เมื่อวันที่ 14 ก.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ความแตกแยกไม่เป็นเอกภาพของชาติสมาชิกอาเซียน หลังที่ประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย ที่รับหน้าที่ประธานหมุนเวียนประจำปีนี้ไม่มีแถลงการณ์ร่วมหลังเสร็จสิ้นการประชุมทั้งที่ควรออกมาตั้งแต่วันก่อน ขณะที่ยังไม่แน่ชัดถึงสาเหตุของความล่าช้าดังกล่าว แต่มีรายงานว่าเนื้อหาในประเด็นเมียนมายังเว้นว่าง เนื่องจากยังไม่ลงตัวถึงเนื้อหาและการใช้ภาษาขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังยืนยันว่าจะมีการเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมอย่างแน่นอนที่ผ่านมาตลอดการประชุมอินโดนีเซียเรียกร้องให้ชาติสมาชิกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อร่วมหาแนวทางแก้ไขวิกฤติความรุนแรงที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเมียนมา และผลักดันให้รัฐบาลทหารเมียนมาดำเนินการตามฉันทามติ 5 ประการอย่างจริงจังตามที่ตกลงกันเมื่อปีก่อน เพื่อเปิดโอกาสการเจรจากับทุกฝ่ายอย่างสร้างสรรค์และกลับสู่แนวทางประชาธิปไตยต่อไป ขณะที่การประชุมในสัปดาห์นี้ยังไร้ตัวแทนจากรัฐบาลทหารเมียนมาหลังจากถูกกีดกันโดยอ้างว่าไม่มีความคืบหน้าตามแผนสันติภาพรอยร้าวในความสัมพันธ์ของอาเซียนปรากฏเด่นชัดหลังรัฐบาลไทยเชิญตัวแทนรัฐบาลเมียนมาเข้าร่วมการประชุมอย่างไม่เป็นทางการที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนที่แล้ว โดยให้เหตุผลว่าไทยกับเมียนมามีชายแดนติดกันกว่า 3,000 กม. วิกฤติความรุนแรงในเมียนมาส่งผลกระทบต่อไทยมากกว่าชาติใดทั้งปัญหาผู้ลี้ภัยและการค้า ไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ต้องการเห็นปัญหายุติโดยเร็วที่สุด ขณะที่สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน อินโดนีเซีย กัมพูชาปฏิเสธเข้าร่วมประชุม แต่บางชาติส่งเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ มีเพียงลาวและเวียดนามที่เข้าร่วมพูดคุยวันเดียวกันนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย เรียกร้องให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หันมาฟื้นฟูการค้าขายกับรัสเซีย หลังจากรัสเซียถูกมาตรการคว่ำบาตรอย่างต่อเนื่องนับแต่เริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนเมื่อเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว ส่งผลให้การค้าระหว่างรัสเซียและอาเซียนลดลง 4.4% ขณะเดียวกันยังเสนอให้อาเซียนใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าขายกับรัสเซียแทนดอลลาร์ หลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกนายลาฟรอฟยังตอกย้ำในการให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นอินโดนีเซียว่า รัสเซียพร้อมร่วมมืออย่างจริงจังกับอาเซียนเพื่อส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่น ยังเน้นว่าไม่ได้มีเพียงรัสเซียแต่ยังมีอีกหลายประเทศที่ลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง และรัสเซียขอสนับสนุนอาเซียนใช้เงินสกุลท้องถิ่นเพื่อบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคให้แข็งแกร่งแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น.