บิ๊กเซอร์ไพรส์ “เสรีพิศุทธ์” เดินเครื่องยื่น ป.ป.ช. เอาผิด “เศรษฐา-ก.ตร.” ลงมติตั้ง “ต่อศักดิ์” เป็น ผบ.ตร.ข้ามขั้น ขัดรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ตำรวจ ยืนกรานต้องชงชื่อ ผบ.ตร.ตามลำดับอาวุโส เฉ่งนายกฯนั่งหัวโต๊ะลัดขั้นตอนเอาใจนักการเมือง “ทนายอนันต์ชัย” ลั่นไม่หยุดรบ แฉ “บิ๊ก” ในรัฐบาลล็อบบี้ห้ามถึงลุยฟ้อง จ่อยิงอาวุธหนักงัดข้อหา ม.112 นำเรื่องผิดกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯ โต้ปมดิสเครดิตยัน “บิ๊กโจ๊ก” ต่อสายขอให้ช่วยสางคดีพิพาทด้วยตัวเอง ก่อนมีภาพละครน้ำเน่าแฮปปี้เอนดิ้งถึงได้เลิกเป็นทนายให้รอง ผบ.ตร.คนดัง โฆษกรัฐบาลแจงนายกฯพิจารณารอบด้านถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่ “นายกฯนิด” ลั่นไม่ได้ลุอำนาจ มั่นใจทำตามรัฐธรรมนูญ แล้ว ด้าน “ปลัดฉิ่ง” แย้ม แม้คู่กรณีดีกัน กก.ยังสอบปมตำรวจบุกค้นบ้าน “รองโจ๊ก” จนจบกรณีนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ออกมาระบุว่า จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ หลังจากที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ล่าสุดนายอนันต์ชัย พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นำคำร้องเข้ายื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ไต่สวนเอาผิด นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.และ ก.ตร.รวม 10 คน ลงมติแต่งตั้ง ผบ.ตร. โดยมิชอบตามกฎหมายเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 ต.ค. ที่สำนักงานป.ป.ช.สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ให้สัมภาษณ์กรณีระบุจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์โดยมีผู้ใหญ่มายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.เอาผิดผู้เกี่ยวข้องกับแต่งตั้ง ผบ.ตร.โดยมิชอบว่า วันนี้ฮ่องเต้เปลี่ยนไปแล้วไม่ใช่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.แต่เป็นผู้ใหญ่ที่จะมายื่นเรื่องเอาผิดในวันนี้ แต่ยังไม่ขอบอกว่าเป็นใคร ให้รอดู ส่วนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ระบุไม่เคยแต่งตั้งเป็นทนายความ ยืนยัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทรศัพท์มาหาให้เป็นทนายความในคดีที่มีข้อพิพาท ส่วนตัวไม่เคยคุยหรือรู้จัก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มาก่อน จากนั้นได้นัดเจอกัน และนัดนักข่าวไปที่สโมสรตำรวจ และให้สัมภาษณ์ให้ตนเป็นทนาย แต่การเป็นทนายไม่จำเป็นต้องมีหนังสือแต่งตั้ง ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มาหาเหมือนหนีร้อนมาพึ่งเย็นก็ช่วยกันเวลานั้น แต่เวลานี้สถานการณ์คลี่คลาย ทุกอย่างแฮปปี้ แม้ไม่ได้เป็นทนายให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์แล้ว แต่ยังคุยกันอยู่ไม่ได้ถูกเท ส่วนที่มีทนายบางคนบอกว่า ตนได้ค่าทนาย 10 ล้านบาท และได้มาแล้ว 5 ล้านบาทนั้น สาบานให้ตายโหงได้เลยว่า ทุกวันนี้ยังไม่ได้สักบาท ยังไม่ได้ตกลงค่าทนายกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตนไม่ได้มารีดค่าทนายหรือเอาเงินใครในยามเดือดร้อน อย่ามโน ตนไม่พูดมาก หลังจากนี้ใครด่าตนจะฟ้องนายอนันต์ชัยกล่าวอีกว่า ส่วนคนที่ห้ามตนกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ข่าวในเรื่องนี้เป็นคนในรัฐบาลใหญ่มากเป็นพลเรือน ไม่ใช่ตำรวจและไม่ใช่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์โทร.หา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขอให้ตนหยุดพูด แต่ตนบอกหยุดไม่ได้เพราะอยู่ในสนามรบยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ การที่มีคนโทร.มาสั่งห้ามในวันนั้นเป็นที่มาการมายื่น ป.ป.ช.ในวันนี้ ที่เป็นแค่ปฐมบทเรื่องแรก ยังมีเรื่องที่ 2-3-4 ตามมาเป็นซีรีส์ จะไม่ถอยเหมือน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ส่วนการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” นั้นหมายถึงดาวบนบ่า ผู้สื่อข่าวถามว่า มองภาพถ่ายคู่ชื่นมื่นระหว่าง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์อย่างไร นายอนันต์ชัยตอบว่า ละครน้ำเน่าต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมนายอนันต์ชัยพากันเข้ายื่นเรื่องเอาผิดผู้เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้ง ผบ.ตร.โดยไม่ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวหลังยื่นเรื่องว่า มายื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ใน ฐานะประธาน ก.ตร. และ ก.ตร.รวม 10 คน เสนอชื่อ ผบ.ตร.ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 258 (5) ที่ระบุให้ปฏิรูปตำรวจเป็นอิสระเกิดประสิทธิภาพสูงสุด พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจโดยความอาวุโสและความรู้ความสามารถ และขัด พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 77 (1) เรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ที่นายเศรษฐาต้องเป็นคนเสนอชื่อ ผบ.ตร.ให้ ก.ตร. พิจารณา เพราะหากปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ตำรวจต้องเสนอชื่อ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ที่มีอาวุโสอันดับ 1 เท่านั้น แต่เมื่อเสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่อาวุโสอันดับ 4 ต้องนำชื่อทุกคนที่มีอาวุโสมาพิจารณาทั้งเรื่องผลงานในอดีตให้ที่ประชุมพิจารณาอย่างเป็นรูปธรรม ตนกล้ารับประกันว่าไม่มี ถือเป็นการเสนอชื่อ ผบ.ตร.ที่ขัดกฎหมาย มีการเมืองแทรกแซง ไม่เป็นไปตามหลักอาวุโสพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า การให้นายกฯเป็นประธาน ก.ตร.ทำให้ตำรวจถูกครอบงำ การเมืองตั้งตำรวจได้ คนที่มีอาวุโสรองๆลงไปเมื่อเห็นว่า ลัดขั้นตอนได้ก็เอาใจนักการเมือง แม้นายเศรษฐาจะงดออกเสียง แต่ถือว่าทำผิดกฎหมายเพราะเป็นผู้เสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ การยื่นเอาผิดนายเศรษฐาครั้งนี้เพื่อตำรวจไม่ได้ทำเพื่อปกป้องใคร ไม่ได้ปกป้อง พล.ต.อ.รอย แต่ถ้าตนเป็นนายกฯจะตั้ง พล.ต.อ.รอย ความวุ่นวายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ที่ผ่านมา มาจากการเมือง นายกฯไม่ควรมายุ่งเป็นประธาน ก.ตร. มั่นใจการยื่นเอาผิดนายกฯครั้งนี้ไม่กระทบการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคเสรีรวมไทย เพราะลาออกจากการเป็น สส.แล้ว แต่อึดอัดการทำงานรัฐบาลนายอนันต์ชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้เป็นการยื่นเอาผิดนายกฯและ ก.ตร.รวม 10 คน ยกเว้น พล.ต.อ.เอก อังอังสนานนท์ ก.ตร.เสียงข้างน้อยยกมือไม่เห็นด้วย และนายประทิต สันติประภพ อดีตรองอธิการบดี ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.อัสสัมชัญ ที่งดออกเสียง นอกจากนี้ ยังเตรียมเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดฐานผิดมาตรา 112 กรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.เอาเรื่องที่ผิดกฎหมายไปเสนอโปรดเกล้าฯ จะดำเนินการเป็นขั้นตอนต่อไปนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี แถลงว่า กรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และนายอนันต์ชัยยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. กรณีแต่งตั้งผบ.ตร.โดยมิชอบว่า จากข้อเท็จจริงแคนดิเดต ผบ.ตร.ทั้ง 4 คน ในแง่อาวุโสนั้นมี 2 ระดับ คือ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. มีความอาวุโสสูงที่สุด และมากกว่าอีก 3 คน 1 ปี ขณะที่ทั้ง 3 คน อาวุโสเท่ากัน และเข้ามาเป็นรอง ผบ.ตร.พร้อมกัน ก่อนที่เสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เปิดให้ ก.ตร.แสดงความคิดเห็น มี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ อดีต ผบ.ตร. เป็นผู้นำเสนอข้อมูลแคนดิเดตของ ผบ.ตร.แต่ละคน โดยนายกฯรับรู้อย่างรอบด้านและประเมินแล้วว่า มีความแตกต่างทางอาวุโสห่างกันเพียงปีเดียว เมื่อรับฟังเรื่องความรู้ความสามารถแล้วถึงได้เสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และที่ประชุม ก.ตร.เห็นชอบกับข้อเสนอของนายกฯ การแต่งตั้งถูกต้องตามหลักกฎหมายทุกประการ มีความชอบธรรมสมเหตุสมผล นายกฯไม่ได้ลุแก่อำนาจ นายกฯจะชี้แจงตามข้อเท็จจริง ให้ไปชี้แจงที่ไหนก็ทำได้ คนที่นั่งอยู่ห้องประชุมเขารู้ว่าอะไรเกิดขึ้นสามารถชี้แจงได้ทุกคน เมื่อถามว่านายกฯได้ปรารภเรื่องนี้อย่างไร นายชัยตอบว่า นายกฯบอกแต่เพียงว่า นึกไม่ถึงว่าจะเป็นปัญหา มันไม่ควรจะเป็นเรื่องทำให้เสียเวลาเสียสมาธิทำงาน เมื่อเกิดปัญหาสังคมอยากรู้จึงให้ตนมาชี้แจงทำความเข้าใจขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ว่า มั่นใจว่าไม่ได้ลุแก่อำนาจและทำตามรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่าจะตั้งทีมทนายความขึ้นมาสู้คดีหรือไม่ นายเศรษฐาไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนเดินเลี่ยงก้าวขึ้นรถไปทันทีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง.ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีการเข้าค้นบ้านพักของข้าราช การตำรวจชั้นผู้ใหญ่และเคหสถานอื่นหลายแห่งทั่วประเทศว่า ขณะนี้การดำเนินการอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ตามคำสั่งนายกฯให้สอบเวลา 30 วัน ถ้ามีเหตุผลความจำเป็นขอขยายได้ จะเสร็จภายใน 30 วันหรือไม่ ต้องดูข้อเท็จจริงมีมากน้อยแค่ไหน เพราะดำเนินการกับหลายคน หลายพื้นที่ เราให้น้ำหนักในภาพรวมเมื่อถามว่าดูเหมือนคู่กรณีคืนดีกันแล้วจะมีผลต่อการสอบสวนหรือไม่ นายฉัตรชัยตอบว่า การคืนดีเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว ส่วนตนทำหน้าที่ตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เมื่อถามย้ำว่าการคืนดีกันไม่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายฉัตรชัยตอบว่า ตนสอบตามข้อเท็จจริงที่มีอยู่ เมื่อถามว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เกี่ยวข้องหรือไม่ นายฉัตรชัยตอบว่า ทุกคนที่เกี่ยวในวันนั้นก็ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เมื่อถามว่าตรงนี้จะเกี่ยวข้องพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพอจะตรวจสอบไปถึงเส้นทางการเงินด้วยหรือไม่ นายฉัตรชัยตอบว่า ยังอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่