เนบิวลาปู (Crab Nebula) เป็นซากซุปเปอร์โนวาที่อยู่ห่างจากโลก 6,500 ปีแสงในกลุ่มดาววัว (constellation Taurus) ในประวัติศาสตร์ทางดาราศาสตร์ได้บันทึกการปรากฏของแสงสว่างอันทรงพลังจากเนบิวลาปูในปี ค.ศ.1054 หรือ พ.ศ.1597 โดยนักดาราศาสตร์ในศตวรรษที่ 11 ซึ่งเนบิวลาแห่งนี้ยังคงดึงดูดความสนใจและการศึกษาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันเมื่อเร็วๆนี้ ทีมวิจัยนำโดยนักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ในสหรัฐอเมริกา รายงานว่าจากการใช้กล้องบันทึกภาพรังสีอินฟราเรดย่านใกล้ (NIRCam) และเครื่องตรวจจับรังสีอินฟราเรดย่านกลาง (MIRI) ของกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ ค้นหาคำตอบเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเนบิวลาปู ทีมเผยว่า ความไวและความละเอียดเชิงพื้นที่ของกล้องเวบบ์ช่วยให้ระบุองค์ประกอบของวัสดุที่พุ่งออกมาได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะปริมาณเหล็กและนิกเกิล ซึ่งอาจเผยให้เห็นว่าเนบิวลาปูเกิดจากการระเบิดประเภทใดทีมพบว่าลักษณะเพิ่มเติมของการทำงานภายในเนบิวลาปูมีความโดดเด่นมากขึ้น เห็นได้ละเอียดมากขึ้นในแสงอินฟราเรดที่กล้องเวบบ์ถ่ายไว้ มีการปล่อยก๊าซที่เกิดจากอนุภาคมีประจุ เช่น อิเล็กตรอน ซึ่งเคลื่อนที่ไปรอบๆเส้นสนามแม่เหล็กด้วยความเร็วสัมพัทธภาพ การแผ่รังสีที่ปรากฏ ทำให้เหล่าวัสดุดูคล้ายควันขุ่นมัวปกคลุมทั่วบริเวณภายในส่วนใหญ่ของเนบิวลาปู และยังพบว่าโครงสร้างสนามแม่เหล็กของพัลซาร์ (ดาวนิวตรอนที่หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูงและปลดปล่อยคลื่นวิทยุออกมา) ทำหน้าที่ปั้นและกำหนดรูปร่างเนบิวลา.Credit : Image NASA, ESA, CSA, STScI, Tea Temim (Princeton University)อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่