ตำรวจ บก.ปปป.สนธิกำลัง ป.ป.ช.-ป.ป.ท. บุกรวบนายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว จ.สมุทรปราการ เรียกรับสินบนผู้ประกอบการแลกสัญญาลงนามอนุมัติโครงการจัดซื้อจอแอลอีดี มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท รีดเงินทอนค่าลายเซ็น 25 เปอร์เซ็นต์ของวงเงิน ในสัญญา นัดจ่ายงวดแรกครึ่งหนึ่งก่อน 1.5 ล้านบาท ผู้เสียหายโร่แจ้งความตำรวจซ้อนแผนตลบหลังบุกจับ ขณะรับมอบเงินที่สำนักงานส่วนตัว หลังรับเงินเกิดไหวตัวรีบวิ่งหนีเอาถุงเงินไปโยนทิ้งข้างรถ แต่ไม่รอดถูกตะครุบคาหนังคาเขา โดนแจ้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินโดยมิชอบ เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธปฏิบัติการบุกจับนายกเทศมนตรีเรียกรับสินบนผู้ประกอบการ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 ก.ย. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายพิศิษฐ์พัฒนกิจจำรูญ ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สนธิกำลังตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. บุกเข้าจับกุมนายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ อายุ 53 ปี นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางเงินสด 1,560,650 บาท จับกุมได้ที่ศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์ สถานที่นัดจ่ายเงินอยู่ห่างจากสำนักงานเทศบาลเมืองบางแก้วประมาณ 3 กม. ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการจากนั้นเจ้าหน้าที่นำหมายศาลเข้าตรวจค้นสถานที่ 4 จุด ประกอบด้วย ร้าน Apple loft ภายในศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์ เป็นสำนักงานส่วนตัวของนายณัฐพงศ์ บ้านภรรยา 2 หลัง ในพื้นที่ ต.บางแก้ว และห้องทำงานนายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว สำนักงานเทศบาลเมืองบางแก้ว เพื่อหาหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องในคดีทั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการในพื้นที่ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารของเทศบาลเมืองบางแก้ว มีพฤติกรรมเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการจำนวนร้อยละ 25 ของวงเงินตามสัญญา แลกกับหนังสือคู่สัญญาที่นายกเทศมนตรีจะต้องเป็นผู้ลงนามอนุมัติในโครงการจัดซื้อจอแอลอีดีมูลค่าตามสัญญาที่หักภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว 12,485,046.27 บาท ต่อมาบริษัทผู้เสียหายได้เข้ายื่นเสนอราคาแข่งขันในระบบ e-bidding จนมีการแจ้งผลการแข่งขันราคาเมื่อวันที่ 30 ส.ค. และเป็นผู้ชนะการเสนอราคาดังกล่าว จากนั้นปรากฏว่าถูกผู้บริหารของเทศบาลเมืองบางแก้วเรียกเข้าไปพูดคุยเจรจาขอเงินค่าหนังสือคู่สัญญาที่นายกเทศมนตรีจะต้องเป็นผู้ลงนาม จำนวนร้อยละ 25 ของวงเงินตามสัญญา แบ่งจ่ายครึ่งหนึ่งก่อนคิดเป็นเงิน 1,560,630.84 บาท นัดจ่ายในวันนี้ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนัดจ่ายหลังส่งมอบงานกันแล้ว บริษัทผู้เสียหายเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความตำรวจ บก.ปปป.จากการสืบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอเชื่อได้ว่านายณัฐพงศ์มีพฤติการณ์ร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินตามที่ผู้เสียหายมาร้องทุกข์จริง ประกอบกับมีข้อมูลว่าเคยมีพฤติกรรมเรียกรับเงินในลักษณะเดียวกันกับผู้ประกอบการอื่นมาแล้วหลายราย ตำรวจ บก.ปปป.จึงประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. วางแผนเข้าจับกุมขณะส่งมอบเงินกัน ให้ผู้เสียหายนำเงินสด 1,560,650 บาท มาถ่ายเอกสารและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใช้ในการส่งมอบให้นายณัฐพงศ์ตามที่มีการเจรจากันก่อนหน้านี้กระทั่งถึงเวลานัดหมายให้บริษัทผู้เสียหายนำเงินใส่ซองกระดาษใส่ในถุงดำ ไปส่งมอบให้นายณัฐพงศ์ที่สำนักงานส่วนตัวภายในร้าน Apple loft ศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์ มีกำลังเจ้าหน้าที่ซุ่มเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ หลังรับถุงเงินนายณัฐพงศ์เดินออกมาหน้าร้าน เจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุมเกิดไหวตัวรีบวิ่งไปที่รถโตโยต้าอัลพาร์ดของตัวเองแล้วโยนถุงเงินทิ้งข้างรถ แต่ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวไว้ได้ทันควันพร้อมเงินของกลาง เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ เจ้าตัวให้การปฏิเสธจาก นั้นนำไปตรวจค้นห้องทำงานและสถานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสวนสวน บก.ปปป.ดำเนินคดีต่อไป
