“ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ของประเทศไทยอีกคดีหนึ่งที่ผู้ต้องหามีการวางแผนฆาตกรรมเหยื่อมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปี ใช้การวางยาพิษเพื่อให้เหยื่อเสียชีวิตในลักษณะเหมือนการเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยด้วยภาวะการทำงานของหัวใจล้มเหลว เพื่อมิให้ญาติผู้ตายพบข้อพิรุธสงสัยหวังเอาทรัพย์สินจากเหยื่อหรือเพื่อประโยชน์ล้างหนี้ เป็นข่าวที่อยู่ในความสนใจ คดีนางสรารัตน์ หรือแอม ถูกดำเนินคดีแรก ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไต่ตรองไว้ก่อน”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แถลงคืบหน้าคดี น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ “แอม ไซยาไนด์” ผู้ต้องหาก่อเหตุคดีวางยา ฆาตกรรมเหยื่อเสียชีวิตกว่า 15 คดี พื้นที่ 8 จังหวัดเข้าข่ายฆาตกรรมต่อเนื่องหลังพบ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ เสียชีวิตพื้นที่ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ขยายผลพบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมวางแผน “ฆ่าเหยื่อ” หลายราย หวังทรัพย์สินและปลดหนี้เหยื่อผู้เสียชีวิต ตั้งแต่ปี 2558 ต่อเนื่องถึงปี 2566พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สืบคดีนางสรารัตน์ ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน บช.น. บช.ภ.4 บช.ภ.7 และ บก.ป. หาหลักฐานคดีฆ่าเหยื่อทั้งหมดคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนสรุปเหตุการณ์กระทำผิด นางสรารัตน์ 15 คดี รายที่ 1 น.ส.มณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ รายที่ 2 น.ส.นิตยา แก้วบุบผา รายที่ 3 น.ส.สาวิตรี บุตรศรีรักษ์ รายที่ 4 น.ส.ดาริณี เทพทวี รายที่ 5 นายสุรัตน์ ทรพับ รายที่ 6 ร.ต.อ.หญิง กานดา โตไร่ รายที่ 7 น.ส.รสจรินทร์ นิลน้อย รายที่ 8 นางจันทร์รัตน์ วงศ์ไกรสิน รายที่ 9 นางมณีรัตน์ พจนารถ รายที่ 10 น.ส.กะณิกา ตุลาเดชารัตน์รายที่ 11 น.ส.กานติมา แพสะอาด รายที่ 12 น.ส.ผุสดี สามบุญมี รายที่ 13 นายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ รายที่ 14 พ.ต.ต.หญิง นิภา แสงจันทร์ รายที่ 15 น.ส.ศิริพร ขันวงษ์สำนวนคดีทั้ง 15 คดี สอบปากคำพยาน 900 ปาก เอกสารคดี 26,500 แผ่น ดำเนินคดี นางสรารัตน์ 15 คดี พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามี 1 คดี น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณรวัฒน์ ทนายความ 1 คดีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งให้ขยายผลผู้จัดจำหน่ายสารไซยาไนด์ที่นางสรารัตน์สั่งซื้อ “ออนไลน์” นำไปก่อเหตุ สืบหาผู้ที่จัดจำหน่ายสารอันตรายเพื่อดำเนินคดี เป็นการทำคดีด้วยความทุ่มเทของชุดสืบสวนสอบสวน และตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานด้วยความละเอียดรอบคอบมากที่สุด นำมาสู่การแจ้งความดำเนินคดีผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องเนื่องจากหลายเหตุการณ์ผ่านมาเป็นระยะเวลาหลายปี อาจมีความยากลำบากในการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ จนได้พยานหลักฐานมากเพียงพอสั่งฟ้องดำเนินคดีผู้ต้องหาได้.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th