“อาหารอร่อยๆของแม่ที่เรากินมาตั้งแต่เกิด ทำให้เราเป็นคนมีพลังแห่งความสุข เราจึงชอบทำให้คนที่อยู่รอบตัวเรามีความสุข” นี่คือแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังการลุกขึ้นมาเปิดร้านอาหารไทยตำรับบ้านสีจาน จังหวัดโคราช “บ้านนอกเข้ากรุง” เพื่อถ่ายทอดความสุขจากรสมือแม่ประจวบ เอี่ยมปรเมศวร์ ผ่านความทรงจำและเรื่องเล่าขานของ “จอม-ภูมิพันธ์ เอี่ยมปรเมศวร์” อดีตหัวหน้าบัทเลอร์ของโรงแรม เซนต์รีจิส นิวยอร์ก และลูกชายคนสุดท้องของคุณแม่ประจวบ งานนี้ใช้เวลาถึง 70 ปี ในการเดินทางจากอำเภอขามทะเลสอ เมืองโคราช มาถึงใจกลางกรุงเทพมหานคร บนถนนหลังสวน จนกลายเป็นที่มาของร้าน “บ้านนอกเข้ากรุง” ต้องขอบคุณสายตาอันเฉียบคมของ “นารากรุ๊ป” ภายใต้การนำของ “ยูกิ-นราวดี ศรีกาญจนา” และ “ยีน-สิริโสภา จุลเสวก” ที่เล็งเห็นถึงเสน่ห์ของอาหารไทยแบบพื้นถิ่น ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องเล่าและความทรงจำ โดยความเข้มข้นของรสชาติในชีวิตคุณแม่ประจวบถูกถ่ายทอดลงในจานอาหาร ที่รวบรวมเรื่องราวตั้งแต่วัยเด็ก เรื่องของพรหมลิขิตในวัยสาว สู่ชีวิตความเป็นคุณแม่ของลูกๆห้าคน เสน่ห์จากรสมือแม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความรักและความสุข ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นเมนูอร่อยล้ำหาทานยากในเมืองกรุง นำทัพโดย “ผัดหมี่โคราช กุ้งแม่น้ำ/หมูกรอบ” เป็นความตั้งใจของบ้านนอกเข้ากรุงในการนำอาหารพื้นถิ่นโคราชแท้ๆมาให้ลิ้มลอง ความพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของเส้นหมี่ และช่วงเวลาแห่งความสุขในการทำและทานเมนูนี้ ณ บ้านสีจาน ได้ถูกนำมาบอกต่อเป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับ “ออเดิร์ฟบ้านนอก” จานเก่งที่รวมเมนูเรียกน้ำย่อยสูตรเฉพาะของคุณแม่ประจวบ เช่น ปีกไก่ทอดน้ำปลา พร้อมปลาร้าบอง ไส้กรอกบ้านเอง เปาะเปี๊ยะโคราช และปลาร้าบอง บอกเลยว่าเด็ดจริง!! ถ้ามาเยือนบ้านสีจานแล้วไม่ได้ชิม “ไข่พะโล้ยายสำเรียง” ก็ถือว่ามาไม่ถึง!! แม้จะเป็นเมนูคุ้นเคยของทุกบ้าน แต่ทุกบ้านทำไม่เหมือนกัน ไข่พะโล้บ้านนอกเข้ากรุงอร่อยอย่างแตกต่าง เพราะคุณยายสำเรียงเจียวข่าจนเหลืองหอมใส่ลงไป แทนเครื่องเทศแบบจีน เป็นความพิเศษเฉพาะตัวอีกเมนูหาทานยากตำรับบ้านสีจานคือ “น้ำพริกขี้กา” คนสมัยโบราณจะตำพริกบ้านเก็บเอาไว้ทีละมากๆ เวลาจะกินในแต่ละมื้อก็จะนำพริกที่ตำไว้ มาตำผสมกับเนื้อปลาทู แล้วปรุงด้วยมะนาวกับน้ำปลา คนโคราชบางถิ่นเรียกเมนูน้ำพริกปลาทูนี้ว่า “น้ำพริกขี้กา” จัดว่าเด็ดสมเป็นฟินาเล่ปิดท้ายคือขนมหวาน ยกให้ “กล้วยน้ำว้าเชื่อมน้ำตาลคาราเมล” เป็นที่หนึ่งในดวงใจ กล้วยน้ำว้าเชื่อม หรือที่เรียกกันแบบบ้านๆ ว่า “กล้วยแดง” ใช้เวลาทำอย่างพิถีพิถัน เนื้อกล้วยนุ่มหนึบ ทานคู่โฟมเอสพูม่านมสด รสกลมกล่อมเข้ากันสุดๆ ติดอกติดใจไม่แพ้กันคือ “วุ้นชาไทยและ วุ้นกาแฟโบราณ” ใครที่เกิดทันเห็นรถเข็นชากาแฟโบราณต้องไม่พลาด เพราะนำทั้งชาไทยและกาแฟรสชาติดั้งเดิมใส่ลงไปในวุ้นเนื้อละมุนเข้มข้น ตัดกับหน้ากะทิสด กลมกล่อมแบบต้องขอเบิ้ลหลายๆคำ.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่