ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเพื่อนเกลอ หรือเพื่อนร่วมน้ำสาบาน แบบไทยๆ เท่าเพื่อนร่วมน้ำสาบานแบบจีน เช่นคำสาบานในสวนท้อ สมัยสามก๊ก หรือสาบานแบบอั้งยี่อาจารย์ ปรัชญา ปานเกตุ เขียนเรื่องเพื่อนร่วมน้ำสาบาน ไว้ในหนังสือ “ศัพท์สรรพรรณนา (สถาพรบุ๊คส์ พ.ศ.2565) ว่า คนไทยโบราณเรียกว่าการ “ลงนิ้ว”อ่านบางตอนของ (ศรีทะนนไชยสำนวนกาพย์) คงพอจะเห็นบรรยากาศ“รินเหล้าส่งให้ เพชฌฆาตนายใหญ่ ใส่เหล้าสองอั๊ก เต็มตึงครึ่งโพง พูดโผงพิงพนัก ทะนนไชยคอยพยัก ชักชวนเป็นเกลอ ลงนิ้วสาบาน เจรจาห้าวหาญ โฮกฮากหาวเรอ อวดอ้างทางโกง เสียงโผงพูดเพ้อ ทะนนไชยอ้ายเกลอ มึงอย่ากลัวตาย”ถ้ายังไม่ชัด ลองอ่านฉันท์เยาวพจน์...“ทั้งสององค์ลงนิ้ว จิ๊วจด ชวนสบถเป็นเกลอ เผลอเผล นั่งโงกโยกเย้าเมาเซ จ้ำจี้ชี้เว้ไปตามที”แค่นี้ก็น่าจะพอสังเกตได้ การ“ลงนิ้ว”เพื่อแสดงความเป็นเพื่อนร่วมสาบานนั้น เกิดขึ้นในวงขี้เมาก่อนเมาก็รักกันพอประมาณ เมาได้ที่แล้ว ก็รักกันมากขึ้น การลงนิ้วจึงเกิดขึ้นอาจารย์ปรัชญาค้นเอาเพลงอีแซวของแม่บัวผัน จันทร์ศรี ศิลปินแห่งชาติ ฝ่ายหญิงร้องตอบฝ่ายชายที่มาชวนเข้าป่า ตอนหนึ่งว่าแหม!เป็นหญิงเสียได้ ถ้าเป็นชายนะเหรอ จะลงนิ้วเป็นเกลือกันเข้าไว้ จะลงนิ้วเป็นเกลอ ฉันกลัวจะเสียน้ำเกลือ เพราะยังไม่เคยเห็นน้ำเนื้อหัวใจเมื่อมีเพื่อนเกลอแล้วยังนับญาติต่อ เพื่อนร่วมน้ำสาบานของพ่อ คนโบราณก็เรียก “พ่อเกลอ”เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนตอนหนึ่ง “พระหมื่นศรีผู้กำกับเป็นพ่อเกลอ จึงทูลเสนอให้หนักหนา ชะรอยเอาหัวผีที่ป่าช้า กับเลขยันต์เขียนมาเข้ากราบทูล”แต่ถ้าเป็นเมียของเพื่อนร่วมน้ำสาบาน เขาไม่เรียกแม่เกลอ แต่เรียก “แม่รัก”อักขราภิธานศรับท์ (หมอบรัดเล พิมพ์) อธิบายว่า แม่รัก หญิงสหาย คือหญิงที่เป็นเมียของชายที่เป็นเกลอ เรียกแม่รัก เกลอคือผู้อื่นใช่ญาติ แลสบถสาบานกัน ว่าจะซื่อตรงต่อกัน ไม่ประทุษร้ายแก่กันเลยแม้บรรยากาศการลงนิ้วเป็นเพื่อนเกลอ ส่วนใหญ่อยู่ในวงเหล้า วงขี้เมา แต่กระนั้น ความสัมพันธ์ของเกลอ ก็เชื่อกันนักหนาว่า แนบแน่น มั่นคง บางคู่ตายแทนกันได้ในสมัยก่อนการ “ลงนิ้ว” ผู้ใหญ่คงทำกันจนเป็นตัวอย่างให้เด็ก เสภาขุนช้างขุนแผนพรรณนาถึงเด็กชายสองคน คนหนึ่งรูปหล่อ คนหนึ่งหัวล้าน...ลงนิ้วกันพลายแก้วกินเหล้าเข้าต้ำอึก ขุนช้างวางหงึกจนหัวสั่น ยั่นกูเมาหนักหนาจนตาชัน เทเหล้าใส่ขันชวนเป็นเกลอจึงเอามือพลายแก้วลงจดขัน เราซื่อต่อกันจนตายเหนอ ถ้าใครทรยศคดต่อเกลอ ให้เทพเธอสังหารผลาญชีวันอันดาบองครักษ์ทั้งสี่หมู่ อย่าให้แคล้วคอกูเป็นแม่นมั่น ขอให้พลัดมารดาห้าร้อยกัลป์จิ้มเอาเหล้าในขันขึ้นขวั้นคอ...คำกลอนท้าย...จิ้มเอาเหล้าในขันขึ้นขวั้นคอ...นี่คือการลงนิ้วสาบานแบบเด็กๆ ไม่ถึงขั้นเอามีดกรีดเอาเลือดจากนิ้วจุ่มเหล้า สาบานแล้วดื่มพร้อมๆกันแบบผู้ใหญ่แล้วไง? ขุนช้างขุนแผน เพื่อนร่วมน้ำสาบาน ก็ลืมคำสาบาน...แย่งนางวันทอง เป็นเมียกัน แบบเจ๊กลากไปไทยลากมา...เรื่องก็จบลงตรงความเศร้า“แม่รัก” นางวันทองถูกสั่งประหารอยากนินทา จะเอาอะไรนักหนา กับสาบานคนเมา หรือสาบานแบบเด็กๆ สุดท้ายเมื่อไปกันไม่ได้ ฉีกคำสาบาน ก็บรรลัยไปด้วยกัน...นี่ผมพูดถึงขุนแผนขุนช้างนะครับ...ไม่เกี่ยวกับเรื่องสองพรรคใหญ่ “ลงนิ้วกัน” นะเออ!กิเลน ประลองเชิง