“อัจฉริยะ” เปิดหลักฐานโต้ “แม่แตงโม” ยันที่ปรึกษากฎหมาย ไม่ได้ยักยอกเงินกว่า 5.5 แสนบาท แจงเป็นเงินค่าจ้างตามสัญญา โดยหักส่วนแบ่ง 30% จากเงินเยียวยา แฉซ้ำยังค้างอีกกว่า 3 แสนบาท ซัดแม่เป็นคนสั่งให้ร่างคำฟ้องเองคนบนเรือในข้อหาฆาตกรรมและข่มขืน ด้าน “ทนายเดชา” แถลงโต้ทันควันทุกเม็ด เตรียมรับเป็นทนายความคดีแตงโม ระบุเหตุผลเห็นใจเพราะเหลือตัวคนเดียว หลังมีปัญหากับที่ปรึกษาด้านกฎหมายคนเดิม ด้านนายกสภาทนายความฯเผย มีข้อบังคับว่าด้วยมรรยาทในการกำกับทนายความ หากมีผู้เสียหายร้องสภาทนายฯ พบผิดจริงมีโทษ 3 ลำดับกรณีนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่อดีตดาราสาว น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม-นิดา ที่พลัดตกเรือจมน้ำตายในแม่น้ำเจ้าพระยา ออกมาแฉถูกอดีตที่ปรึกษากฎหมายยักยอกเงินเยียวยา-โบนัสที่ “ปอ-โรเบิร์ต” ให้รวมความเสียหาย 1 ล้าน เข้าขอคำปรึกษาจาก “ทนายเดชา”นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ โดยระบุจะให้กลับมาทำคดีเหมือนเดิมเนื่องจากคดีแตงโมยังอยู่ในชั้นศาล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วความคืบหน้าเรื่องวุ่นๆที่ยังจบไม่ลงหลังการเสียชีวิตของ “แตงโม-นิดา” ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ม.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายอัจฉริยะ เรือง รัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมกล่าวว่า มาเป็นตัวแทนแถลงให้สังคมทราบความจริงว่าการแถลงเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ของนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ดาราสาวแตงโม นิดา ไม่เป็นความจริง ที่ต้องมายุ่งเรื่องนี้เพราะเคยโดนคุณแม่ทำแบบนี้มาก่อน พอได้ผลประโยชน์มักอ้างว่าที่เซ็นมอบอำนาจให้ไม่ใช่เรื่องจริงแล้วไปถอนคดีที่ศาล โดนมาแล้วหมดค่าใช้จ่ายไป 5 แสนบาท ไม่อยากให้มีใครตกเป็นเหยื่ออีก เพราะเวลาคุณแม่ไม่พอใจก็เทคนทิ้ง ที่ผ่านมาเททิ้งหลายชุด แล้วที่อ้างว่าทีมที่ปรึกษากฎหมายยักยอกเงิน อยากบอกคุณแม่ว่าขอให้มีความเป็นแม่ไม่ใช่เอาเงินเป็นตัวตั้ง ควรสนใจปมการตายลูกสาวมากกว่าเรื่องเงิน ทนายชัยวัฒน์ โลมากุล ที่ปรึกษากฎหมายคุณแม่เป็นคนจัดหาทนายความให้คุณแม่ 2 ราย คือ ทนายไพศาล และทนายชานนท์ และยังตกลงในคดีแพ่งต่างๆ แม้กระทั่งการฟ้องร้องคดีใหม่ในความผิดมาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่าแต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย คุณแม่ก็ว่าจ้างทนายชัยวัฒน์ระบุชัดเจนว่าหากคุณแม่ได้รับเงินเยียวยาจากคดีน้องแตงโมเท่าไรจะแบ่งให้ 30%นายอัจฉริยะกล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 21 ก.ย.65 ได้รับโอนเงิน 2,000,000 บาท จากนายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ และนายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ เป็นการจ่ายผ่านแคชเชียร์เช็ค 2 ใบ มอบให้คุณแม่ตอนไปขึ้นศาลจังหวัดนนทบุรี และแม่ต้องจ่าย 600,000 บาทให้ทนายชัยวัฒน์ตามสัญญา แต่แม่กลับจ่ายเงินสดให้ทนายชัยวัฒน์เพียง 400,000 บาท อีก 200,000 บาทที่เหลือแม่ขอติดไว้ก่อน กระทั่งผ่านมา 12 เดือน แม่ยังค้างจ่าย การไม่สามารถจ่ายเงินได้นั้นถือว่าผิดสัญญาว่าจ้าง หากจะยกเลิกต้องมีเอกสารลายลักษณ์อักษรจากคุณแม่ภายใน 15 วัน ถ้าหากทนายชัยวัฒน์ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่คุณแม่จะบอกเลิกจ้างจะต้องถูกปรับเป็น 2 เท่าของมูลค่าเงินที่คุณแม่ต้องจ่ายให้ ดังนั้น ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เงินยักยอกแต่เป็นเงินที่ได้จากการว่าจ้างตามวิชาชีพนายอัจฉริยะกล่าวต่อว่า กรณีที่แม่ค้างจ่ายทนายชัยวัฒน์อีก 200,000 บาท ข้อเท็จจริงไม่ว่าแม่จะได้เงินเยียวยามากี่บาท ทนายชัยวัฒน์จะต้องได้รับ 30 เปอร์เซ็นต์ แม้ในกรณีที่คุณแม่ได้รับเงินจากปอและโรเบิร์ตเดือนละ 30,000 ทนายชัยวัฒน์จะต้องได้ 30 เปอร์เซ็นต์ด้วย โดยจะได้เดือนละ 9,000 บาท เมื่อสรุปยอดรวมแล้ว ทั้งเงินเดือนและของเก่าที่ค้างไว้คุณแม่ติดจ่ายให้ทนายชัยวัฒน์อยู่ประมาณ 380,000 บาท ได้มีใบเตือนแจ้งไปแล้ว ส่วนทนายไพศาลและทนายชานนท์ ทางทนายชัยวัฒน์จะเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบเอง การมอบเงินตามใบเสร็จไม่ใช่สัญญาทาส แต่เป็นข้อตกลงระหว่างคนสองคน อีกทั้งทนายชัยวัฒน์เป็นที่ปรึกษากฎหมายคุณแม่ แต่ไม่ใช่ทนายความแม่ เวลาดีกันก็จัดการให้หมด พอตอนนี้ผลประโยชน์ไม่ลงตัวก็เลยแตกกันนายอัจฉริยะยังกล่าวต่อด้วยว่า ส่วนประเด็นเงิน 400,000 บาทรอบหลัง นายโรเบิร์ตได้โอนให้ทนายชัยวัฒน์เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.66 เป็นเงินที่ทนายชัยวัฒน์พานักธุรกิจซื้อขายรถยนต์ไปซื้อรถยนต์หรูมือสองกับปอและโรเบิร์ต ทำให้ทั้งคู่โอนเงินดังกล่าวให้เป็นรางวัลแก่ทนายชัยวัฒน์ เป็นการโอนเงินตรงเข้าบัญชีเจ้าตัว หรือเป็นค่าคอมมิชชันหลังการขาย ไม่ใช่เงินโบนัสคุณแม่ แต่คุณแม่กลับโทรศัพท์ทวงทนายชัยวัฒน์ทุกเช้าเย็นต้องโอน 2 แสนบาทให้แม่ด้วย แต่ตอนนั้นทนายชัยวัฒน์ ติดทำคดีที่จะฟ้องมาตรา 290 แก่คนบนเรือที่เหลืออีก 4 ราย ยกเว้นปอและโรเบิร์ต ทนายชัยวัฒน์กลัวจะมีปัญหาขัดแย้งกันตัดสินใจจ่ายให้แม่ 50,000 บาทก่อน อีก 150,000 บาททำเป็นสัญญากู้ยืมเงินระหว่างกันแทน อย่างไรก็ตาม ทนายชัยวัฒน์ ยังไม่ได้เซ็นร่างคำฟ้องมาตรา 290 ดังนั้น หากแม่บอกว่าเป็นเงินโบนัสจากปอและโรเบิร์ต ทำไมทั้งสองคนที่เป็นลูกชายสุดที่รักของแม่ไม่โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแม่โดยตรงแต่กลับโอนเข้าบัญชีธนาคารของทนายชัยวัฒน์ ตรงนี้ ปอและโรเบิร์ตต้องออกมาชี้แจงว่าเงิน 4 แสนบาทนี้เป็นเงินค่าคอมมิชชันที่ได้จากการขายรถหรือเป็นค่าโบนัสให้แม่แตงโมนายอัจฉริยะกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย.66 คุณแม่ให้สัมภาษณ์หน้าศาลกับนักข่าวช่องหนึ่ง ว่า เงิน 200,000 บาท ที่ได้รับเป็นเงินปิดปากไม่ให้พูดหรืออุทธรณ์เรื่องของปอและโรเบิร์ตหรือไม่นั้น มองว่าอาจมีความเป็นไปได้ ส่วนกรณีที่ปอบอกว่าเงิน 400,000 เป็นเงินโบนัสให้แม่ ก็ต้องให้เจ้าตัวมาชี้แจงว่าทำไมถึงไม่โอนเข้าบัญชีธนาคารแม่โดยตรง เพราะปกติปอจะต้องโอนเงินให้แม่อยู่แล้วเดือนละ 30,000 บาทนอกจากนี้ นายอัจฉริยะยังโชว์ภาพหลักฐานจดหมายคุณแม่แตงโมที่เขียนด้วยลายมือ และคลิปเสียงสนทนาความยาวเกือบ 7 นาที ยืนยันกรณีที่แม่อ้างว่าไม่รู้เรื่องที่ทนายชัยวัฒน์เขียนร่างคำฟ้องมาตรา 290 เตรียมฟ้องแก่คนบนเรือพร้อมกล่าวว่า จริงๆแล้วแม่ตรวจทุกตัวอักษรและรับรู้จดหมายที่เขียนด้วยลายมือของแม่เมื่อวันที่ 26 ส.ค.66 ขณะที่คลิปเสียงบทสนทนาระหว่างแม่และทนายชัยวัฒน์ เป็นการพูดคุยกันเมื่อวันที่ 29 ก.ค.66 หมายความว่าจดหมายเกิดขึ้นหลังคลิปเสียงสนทนา แม่จะอ้างว่าไม่รับรู้ไม่ได้แม่เป็นคนสั่งการให้ร่างสำนวนฟ้องข้อหาฆาตกรรมและข่มขืน การที่ออกมาเปิดหลักฐานวันนี้ เพราะเพื่อนตนไปทุ่มในคดีแตงโมเป็นทั้งคนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้กับทีมทนายชัยวัฒน์ ไม่อยากให้ใครต้องตกเป็นเหยื่อของแม่แตงโมอีกหลังนายอัจฉริยะแถลงเสร็จสิ้น ต่อมาเวลา 13.30 น. วันเดียวกัน ที่สำนักงานทนายเดชา ซอย รามอินทรา 52/1 เขตคันนายาว กรุงเทพฯ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เปิดแถลงข่าวโดย กล่าวว่า ตอนนี้ได้รับแจ้งจากแม่แตงโมแล้วกำลังร่างเอกสารถอนทนายคนเดิม 2 คน โดยตนจัดทำเอกสารชุดใหม่เตรียมเข้ามาเป็นทนายความให้แม่แตงโมต่อในคดีแทน เมื่อถามว่ากังวลมั้ยหากโดนปลดอีกครั้ง นายเดชาบอกว่าทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน แต่เหตุผลที่เข้ามารับเป็นทนายความให้เนื่องจากเห็นใจ หลังเห็นว่ามีปัญหากับที่ปรึกษาด้านกฎหมายคนเดิม และรู้ว่าแม่แตงโมหมดเงินไปมากจนตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีการตกลงเรื่องการว่าจ้างเป็นทนายความ ยืนยันว่ายังไม่พูดคุยกัน แต่ในอนาคตค่อยมาพูดคุยกันอีกที อาจจะขอแค่ปลาสลิดเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงหากในอนาคตแม่แตงโมยินดีที่จะให้เงินว่าจ้างก็ต้องพูดคุยกันอีกรอบ และจะเซ็นเอกสารตกลงตั้งตนเป็นทนายกลางรายการสดช่องทีวีย่านถนนวิภาวดีช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้นายเดชากล่าวต่อว่า ส่วนที่นายอัจฉริยะเอาสลิปเงิน 400,000 บาท ก้อนที่ 2 มาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดูบอกว่าเป็นค่าตอบแทนการขายรถยนต์หรูที่นายโรเบิร์ตมอบให้นาย ช.นั้น ไม่ได้มีปัญหากับนายอัจฉริยะเข้าใจว่าเป็นคนรักเพื่อน แต่สิ่งที่นายอัจฉริยะพูดไม่สอดคล้อง ตนได้คุยกับนายปอแล้วยืนยันว่าไม่ใช่เงินค่าตอบแทนที่ขายรถหรูให้ แต่นาย ช.ไปขอเงินจากปอ 200,000 บาทในคดีของแตงโม นอกจากเงินส่วนแบ่งร้อยละ 30 แล้วยังมาขอส่วนต่างจากเงินจำนวนนี้อีก ส่วนอีก 200,000 บาท เป็นเงินโบนัสแม่แตงโมจริง ทราบภายหลังว่านาย ช. ไม่ได้เอาเงินให้แม่แตงโม จนมีภาพปรากฏภายหลังว่ามีการทำสัญญาคืนเงินกัน 50,000 บาทแล้วจะชดใช้ให้อีก 150,000 บาท และมีคลิปภาพออกมาคุกเข่ากราบกันว่าที่ทนายความคุณแม่แตงโมกล่าวต่อว่า ส่วนข้อมูลสองฝ่ายไม่ตรงกันอาจจะมีใครคนใดคนหนึ่ง โกหกนั้นยืนยันว่า ตนไม่ได้โกหก ข้อมูลทุกอย่างที่ได้รับมาตรงกับที่แม่แตงโมแถลงข่าวเมื่อวานนี้ พร้อมบอกนายอัจฉริยะไปบอกนาย ช. มานั่งแถลงข่าวร่วมกัน ยืนยันว่าข้อมูลทุกอย่างที่ได้มาจากแม่แตงโมและนายตนุภัทรถูกต้อง ที่นาย ช.ไม่กล้าออกมาแถลงข่าว เพราะมีหมายจับข้อหาปลอมแปลงเอกสารอยู่ที่ สน.ลุมพินี ต้องไปมอบตัวก่อนจึงจะออกมาแถลงข่าวได้ ส่วนสิ่งที่แม่แตงโมบอกว่ามีหลักฐานเด็ดที่จะสามารถนำมาหักล้างสิ่งที่นายอัจฉริยะออกมาแฉในวันนี้ได้นั้น เพราะเป็นคลิปเก่าช่วงเกิดเหตุใหม่ๆ ตอนนั้นมีคนให้ข้อมูลหลายทางพยายามป้อนข้อมูลให้แม่แตงโม ไม่มีข้อความที่ระบุเป็นการสั่งการให้ฟ้องคนบนเรือในคดีฆาตกรรมและข่มขืน ยืนยันว่าเป็นข้อมูลหลักฐานที่บิดเบือนใส่ร้ายแม่แตงโม ต้องใช้คำพูดว่า “เลวระยำหมา”จากนั้นสื่อมวลชนได้นำเอกสารที่นายอัจฉริยะบอกว่าเป็นลายมือของแม่แตงโมให้ดู นายเดชาบอกว่าตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงที่คุณแม่อารมณ์และสภาพจิตใจอ่อนแอและมีหลายคนมาหาประโยชน์จากการเสียชีวิตของแตงโม พยายามที่จะเข้าหาแม่แตงโม หลักฐานที่นายอัจฉริยะนำออกมาเผยแพร่เมื่อช่วงเช้าเป็นหลักฐานที่ไม่มีน้ำหนัก เงิน 400,000 ที่มีสลิปออกมานั้นได้ถามนายตนุภัทร หรือปอ และแม่แตงโมแล้วข้อมูลตรงกัน เป็นชื่อที่นายโรเบิร์ตโอนเข้าบัญชีนาย ช. ส่วนเงินที่ยังค้างอยู่อีก 2 แสนบาท จาก 6 แสนบาท ที่เป็นข้อตกลงว่าจะจ่ายให้ร้อยละ 30 ของเงินเยียวยา ไม่ทราบรายละเอียด แต่ได้รับ ข้อมูลจากแม่แตงโมแล้วทุกอย่างจ่ายครบหมดแล้วนายเดชากล่าวอีกว่า ล่าสุดแม่แตงโมได้ประกาศในรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ประกาศยกเลิกสัญญาทาสกับ นาย ช. ที่ปรึกษากฎหมายแล้ว เพราะรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมถูกเอาเปรียบโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ เนื่องจากนาย ช.ทำผิดสัญญารับเงิน 2 ทางคือ ไปเรียกรับจากนายตนุภัทรด้วย ส่วนเรื่องที่นายอัจฉริยะตั้งข้อสังเกตว่าสลิปดังกล่าวมีการเขียนแต่งข้อความขึ้นภายหลังว่า เป็นเงินให้ทนายและโบนัสแม่แตงโม เรื่องนี้ได้คุยกับนายตนุภัทรแล้ว ยืนยันว่า นายไพบูลย์หรือโรเบิร์ต เป็นผู้เขียนเตือนความจำ ส่วนหลังจากนี้จะผิดหวังที่มารับเป็นทนายความหรือไม่นั้น ด้วยความเป็นเพื่อนและมีความเห็นใจแม่แตงโมจึงมีความพร้อมและยินดีที่จะมารับทำคดีนี้ต่อเพราะแม่แตงโมตัวคนเดียว ไม่มีใครอีกด้านหนึ่ง ที่ห้องประชุมสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวถึงกรณีที่แม่ของแตงโม ดาราสาวตกน้ำตาย เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง อ้างว่าถูกที่ปรึกษาทางกฎหมายในคดียักยอกเงินค่าชดเชยจากจำเลยในคดีดังกล่าวว่า ในการประกอบวิชาชีพทนายความมีอิสระในการรับทำคดีให้กับลูกความผู้มีอรรถคดี ส่วนข้อตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายหรือค่าวิชาชีพก็สุดแล้วแต่จะตกลงกัน หากไม่เป็นไปตามข้อตกลงหรือมีเรียกเงินมาแล้วไปทำให้เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวง ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ก็ดี สภาทนายความฯมีข้อบังคับว่าด้วยมรรยาททนายความในการที่จะกำกับทนายความเหล่านั้น ขอให้ผู้เสียหายร้องต่อสภาทนายความฯ เพื่อให้ดำเนินการกับผู้ที่ทำให้ได้รับความเสียหาย มีคณะกรรมการมรรยาททนายความที่จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อจะสอบสวนข้อเท็จจริงนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาททนายความเพื่อที่จะพิจารณาลงโทษต่อไปสำหรับโทษทนายความที่ไปประพฤติผิดมรรยาททนายความ 3 ระดับ ระดับแรกคือภาคทัณฑ์ ระดับ2 คือห้ามเป็นทนายความเป็นระยะเวลานานไม่เกิน 3 ปี ส่วนระดับ 3 รุนแรงที่สุดคือ ลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ แต่ถ้าเป็นกรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นความผิดโทษเพียงเล็กน้อยและเป็นความผิดครั้งแรก จะว่ากล่าวตักเตือนก็ได้ เป็นไปตามบทบัญญัติที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ทนายความ พ.ศ.2528 และข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่