งานเข้า “อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต” สบส.รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมแจ้งความตำรวจ บก.ปคบ.ฟันผิด 3 ข้อหา พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม และ พ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย หลังสนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจค้นสำนักงานเช่าโรงแรมย่านบางบัวทองเปิดรักษาผู้ป่วยมาตั้งแต่ต้นปี ไม่เจอตัวอาจารย์คนดัง พาลูกศิษย์ตระเวนออกรายการทีวี ภายในสำนักถูกขนย้ายวัสดุอุปกรณ์ไปเกือบหมด เตียงที่ใช้รักษาผู้ป่วยก็เอามาตั้งวางเป็นโต๊ะประชุม แม้จะยังไม่มีผู้ป่วยร้องเรียนโดยตรง แต่เข้าข่ายความผิดชัดเจนกรณีโลกโซเชียลแชร์คลิป “อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต” หรือชื่อจริงนายกีรติ สมคิด อายุ 53 ปี รักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องหมอนรองกระดูก กระดูกทับเส้น อัมพฤกษ์ และโรคอื่นๆ ด้วยการใช้ฝ่ามือตบที่หน้าอก รวมถึงให้ผู้ป่วยนอนคว่ำแล้วเดินถีบที่สะโพกของแต่ละคน อวดอ้างว่าตัวเองมีพลังจิตที่สามารถรักษาโรคภัยต่างๆให้หายได้ สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีผู้หลงเชื่อมาเข้าคิวรอรับการรักษาจำนวนมากที่โรงแรมศศิ นนทบุรี แอนด์ อพาร์ตเมนต์ ถนนกาญจนาภิเษก ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ชั้นล่างของอาคารเป็นสถานที่ที่อาจารย์เอกมาเปิดรักษาผู้ป่วย เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 พ.ย. นายชาตรี พินใย ผอ.กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 ปคบ. พ.ต.ต.สีน้ำ นิยมพลอย สวป.สภ.บางบัวทอง นายปวีณวัช ปาระมีศรี ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางบัวทอง สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 30 คน เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เพื่อเก็บพยานหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดีเมื่อไปถึงปรากฏว่าไม่พบอาจารย์เอก หรือทีมงานแม้แต่คนเดียว มีเพียงผู้จัดการของโรงแรมเจ้าของสถานที่ เป็นผู้นำพาเข้าตรวจสอบภายในห้องที่กลุ่มลูกศิษย์มาเช่าพักเพื่อให้อาจารย์เอกเดินทางมารักษา เบื้องต้นทราบว่าอาจารย์เอกและกลุ่มลูกศิษย์ผู้ติดตามทั้งหมดเดินทางไปออกรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 และรายการเปิดปากกับภาคภูมิ ทางไทยรัฐทีวี แจ้งเปิดให้บริการใหม่อีกครั้งในต้นเดือน ธ.ค. โดยอ้างว่าผู้ป่วยที่เดินทางมารับการรักษาตามนัดหมายได้ให้บริการไปครบทุกคิวแล้วจากการตรวจสอบบริเวณประตูทางเข้าห้องรักษามีกล่องรับบริจาคของมูลนิธิพลังแผ่นดินตั้งอยู่ บนเก้าอี้มีขวดน้ำมันขนาดเล็ก 5 ขวด พร้อมไฟแช็ก 1 อัน วางอยู่บนพานสีทอง เจ้าหน้าที่อายัดนำไปตรวจสอบ ส่วนภายในห้องที่อาจารย์เอกเปิดให้การรักษา สภาพโต๊ะที่ใช้เป็นเตียงรักษาผู้ป่วย 4 เตียง ถูกนำมาวางต่อกันแล้วนำเก้าอี้มาวางล้อมรอบลักษณะเหมือนโต๊ะนั่งประชุม โดยนำฟองน้ำรองเตียงวางทิ้งไว้ข้างกำแพงนายชาตรี พินใย ผอ.กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบสถานที่เปิดรักษาทางศาสตร์พลังจิตว่า เป็นการเช่าห้องพักกับทางโรงแรมเปิดเป็นสำนักงานตั้งแต่เดือน ม.ค. แต่มีพฤติกรรมนำไปโฆษณาในสื่อโซเชียลเป็นการกระทำผิดกฎหมาย 3 ข้อหา ประกอบด้วย พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม และ พ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพรับเป็นแม่งานได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้หมดแล้ว จะส่งตัวแทนไปแจ้งความที่ บก.ปคบ.ในวันที่ 16 พ.ย.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปผอ.กองกฎหมาย สบส. เผยด้วยว่า จากการเข้าตรวจสอบในห้องที่เปิดทำการรักษาผู้ป่วย พบน้ำมัน 5 ขวด ที่ใช้ประกอบการรักษาได้เก็บรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐาน นอกจากนี้สงสัยว่าน่าจะมีการขนย้ายวัสดุอุปกรณ์สิ่งของต่างๆออกไปตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. ก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้ามาตรวจสอบในวันนี้ อย่างไรก็ตามระหว่างการเข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบผู้ป่วยรายหนึ่งที่เดินทางมาเข้ารับการรักษาที่สถานที่แห่งนี้ ได้สอบสวนปากคำเบื้องต้นเพื่อใช้ประกอบสำนวนดำเนินคดี พบว่าผู้ป่วยจองคิวมาเข้ารับการรักษาต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยนอกจากนี้ทางกระทรวงยังมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ สสจ.ลงพื้นที่ตรวจสอบสำนักงานใหญ่ของอาจารย์เอกที่ อ.วารินชำราบจ.อุบลราชธานี แม้จะยังไม่พบว่ามีการร้องเรียนมาโดยตรงจากผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาก็ตาม แต่พฤติกรรมเข้าข่ายเปิดรักษาด้วยการโฆษณา เหมือนเป็นการใช้ช่องทางสื่อโซเชียลเพื่อเอาเปรียบหลอกลวงประชาชน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เข้าข่ายผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพโรคศิลปะ ถือเป็นการรักษาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เตรียมเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ 3 ข้อกล่าวหา ทั้งนี้มีศาสตร์ใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ แต่ศาสตร์ต้องผ่านการประเมินตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ จึงจะนำมาประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือประกอบวิชาชีพโรคศิลปะได้ ตอนนี้การประกอบวิชาชีพโรคศิลปะอนุมัติไป 7 สาขาแล้ว เรื่องเหล่านี้มีองค์ประกอบทั้งรูปธรรมและนามธรรม ทั้งสองอย่างมีความสัมพันธ์กันจึงเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยากว่าคำว่า “พลังจิต” ของเขาหมายถึงอะไร เป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่การรักษาทางโลกจะต้องพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์จึงเป็นที่ยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม ความชอบความศรัทธาของมนุษย์ห้ามกันยาก ถ้าจะเชื่อจะศรัทธาก็ต้องมีเหตุมีผลและมีสติที่ไม่เป็นอันตรายต่อตัวเองอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่