ฆาตกรรมเขย่าขวัญ หนุ่มโหดลวงฆ่าพ่อกับน้องสาวขังในหีบเหล็กถ่วงน้ำดับทุรน 2 ศพชาวบ้านเห็นพฤติกรรมผิดปกติที่หนองน้ำ รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านประสานตำรวจมารวบตัวผู้ก่อเหตุได้ทันควัน ยังให้การวกวนสารภาพพูดจาหลอกล่อพ่อกับน้องสาวเข้าไปในหีบเหล็กที่สั่งทำพิเศษ อ้างทำคอนเทนต์ลงยูทูบ ก่อนปิดล็อกล่ามโซ่แล้วถีบลงน้ำตายทั้งเป็น ตำรวจยังมึนไม่รู้มูลเหตุจูงใจให้ลงมือโหด ตรวจร่างกายไม่พบสารเสพติด เชื่อวางแผนฆาตกรรมล่วงหน้าเป็นขั้นตอน สั่งทำหีบเหล็กมาตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ให้รถขนไปตั้งวางไว้ก่อนลงมืออำมหิต เร่งเช็กประวัติมีอาการป่วยทางจิตหรือไม่คดีสะเทือนขวัญ หนุ่มโหดลวงฆ่าพ่อกับน้องสาว ขังหีบเหล็กถ่วงน้ำตายทั้งเป็น 2 ศพ เปิดเผยเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 8 ม.ค. ร.ต.อ.ถาวร ใจปัดขา รอง สวป. สภ.พังโคน จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากนายพงษ์พัฒน์ อินธิจันทร์ ผญบ.บ้านสร้างขุ่ย ต.พังโคน อ.พังโคน ว่า พบชายต้องสงสัยลักษณะท่าทางมีพิรุธขับรถเก๋งมาจอดอยู่ริมหนองหลุมหิน บ้านสร้างขุ่ย รายงานให้ พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผกก. นำกำลังสายตรวจ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ใช้ผลิตน้ำประปาของหมู่บ้าน พบชายคนหนึ่งยืนอยู่ริมหนองน้ำ ทราบชื่อนายวรุตย์ เดชภูมี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 564 หมู่ 11 ต.สว่าง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร สอบถามเบื้องต้นพูดจาวกวน มีพิรุธ ตำรวจควบคุมตัวไว้ ตรวจสอบในหนองน้ำพบโต๊ะเหล็กขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในน้ำห่างจากบันไดทางลงหนองน้ำประมาณ 2 เมตร เมื่อใช้ไฟฉายส่องดูรอบๆ พบหีบเหล็ก 2 ใบ จมอยู่ใต้น้ำลึกประมาณ 3 เมตร ประสานหน่วยกู้ภัยและชาวบ้านช่วยกันลงไปงมขึ้นมาจากน้ำเมื่อนำหีบเหล็กทั้ง 2 ใบ ขึ้นมาจากน้ำทุกคน ถึงกับผงะ เมื่อพบศพชายและหญิงอยู่ภายในหีบละ 1 ศพ ลักษณะหีบเหล็กทั้ง 2 ใบ คล้ายโลงศพ ขนาด ยาว 180-190 ซม. ใหม่เอี่ยม ปิดผนึกด้วยแผ่นเหล็กทุกด้าน เว้นช่องหัวท้ายไว้ให้น้ำเข้าได้ ด้านนอกมัดโซ่ ล็อกกุญแจแน่นหนา ในหีบแรกมีศพนายประหยัด เดชภูมี อายุ 66 ปี พ่อของนายวรุตย์ สภาพศพนุ่งกางเกงในสีดำ ไม่สวมเสื้อผ้า ส่วนอีกหีบมีศพ น.ส.เพียงเพ็ญ เดชภูมี อายุ 33 ปี น้องสาวของนายวรุตย์ นุ่งกางเกงขาสามส่วน เสื้อแขนยาว นำทั้ง 2 ศพออกมาจากหีบเหล็ก พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์เวร รพ.พังโคน มาเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุและร่วมชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพ ตามร่างกายไม่มีบาดแผลถูกทำร้าย คาดว่าขาดอากาศหายใจเสียชีวิตจากการจมน้ำ นำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง สอบสวนเบื้องต้นนายวรุตย์รับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุฆาตกรรมพ่อและน้องสาว โดยหลอกล่อทั้งคู่ให้เข้าไปในหีบเหล็กที่สั่งทำพิเศษวางอยู่บนโต๊ะในหนองน้ำ อ้างว่า จะทำคอนเทนต์ ถ่ายคลิปลงยูทูบ ก่อนจะปิดล็อกจากภายนอกแล้วถีบ หีบเหล็กที่มีล้อเลื่อนให้ตกลงไปในน้ำ ทำให้ทั้งคู่จมน้ำ เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม จากคำให้การของผู้ต้องหายังสับสนวกวนและยังไม่บอกถึงมูลเหตุจูงใจในการลงมือโหด ตำรวจตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติดในร่างกาย นำตัวไปควบคุมไว้ที่ สภ.พังโคน เพื่อรอสอบสวน เพิ่มเติมและรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นและฆ่าบุพการีโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอย่างไรก็ตาม จากการสอบถามญาติทราบว่า นายประหยัด ผู้ตาย เป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์ชื่อ เพียงเพ็ญ ต.สว่าง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พักอาศัยอยู่ด้วยกันที่อพาร์ตเมนต์ ก่อนเกิดเหตุเอากุญแจห้องพักไปฝากญาติบอกว่าจะพากันไปเที่ยวเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ก่อนจะขับรถเก๋งฟอร์ด สีน้ำเงิน ทะเบียน ข-8100 อุดรธานี ออกจากอพาร์ตเมนต์ ไปเปิดห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.พังโคน ห่างจาก อพาร์ตเมนต์ประมาณ 40 กม. ญาติๆไม่ทราบว่าทั้งหมดไปทำอะไรกัน กระทั่งเกิดเหตุสลดใจขึ้นญาติให้ข้อมูลด้วยว่า นายวรุตย์ ผู้ก่อเหตุสมัย ยังเล็กเป็นเด็กเรียนเก่ง เฉลียวฉลาด และมีความรู้ ด้านคอมพิวเตอร์ ส่วน น.ส.เพียงเพ็ญ น้องสาว เมื่อ ครั้งยังเด็กครอบครัวเคยพาไปเที่ยวภูกระดึงแล้วพลัดหลงกัน ตั้งแต่นั้นมาก็มีสภาพจิตใจไม่ปกติ ขณะที่ นายประหยัด ผู้เป็นพ่อ เป็นคนนิสัยดีเข้ากับญาติฝ่าย ภรรยาได้ดี ภรรยาเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 10 ต.ค.66 หลังจากนั้นมีปากเสียงทะเลาะกับลูกชายหลายครั้ง แต่ญาติๆไม่ทราบข้อมูลเชิงลึกว่าก่อนหน้าจะเกิดเรื่องมีปัญหาบาดหมาง หรือทะเลาะกันมาหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจในการลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังให้การสับสน แม้จะมีรายงานว่า เจ้าตัวมีอาการทางจิตเวชเคยเข้ารักษาที่ รพ.สมเด็จพระยุพราช สว่างแดนดิน แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันอย่างเป็นทางการ อยู่ระหว่างตรวจสอบประวัติและภูมิหลังของ ผู้ก่อเหตุและครอบครัวว่า เคยมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับความรุนแรงหรือไม่ หรือมีความบาดหมางระหว่างสมาชิกของครอบครัวจนอาจเป็นชนวนเหตุหรือไม่ ทั้งนี้ เชื่อว่ามีการวางแผนก่อเหตุฆาตกรรมอย่างเป็น ขั้นตอน เนื่องจากผู้ก่อเหตุสั่งทำหีบเหล็กไว้ล่วงหน้าต่อมา ช่วงเช้าวันที่ 9 ม.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ จุดเกิดเหตุหนองหลุมหิน บ้านสร้างขุ่ย ต.พังโคน ยังมีโต๊ะเหล็กขนาดใหญ่ที่ใช้วางหีบเหล็กตั้งอยู่ ส่วนหีบเหล็กทั้ง 2 ใบ ตำรวจนำไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.พังโคนแล้ว จากการสอบถามนายพงษ์พัฒน์ อินธิจันทร์ ผญบ.สร้างขุ่ย หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค. มีลูกบ้านแจ้งว่า พบสิ่งผิดปกติ ที่หนองน้ำ มาตรวจสอบพบหีบเหล็กเปล่า 2 ใบ วางอยู่ บนโต๊ะกลางน้ำ จึงใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้ ยังไม่เอะใจอะไรคิดว่าเป็นอุปกรณ์ของช่างที่จะมาติดตั้งระบบประปาหมู่บ้าน เนื่องจากเคยขอไว้กับทีมงาน สส. กระทั่งกลางดึกได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า น่าจะเกิดเหตุการณ์ผิดปกติที่หนองน้ำ เนื่องจากหีบเหล็ก ทั้ง 2 ใบ หายไปและมีชายต้องสงสัยเดินป้วนเปี้ยนอยู่ รีบแจ้งตำรวจ สภ.พังโคนมาร่วมตรวจสอบและควบคุมตัวชายต้องสงสัยไว้ จากนั้นใช้ไฟฉายส่องสำรวจรอบๆพบเงาหีบเหล็กรางๆอยู่ใต้น้ำ ช่วยกันงมขึ้นมาก็พบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ศพ อยู่ในหีบทั้ง 2 ใบผู้สื่อข่าวไปที่ร้านรับเชื่อมเหล็กแห่งหนึ่งใน อ.สว่างแดนดิน ที่ผู้ก่อเหตุว่าจ้างให้ทำหีบเหล็ก เจ้าของ ร้านเผยว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย.66 นายวรุตย์ ผู้ก่อเหตุ ติดต่อมาว่าจ้างให้ทำโต๊ะและหีบเหล็กให้ บอกว่าจะเอาไปใส่อุปกรณ์ตกปลา มีแบบหีบเหล็กมาให้ทั้ง 2 ใบ ขนาดไม่เท่ากัน ใบหนึ่งขนาด 58×180×55 ซม. อีกใบขนาด 65×190×55 ซม. ทางร้านลงมือทำ ตามแบบที่ให้มา ลูกค้าไม่ได้เร่งรัดว่าจะต้องเสร็จ เมื่อไหร่ จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายวุรตย์โทร.บอกให้เร่งงานให้เสร็จภายในวันที่ 6 ม.ค. เพราะ ต้องเอา ไปใช้ทำคอนเทนต์ในยูทูบ ทางร้านเร่งงานจนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 6 ม.ค. นำหีบเหล็กและโต๊ะไปส่งไว้ที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน ห่างจากร้านประมาณ 30 เมตร ตามที่ผู้ก่อเหตุสั่ง คิดค่ารับจ้างทำเป็นเงิน 12,000 บาท จากนั้นมาทราบภายหลังว่ามีรถบรรทุก 6 ล้อ มาขนหีบเหล็กและโต๊ะเหล็กไปเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 8 ม.ค. จนเมื่อเช้าถึงรู้ข่าวว่ามีการฆาตกรรมถ่วงน้ำโดยใช้หีบเหล็กที่ทางร้านทำ รู้สึกตกใจมากและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เท่าที่ได้พบพูดคุย กับผู้ก่อเหตุไม่ปรากฏว่ามีท่าทีเป็นคนโหดร้ายหรือมีความผิดปกติใดๆด้านช่างเชื่อมร้านเหล็ก ผู้ลงมือทำหีบเหล็กมรณะเผยว่า ระหว่างที่ลงมือทำงานตามที่สั่ง ผู้ก่อเหตุ แวะเวียนมาดูงานที่ร้านหลายครั้ง ไม่พบความผิดปกติใดๆ ไม่คิดว่าจะลงมือก่อเหตุสยองขึ้น เพราะจากการพูดคุยกันนายวรุตย์ก็พูดจาสุภาพเรียบร้อยดี ลักษณะเป็นคนมีการศึกษาดี แต่ค่อนข้างพูดน้อย และมักจะก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน เมื่อทราบเรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่