สายพันธุ์อะโวคาโดที่เรารู้จัก พันธุ์แฮสจะครองตลาด ตามมาด้วยพันธุ์บัคคาเนีย, ปีเตอร์สัน, บูธ7, ปีเตอร์แฮส แต่ละสายพันธุ์แม้จะมีความแตกต่างกันในเชิงพื้นที่ปลูก รสชาติ แต่ที่เหมือนกันคือคุณประโยชน์ที่มีมหาศาลและมีเมล็ด“เดิมทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ จนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เริ่มเบื่อที่จะทำตามคำสั่งใคร จึงลาออกจากมนุษย์เงินเดือนมาเป็นเจ้านายตัวเอง แปลงพื้นที่บ้านตัวเองใน จ.พิษณุโลก เป็นสวนไม้ผลหลากหลายชนิด โดยเฉพาะไม้นำเข้าที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก อะโวคาโดไร้เมล็ดเป็นหนึ่งในนั้น นำความรู้และประสบการณ์ที่มีด้านคอมพิวเตอร์และโปรแกรม มาประยุกต์ใช้กับการเกษตร โดยเฉพาะการรวบรวมข้อมูลสถิติต่างๆ มาไว้เป็นฐานข้อมูล ให้สามารถสืบย้อนหลังได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่การดูแลรักษาไม้พันธุ์ต่างๆ การขยายพันธุ์ ไปจนถึงรู้ว่าลูกค้าเป็นใคร” เฉลิมชัย โหบาง เจ้าของสวนซีเคร็ทฟาร์ม (Secret Farm) 113/4 ม.3 ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เล่าถึงที่มาของอะโวคาโดไร้เมล็ด...เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เริ่มนำเข้าอะโวคาโดไร้เมล็ดมาจากเวียดนาม ถือเป็นเจ้าแรกที่นำเข้ามา และมีการศึกษาสายพันธุ์และเพาะขยายพันธุ์อย่างจริงจัง ถัดมา 3 ปี เริ่มให้ผลผลิตรุ่นแรกได้ผลผลิตเป็นอะโวคาโดผลยาว หนักประมาณ 3 ลูก/กก. ผิวเรียบ เปลือกบางกว่าอะโวคาโดทั่วไป ทำให้ปอกง่าย ลูกดก หากดูแลบำรุงรักษาดี อายุ 4 ปีขึ้นไป ให้ลูกดกถึงต้นละกว่า 100 กก.สำหรับข้อดีของอะโวคาโดพันธุ์นี้คือ ไม่มีเมล็ด ทำให้เมื่อปอกเปลือกแล้ว จะได้บริโภคเนื้อเต็มๆ ไม่ต้องคอยเอาเมล็ดออก ส่วนรสสัมผัส เนื้อเหนียวหนึบ ไม่มีเสี้ยนในเนื้อ รสชาติมันติดหวานนิดๆ สุกแล้วเนื้อไม่แฉะ สีไม่เปลี่ยนเมื่อโดนอากาศเหมือนอะโวคาโดทั่วไป ที่สำคัญปลูกได้ทุกพื้นที่ในบ้านเรา ปลูกได้ทั้งกระถางและลงดิน และสามารถดูลูกสุกพร้อมเก็บได้ง่าย เพราะเมื่ออ่อนจะมีสีเขียว กระทั่งสุกจึงมีสีม่วงแดง คล้ายกับการดูผลสุกมังคุด ต่างจากสายพันธุ์อื่นที่ดูผลพร้อมเก็บได้ค่อนข้างยาก ด้านการดูแลบำรุงรักษาแทบไม่ต่างจากอะโวคาโดสายพันธุ์อื่น โรคแมลงไม่ค่อยรบกวน รดน้ำวันละครั้ง ถ้าเป็นสปริงเกอร์ให้เปิดครั้งละ 40–60 นาที และต้องหมั่นใส่ปุ๋ยให้ถึง โดย เฉพาะช่วงให้ผล โดยช่วงปกติใส่ปุ๋ยสูตรเสมอเดือนละครั้ง แต่เมื่อถึงช่วงเดือนกันยายน จะถือเป็นช่วงสะสมอาหารพร้อมออกดอก ช่วงนี้ให้เปลี่ยนปุ๋ยเป็นสูตร 2–24–24 เดือนละครั้งเช่นกัน จนเดือนกุมภาพันธ์–มีนาคม จะเริ่มติดดอก เปลี่ยนสูตรปุ๋ยเป็นปุ๋ยขยายผลสูตร 10–5–20 เดือนละครั้ง จนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตช่วงเดือนสิงหาคม เสริมด้วยปุ๋ยทางใบ เมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว ก็ตัดแต่งกิ่ง ทรงพุ่ม ไม่ให้เกะกะมากเกินไป แล้วเปลี่ยนกลับมาใช้ปุ๋ยสูตรเสมอเหมือนเดิมปัจจุบันอะโวคาโดไร้เมล็ดที่เฉลิมชัยปลูกไว้ราว 10 ไร่ ออกตลาดเมื่อไร มีคนสั่งจองตลอด เรียกว่า “ทำเท่าไร ไม่พอขาย” สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 08-8791-9699. กรวัฒน์ วีนิลคลิกอ่าน "ข่าวเกษตร" เพิ่มเติม