เมื่อวันที่ 29 พ.ย. สำนักข่าวอิรวดีของเมียนมา รายงานบทสัมภาษณ์ “มาร์วี” รองผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในรัฐกะยาของเมียนมา ซึ่งอยู่ติดกับจังหวัดแม่ฮ่องสอนของประเทศไทย โดยระบุว่า ตั้งแต่หน่วยรบเปิดฉากโจมตีกองทัพเมียนมาในรัฐกะยาเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ภายใต้ชื่อรหัสปฏิบัติการ 11.11 ก็ยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจนกองทัพเมียนมาถอนกำลังออกจากรัฐไปเป็นจำนวนมาก หน่วยรบเมียนมาที่ยังไม่ถอนก็ปักหลักอยู่ในค่าย เรียกได้ว่ากลุ่มพันธมิตรชาติพันธุ์ใกล้ที่จะเข้าครอบครองรัฐกะยาไปทุกขณะทั้งนี้ รองผู้บัญชาการกลุ่มกะเหรี่ยงเปิดเผยว่า ทีแรกกองกำลังพันธมิตรกะเหรี่ยงยึดครองพื้นที่ในรัฐกะยาประมาณ 60% กองทัพเมียนมา 20% ที่เหลืออีก 20% อยู่ระหว่างการต่อสู้แย่งชิง แต่ตอนนี้กะเหรี่ยงยึดครองได้แล้ว 80% กองทัพเมียนมาเหลือ 10% และกำลังสู้รบแย่งชิงพื้นที่ 10% เป้าหมายหลักของเราคือการชิงเมืองลอยกอ เมืองเอกของรัฐกะยา ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการหลักของกองทัพเมียนมา และขับไล่กองทัพเมียนมาออกไปจากรัฐกะยา เพื่อที่เราจะสามารถตั้งหน่วยงานบริหารรัฐของตัวเอง ให้บริการประชาชนด้วยพวกเราเอง แต่รองผู้บัญชาการมิได้ระบุว่าหากยึดรัฐกะยาเสร็จสิ้นแล้วจะส่งกำลังรบไปช่วยกลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐอื่นสู้รบกับกองทัพเมียนมาต่อไปหรือไม่.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่