แก๊งโจ๋ใจร้อน เป็นอริกันมาหลายปี ท้าทายกันผ่านทางเฟซ บุ๊ก ยกพวกไปลุยขว้างระเบิดปิงปองหน้าบ้านคู่อริ ซอยพัฒนาการ 53 ถึง 5 วันติด เรียกพวกมาลุยปะทะกันสนั่นมอเตอร์เวย์ ทั้งขว้างระเบิดปิงปอง สาดกระสุนใส่กันนับสิบนัด ผลปรากฏว่า เด็กชายวัย 15 ปี เรียนชั้น ม.3 ถูกกระสุนเจาะหัวเสียชีวิตคาที่ หลังจากนั้นแตกฮือเผ่นป่าราบ ทิ้งรถ จยย.พาหนะก่อเหตุไว้ต่างหน้า ตำรวจตามตัวเจ้าของรถมาสอบเครียด รวมทั้งหลานชายนักร้องลูกทุ่งชื่อดังวัย 14 ปี รรท.ผบก.น.4 เปรยถึงมือปืน รู้หมดแล้วว่าเป็นใคร หนีไปทางไหน เข้ามามอบตัวจะเป็นประโยชน์กับตัวเองแก๊งโจ๋เปิดฉากตะลุมบอนกันจนมีผู้เสียชีวิตรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 13 พ.ย. ร.ต.ท.จักราช ธนวชิรากร รอง สว. (สอบสวน) สน.ประเวศ รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทของวัยรุ่น 2 กลุ่มมีผู้ได้รับบาดเจ็บและถูกยิงเสียชีวิต บริเวณปากซอยพัฒนาการ 53 ถนนเลียบคู่ขนานมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ที่เกิดเหตุเลยปากซอยมาเล็กน้อย ช่องทางซ้ายสุดพบศพนายรังสิมันตุ์ พุ่มเพ็ชร์ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนศรีพฤฒา นอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อแขนยาวลายสกอตสีดำแดง ทับด้วยเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ใส่ถุงเท้าแต่สวมรองเท้าแตะ ตรวจสอบตามร่างกายพบแผลถูกยิงบริเวณใต้คิ้วซ้าย 1 นัด ใกล้กันมีรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีดำแดง ทะเบียน 3 กบ 8354 กรุงเทพมหานคร ของกลุ่มคู่กรณีจอดอยู่กลางถนน ห่างไปประมาณ 50 เมตร มีรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 125 แอลอีดี สีน้ำเงินแดง ทะเบียน 5 ขง 1473 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายจอดอยู่ริมทางเท้า นอกจากนี้ ยังพบปลอกเครื่องกระสุน 6 ปลอก 2 ขนาดตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เก็บไปตรวจสอบว่าเป็นปลอกกระสุนชนิดใดนายบอย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เพื่อนในกลุ่มผู้เสียชีวิตเผยว่า ก่อนหน้านี้พวกตนมีปัญหาขัดแย้งกับกลุ่มวัยรุ่นย่านรามคำแหง 60 มานานหลายปี มีเรื่องบาดหมางกันมาตลอด รวมถึงท้าตีท้าต่อยผ่านเฟซบุ๊กบ่อยครั้ง ล่าสุดมีเรื่องกันจนกลุ่มคู่อริบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาล กระทั่งถูกเอาคืนด้วยการมาปาระเบิดใส่บ้านรุ่นพี่ย่านพัฒนาการ 53 ถึง 4 วันติด วันนี้เป็นวันที่ 5 ถูกปาระเบิดอีก กลุ่มคู่อริมากันราว 20 คน รถ จยย.เกือบ 10 คัน และ รถกระบะ 1 คัน เมื่อก่อเหตุแล้วมาจอดรถริมถนนรวมตัวกันใกล้ปากซอยพัฒนาการ 53 เลียบถนนมอเตอร์เวย์ รุ่นพี่จึงโทร.เรียกพวกตนราว 10 คน รถ จยย. 5 คันให้มาช่วยกันไล่ออกจากพื้นที่ พวกตนมีแต่มีดดาบ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเข้าตะลุมบอนกันชุลมุน ฝั่งคู่อริปาระเบิดปิงปอง 4-5 ลูก และยิงปืนใส่อีกเป็น 10 นัดจนรุ่นน้องเสียชีวิตเบื้องต้นเจ้าหน้าตำรวจ สน.ประเวศ นำตัวเพื่อนในกลุ่มผู้เสียชีวิตไปสอบปากคำอย่างละเอียด และจะนำรถ จยย.กลุ่มผู้ก่อเหตุไปตรวจสอบ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับตัวมาดำเนินคดีต่อไปต่อมาเวลา 12.00 น. ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศนำตัวเยาวชน 2 คนที่อยู่ในกลุ่มผู้ก่อเหตุมาสอบในฐานะพยานเพิ่มเติมบริเวณชั้น 2 ใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 30 นาที เป็นการแยกสอบปากคำทีละคน เพื่อตรวจสอบว่าเยาวชนทั้ง 2 คนให้การตรงกันหรือไม่ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยเป็นคนขี่รถ จยย.สีแดงคันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้ได้เป็นของกลางจากที่เกิดเหตุแม่ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นมือปืน เจ้าของรถ จยย.ที่ตรวจยึดได้ในที่เกิดเหตุ เผยว่า คืนเกิดเหตุลูกชายออกไปเที่ยวกับเพื่อนตามปกติ ขี่รถ จยย.ของตนออกไป กระทั่งกลับมานอนที่บ้านเมื่อเช้าตามปกติ ไม่ได้มีท่าทางวิตกกังวลหรือมีพิรุธอะไร ช่วงเช้าตนจะออกไปตลาดแต่ไม่พบรถ จยย. สอบถามลูกทราบว่า เมื่อคืนเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ลูกชายถูกกลุ่มผู้ตายถีบรถ จยย.ล้มกลางถนน ก่อนลูกชายจะวิ่งหนี อ้างว่าไม่ทราบเหตุชุลมุนที่เกิดขึ้นและไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิงผู้ตาย ตอนเช้ามีตำรวจมาเชิญตัวลูกชายมาสอบปากคำ ทราบว่ารถ จยย.ของตนถูกยึดเป็นของกลาง เดินทางมาที่ สน.ประเวศ เพื่อติดต่อสอบถามข้อเท็จจริง ไม่มีความกังวลใดๆ เพราะมั่นใจว่าลูกชายไม่ได้ทำอะไรผิดต่อมาเวลา 12.40 น. พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ รรท.ผบก.น.4 เดินทางมาเรียกประชุมชุดทำงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.4 และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ ใช้เวลาเกือบ 1 ชม. พล.ต.ต.ธนันท์ธรกล่าวว่า วันนี้ประชุมฝ่ายสืบสวนและแบ่งงานแล้ว เบื้องต้นทราบตัวผู้กระทำความผิดที่ใช้ปืนยิงในเหตุทะเลาะวิวาทจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนเรื่องการออกหมายจับต้องขออนุญาตศาลก่อน เนื่องจากยังเป็นเยาวชน ต้องรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคลร่วมด้วย“อยากประชาสัมพันธ์ถึงตัวน้องที่กระทำผิดว่า ตัวเองรู้ตัวดีว่าทำอะไรอยู่ ให้รีบมามอบตัว เพราะตอนนี้รู้ช่องทางหลบหนีและยืนยันว่าจับตัวได้แน่นอน ไม่ต้องหนีจะได้ง่ายและเป็นผลดีกับตัวเอง แรงจูงใจในการก่อเหตุไม่ได้อยู่ที่สถาบันการศึกษา เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่ายเป็นนักเรียนนอกระบบ แต่ท้าทายกันทางโซเชียลตลอด เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ในส่วนผู้ปกครองก็เห็นใจ เชื่อว่าผู้ปกครองคนไหนก็ไม่มีใครอยากให้ลูกทำแบบนี้ เชื่อว่าช่วงวัยรุ่นใจร้อน ห้ามให้กระทำได้ยาก และการก่อเหตุลักษณะแบบนี้ยังสูญเสียอนาคต อย่างไรก็ตามเมื่อก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีแผนระงับเหตุและปรับแผนทุก 15 วันตามลักษณะการก่อเหตุแต่ละครั้ง” รรท.ผบก.น.4 กล่าวต่อมาเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ นำตัว ด.ช.วัย 14 ปี หลานชายนักร้องลูกทุ่งชื่อดังมาสอบปากคำเพิ่มเติมฐานะพยาน เนื่องจากสอบสวนพบว่าอยู่ในกลุ่มมือปืน นอกจากนี้ยังพบว่า ในวันเกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นหลายกลุ่มทะเลาะวิวาทกันจนมีผู้เสียชีวิต หลานนักร้องลูกทุ่งชื่อดังวัย 14 ปี เผยว่า วันเกิดเหตุตนไปด้วยจริง มีวัยรุ่น 2 คนในแก๊งขี่รถ จยย.มารับ ขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายเป็นคนที่ 3 ไม่รู้จักกับ 2 คนที่นั่งมาด้วย ขณะเกิดเหตุไม่ทราบว่ากลุ่มไหนเป็นคนยิง ทราบข้อมูลภายหลังว่าอาจเป็นกลุ่มอื่นที่ใช้อาวุธปืนยิงจนมีผู้เสียชีวิตเบื้องต้นขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการประสานให้กลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในที่เกิดเหตุประมาณ 3-4 กลุ่ม จำนวนกว่า 30 คน เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปล่าสุดช่วงค่ำวันเดียวกัน ฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.สส. บก. น.4 ตำรวจ บก.สส.บช.น. ควบคุมตัวนายเกียร์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นมือปืนมาที่ สน.ประเวศ เพื่อสอบปากคำเจ้าตัวยอมรับว่ายิงปืนจริงในที่เกิดเหตุ 1 นัด เเต่ไม่ได้ยิงผู้เสียชีวิต แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะสอบปากคำคนอื่นๆให้การว่า นายเกียร์เป็นผู้ที่ยิงปืน ต่อมาตำรวจนำตัวนายเกียร์ผู้ต้องสงสัยพร้อมเพื่อนอีก 2 คนที่เป็นเยาวชน ไปค้นหาปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ไม่เปิดเผยว่าไปค้นหาที่ใดอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่