จากการที่ประเทศไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นอันดับที่ 19 ของโลก โดยมีที่มาจากภาคเกษตรกรรมถึง 15% สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการเผาในที่โล่ง ไม่เพียงส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน แต่ยังส่งผลกระทบกับสุขภาพ จากฝุ่น PM 2.5ด้วยเหตุนี้ สยามคูโบต้า จึงได้ดำเนินกิจกรรมโซลูชันเกษตรปลอดการเผามาตั้งแต่ปี 2559 เพื่อรณรงค์และพัฒนากระบวนการผลิตโดยวิธีการทำเกษตรปลอดการเผา สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่วัสดุเหลือใช้หลังการเก็บเกี่ยว เช่น ฟางข้าว ตอซังข้าว และใบอ้อย ด้วยการนำเอานวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรและองค์ความรู้ด้านการเกษตร ภายใต้องค์ความรู้ KUBOTA (Agri) Solutions เกษตรครบวงจร มาปรับใช้ล่าสุด สยามคูโบต้าลงนามบันทึกความเข้าใจกับจังหวัดหนองคายร่วมมือกันทำโครงการ KUBOTA Net Zero Emission เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของโครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) และสร้าง “หนองคาย เมืองต้นแบบปลอดการเผาสู่ Net Zero Emission”เนื่องจากหนองคายมีพื้นที่เกษตรกรรม 1,226,524 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 64 ของพื้นที่ทั้งหมด และในปี 2566 พบว่า มีจุดความร้อนจากการเผา 912 จุด เป็นจุดความร้อนภาคเกษตร 590 จุด และจุดความร้อนในเขตพื้นที่ป่า 322 จุดจะเห็นได้ว่า เกษตรกรยังมีการเผาตอซังข้าวและเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อความสะดวกในการไถ เพราะหากไม่เผาการไถกลบทำได้ยากและมีค่าจ้างสูงกว่า อีกทั้งเกษตรกรมีเครื่องมือเครื่องจักรกลการเกษตรในการเตรียมแปลงเพาะปลูกไม่เพียงพอ เพราะส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย ที่ยังขาดความเข้าใจถึงผลกระทบจากการเผาที่มีผลให้เกิดภาวะโลกร้อนด้วย การลงนามร่วมกันครั้งนี้สยามคูโบต้าจึงได้นำนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรและองค์ความรู้ด้านการเกษตรมาปรับใช้ เพื่อการทำการเกษตรลดโลกร้อนนอกจากนี้ ในปี 2566 สยามคูโบต้าเตรียมที่จะขยายพื้นที่ความร่วมมือของโครงการเมืองต้นแบบปลอดการเผาสู่ Net Zero Emission เพิ่มอีก 2 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว และหนองบัวลำภู เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50% ภายในปี 2573.สะ-เล-เตคลิกอ่านคอลัมน์ "หน้ามองฟ้า เท้าหยั่งดิน" เพิ่มเติม