ผู้นำโลกและตัวแทนประเทศกว่า 140 ชาติ มุ่งหน้าสู่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UNGA) ครั้งที่ 78 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 ก.ย. ภายใต้หัวข้อ “ฟื้นฟูความเชื่อใจและจุดประกายความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของโลก” พร้อมหวังผลักดันเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2576 เพื่อมุ่งสู่สันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้า และความยั่งยืนเพื่อทุกคนทั้งนี้ ผู้นำประเทศหรือตัวแทนประเทศ มีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. โดยจะเริ่มจากบราซิลเป็นชาติแรก ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของการประชุมสมัชชาใหญ่มาตั้งแต่ปี 2490 หลังจากการประชุมใหญ่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวแทนบราซิลที่เห็นผู้นำโลก ต่างลังเลที่จะประเดิมพูดบนเวทีสหประชาชาติ ได้ขออาสาขึ้นกล่าวเป็นประเทศแรกต่อที่ประชุมขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศประเมินว่า นายลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล มีกำหนดเปิด เวทีด้วยจุดยืนการรับมือปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ตามด้วยนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในฐานะเจ้าภาพ ที่แสดงจุดยืนบทบาทผู้นำโลก ส่วนนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน มีกำหนดขึ้นกล่าวเป็นผู้นำลำดับที่ 12 ทั้งยังมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ (UNSC) ในวันที่ 20 ก.ย. ซึ่งจะทำให้นายเซเลนสกีนั่งร่วมโต๊ะเดียวกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ที่มาร่วมการประชุมในฐานะตัวแทนของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียด้านสำนักข่าวบีบีซีอังกฤษรายงานด้วยว่า การประชุมครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดทั่วโลก ไม่ว่าจากประเด็นสงครามยูเครน-รัสเซีย วิกฤติค่าครองชีพ ภัยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ไปจนถึงการใช้ชีวิตที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ อย่างระบบปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ แต่สิ่งที่สะท้อนให้เห็นคือบรรดาผู้นำโลกขาดความเป็นเอกภาพอย่างหนัก ซึ่งกรณีนี้นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ มองว่า ชาวโลกต่างคาดหวังว่า บรรดาผู้นำจะพาเราออกจากความเละเทะในตอนนี้ แต่ความแตกแยกทางการเมืองกำลังบั่นทอนความพยายามหาทางออกจากสถานการณ์อันเลวร้าย ดูอย่างเรื่องยูเครน เป็นต้น ที่ทำให้สหประชาชาติต้องจัดการประชุมแยกออกมาอีกเวที เพื่อไม่ให้ทับกับการประชุมแก้ความยากจนและการรับมือโลกร้อน.