ตรงกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!! นักแสดงสาว “แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์” ถูกใจสุดๆหลังได้รับบท “แพรว” สาวสายมูเตลูตัวแม่ที่ตรงกับชีวิตจริงสุดๆ ประกบคู่พระเอกคู่ใจ “ลี-ฐานัฐพ์ โล่ห์คุณสมบัติ” ในหนังโรแมนติกคอมเมดี้สายมูเรื่อง “สมพรปาก Wish Me Luck” โปรเจกต์ออริจินอลฟิล์มของ “ทรูไอดี” เป็นการร่วมสร้างระหว่าง ทรูไอดี กับ ซัน แอนด์ มูน พร้อมพรีเมียร์ฉายวันที่ 27 ก.ค.นี้ ผ่านแพ็กเกจทรูไอดีพลัส งานนี้ “แพรวา” เล่าเรื่องราวความเป็นตัวแม่สายมู รวมทั้งเปิดใจครั้งแรก ถึงความรักครั้งล่าสุด ที่ได้มาตรงกับที่ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ต้องจบลงแล้ว เริ่มจาก... “เรื่องนี้อ่านบทแล้วเห็นตัวเอง บทนี้ใกล้เคียงกับหนูเป็นชีวิตที่ใช้ความสามารถระดับนึงที่เหลือพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ยิ้ม) ในเรื่องจาก คนไม่เชื่อแต่มีเหตุ ทำเราเชื่อเรื่องการมูเตลู แล้ววันหนึ่งเราได้ยันต์ศักดิ์สิทธิ์มา เป็นยันต์ที่พูดอะไรก็สมพรปาก ทำให้หลายอย่างมากมายเลยเกิดขึ้นในเรื่อง มีทั้งความสัมพันธ์ของแฟน เพื่อน แม่ ในกองนี้ทุกคนเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างเลยพร้อมใจกัน เป็นจังหวะที่พอดีมากๆ เรื่องนี้หนูชอบมาก ขอเรียกว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของหนู ถ้าจะแนะนำใครดูผลงานของหนู หนูจะแนะนำให้เค้าดูเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องที่หนูชอบมาก มันมีความสุขทั้งตอนทำงานทั้งหมด ไม่ว่าหนูโตไปกี่ปี ก็อยากให้กลับมาดู เรื่องนี้ และดีใจที่พระเอกเป็นพี่ลี-ฐานัฐพ์ ด้วยนะ ที่เราสนิทกันมากอยู่แล้วเลยเล่นได้ซิงก์กันขนาดนี้”ชีวิตจริงมูหนักแค่ไหน?“ก็มูเยอะอยู่นะคะ ทุกวันเวลามีเรื่องกลุ้มใจถ้าพูดกับเพื่อนไม่ได้ก็ไปคุยกับห้องพระ ส่วนเรื่องขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอมาเยอะนะ บน ถวาย ไม่ได้ก็ได้ทุกครั้ง บางครั้งก็เป็นจังหวะที่บุญสะสมพอ”ล่าสุดเรื่องความรัก ว่าไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วได้เจอหนุ่มตรงกับที่ขอทุกอย่าง หลังจากนั้นมีคนมาถามเราเยอะมั้ย?“มีคนมาถามเยอะนะ จริงๆก็ขอหลายเรื่องในชีวิต อย่างเรื่องงานไม่ได้ขอให้ได้งานเท่าๆนี้ แต่ได้งานมาแล้วจะขอให้งานราบรื่นมากกว่า แต่หนูมองว่าเราต้องไปขอด้วยใจบริสุทธิ์จริงๆ ส่วนเรื่องความรักตอนนั้นก็ได้มาก็ตรงตามที่ขอแต่ตอนนี้เราจบกันแล้วค่ะ เหมือนเรามองอนาคตไม่ตรงกัน เราก็ขอไปแต่อาจจะขอไม่ละเอียดพอ ถ้าตอนนี้ถามว่าอยากขอพรเรื่องความรัก อีกมั้ย หนูคงไม่อยากขออีกแล้ว หนูรู้สึกว่าพอมันเป็นเรื่องการมองอนาคตไม่ตรงกันมันเลยยาก มันไม่ได้เลิกกันเพราะเราไม่รักกันเลยทำใจได้ยาก”เราคบกันแบบโตแล้ว?“หนูคบใครหนูมองอนาคต ทุกคน พออนาคตมันไม่ตรงกัน ถ้าในอนาคตของ เค้าและเรามันไม่ได้มีกันและกันมันก็ยาก เพราะแพชชันของหนู เรื่องงานมันสำคัญสำหรับหนู เค้าก็งานสำคัญเหมือนกัน หนูยังมีไฟในการทำงานและมีอีกหลายอย่าง เอาจริงๆในเรื่องสมพรปากก็มีเหตุการณ์อะไรคล้ายแบบนี้จริงๆ ว่าการไม่ได้มองภาพเดียวกันมันก็ค่อนข้างยาก หนูรู้สึกว่าถ้าหนูไม่ได้แสดงเรื่องสมพรปากเรื่องนี้ และหนูไม่ได้ใช้ชีวิตเป็นนักแสดงและเรียนรู้ชีวิตของคนอื่นเยอะขนาดนี้ หนูคงไม่มีประสบการณ์ชีวิตเยอะขนาดนี้ หนูต้องขอบคุณตัวละครแพรวกับปรีดีที่ทำให้หนูได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะ” ถ้าวันนึงต่างคนต่างโตกว่านี้ก็มีโอกาสกลับมาคุยกัน?“ค่ะ วันนึงเราก็อาจจะกลับมาเจอกันก็ได้”กลับมามองตัวเองเรื่องความรัก เคยท้อบ้างมั้ย?“ท้อนะ มันก็มีความเหนื่อย แต่หนูก็รู้สึกว่าไม่เป็นไร หนูก็ค้นพบความรักแบบใหม่ที่เป็นการรักตัวเอง มันก็เลยอยู่ได้แบบสบายๆ”มีภูมิคุ้มกันมากขึ้นกับทุกประสบการณ์ชีวิต?“ใช่ค่ะ หนูขอบคุณทุกความรักที่เข้ามาเพราะมันสอนให้หนูได้รู้ชีวิต แต่ถามว่าเจ็บมั้ย โห...เจ็บทุกครั้งเลย หนูว่ายิ่งโตยิ่งเจ็บนะ ตอนเด็กๆเหตุที่คนเลิกกันคือมีคนอื่นหรือเรานิสัยไม่ดี เราทะเลาะกันเยอะ นั่นนี่ แต่พอโตมามันเป็นเรื่องใหม่แล้ว มีแชปเตอร์ใหม่ในการเลิกกัน”เราฮีลตัวเองยังไงบ้าง?“ช่วงที่ผ่านมาหนูไปวัดบ่อยมาก เพราะเพื่อนสนิทคนเดียวที่หนูอยากคุยด้วยคือพลัสเตอร์-พรพิพัฒน์ แล้วเค้าบวช ก็เลยไปตักบาตร ไปถวายเพล นั่งคุย เค้าก็เป็นห่วงเราแต่เราไม่อยากให้เค้าเป็นห่วง เค้าก็จะทักเราว่าวันนี้โยมดูเฟรชขึ้นนะ (ยิ้ม)”ที่ผ่านมาพออกหักก็เยียวยาด้วยการออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ?“ใช่ค่ะ แต่ตอนนี้งานเยอะมันเลยไปไม่ได้ ต่างจังหวัดก็ไปไม่ได้เลยไปวัด ไปเตะบอลก็ไม่ได้เพราะมีงาน เลยต้องหาวิธีการอื่นแทน” เรียกว่า “งาน” ช่วยเยียวยาจิตใจได้ดี?“ดีมากเลยค่ะ หนูชอบนะเวลาอกหักแล้วมีงาน มันจะบังคับให้เราไม่ต้องร้องไห้ตอนกลางวัน เราจะร้องไห้ไม่ได้เพราะเราแต่งหน้าแล้วมันจะลำบากคนอื่นไปด้วย ช่างหน้าต้องมาซับ คนอื่นจะต้องเข้ามาบอกว่าน้องโอเคมั้ย หนูรู้สึกว่าหนูฮึบได้ในการทำงาน เพราะหนูแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ แต่ตอนกลางคืนก็ค่อยว่ากัน”รู้สึกว่าตัวเองแกร่งขึ้นมั้ย?“ไม่เลย หนูว่าหนูแย่กว่าเดิมทุกครั้งที่หนูผิดหวังเรื่องความรัก หนูรู้สึกว่าเฟสของความเสียใจของหนูแย่กว่าเดิมทุกครั้ง แต่หลังจากนั้นมันจะเรียนรู้มากกว่าเดิมทุกครั้ง”ภายนอกคนมองว่าเป็นสาวสตรองร่าเริง?“ใช่ค่ะ อาจจะเป็นข้อเสียหนึ่งคือหนูไม่ชอบแสดงความเสียใจให้ใครเห็น หนูก็เลยจะไม่โพสต์อะไรเศร้าแบบขึ้นจอดำ หนูรู้สึกว่ามันคือความรู้สึกเราเราควรรับผิดชอบเรา ถ้าหนูโพสต์ คนที่ติดตามเค้าก็จะรับพลังความลบไป หนูเลยรู้สึกว่าหนูอยากปล่อยพลังความเศร้ากับคนรอบตัวหนูที่เค้าพร้อมรับ”กลับมาเป็นสาวโสดแซ่บ พร้อมเปิดใจหรือพักยาว?“ถ้าครั้งนี้จะเข้ามา ขอให้ผ่านเพื่อนเช็กให้ก่อนนะคะ เพราะตอนนี้เพื่อนก็ไม่ค่อยไหว เพื่อนก็เหนื่อยกับหนูเหมือนกัน เพราะอกหักทีลำบากเพื่อนทุกคน (ยิ้ม)”.