป้ากบ ไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา นางปาง มาลใสกุล อายุ 55 ปี พี่สาวป้ากบและญาติๆร่วมกันนำอัฐิ น.ส.บัวผันมาทำบุญและถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ 5 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ป้ากบ มีนายทองอาน ถาวรสุข ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.หนองน้ำใส จัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) คอยดูแลความปลอดภัยให้นางปางและสมาชิกในครอบครัวหลังมีข่าวว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมารวมตัวกันในพื้นที่ ต.หนองน้ำใส หวั่นว่าอาจมีการล้างแค้นได้รับอันตรายได้นายทองอาน ถาวรสุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.หนองน้ำใส เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากนายชรินทร์ ภู่ชัย นายอำเภอวัฒนานคร จัดเวร ชรบ.ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปมาดูแลความปลอดภัยให้กับครอบครัวนางปาง มีผู้ใหญ่บ้าน 3 หมู่บ้านเป็นหัวหน้าชุด หลังมีข่าวกลุ่มวัยรุ่นมาวนเวียนในพื้นที่ ต.คลองน้ำใส ทำให้ชาวบ้าน รวมถึงครอบครัว น.ส.บัวผัน ผู้ตาย ไม่มั่นใจ กลัวว่าอาจไม่ปลอดภัยจากพวกวัยรุ่นเหล่านี้ และสั่งให้ออกปฏิบัติหน้าที่ทุกวันตลอด 24 ชม. และรายงานเหตุให้ทราบทุก 2 ชม. จนกว่าจะยกเลิกคำสั่ง ส่วนตัวเห็นว่าผลพวงจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้มองได้ว่ากฎหมายเยาวชนบ้านเราอ่อนเกินไป อยากให้แก้ไขให้มีบทลงโทษเหมือนผู้ใหญ่ เพราะเด็กสมัยนี้โหดร้าย ทำอะไรรุนแรงเกินเด็กและเยาวชนมากอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่