ตำรวจทางหลวง กก.2 บก.ทล. โชว์จับวันเดียว 2 คดี คดีแรกตำรวจทางหลวงสุพรรณบุรีไล่จับแก๊งรถกระบะขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมา คนขับจวนตัวจอดรถทิ้งหนีไปได้ จับแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 12 คน รับว่าเสียค่านายหน้าคนละ 2-3.5 หมื่นข้ามฝั่งจากเมียวดีมาแม่สอด อีกคดีตำรวจทางหลวงพุนพิน ล็อกหนุ่มม้าส่งยาบ้า จอดรถเปิดไฟฉุกเฉินข้างถนนส่งสัญญาณเครือข่ายที่จะมารับ ชุดจับกุมคิดว่ารถเสียเข้าไปช่วยเหลือ หนุ่มผู้ต้องหาตกใจส่อพิรุธเลยเกม พร้อมยาบ้าเกือบ 4 หมื่นเม็ด ปืนไทยประดิษฐ์อีก 1 กระบอกตำรวจทางหลวง กก.2 บก.ทล.โชว์จับ 2 คดี คดีแรกเป็นผลงานของตำรวจทางหลวงสามชุก สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 4 ก.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล. สั่งการให้ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. ออกตรวจพื้นที่ในความรับผิดชอบ ขณะที่ขับตรวจมาถึงถนนทางหลวง หมายเลข 3496 กม.15 ต.หนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี พบรถกระบะ มิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน ผอ 5741 ชลบุรี มีผ้าใบปิดคลุมท้ายกระบะขับมาด้วยความเร็ว ต้องสงสัยว่าจะขนสิ่งของผิดกฎหมาย ได้ส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบ แต่รถกระบะคันดังกล่าวเร่งความเร็วหลบหนี ก่อนจะไปจอดบริเวณข้างบ้านเลขที่ 60/1 ม.3 ต.บ้านสระ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ก่อนที่คนขับเป็นชายได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนีไปได้ ส่วนที่กระบะท้ายพบชาวเมียนมา 12 คน ไม่มีเอกสารมาแสดง ได้ควบคุมตัวทั้งหมดไว้สอบสวนทั้งหมดให้การว่า มาจากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา นั่งเรือหลบหนีข้ามฝั่งเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ มาที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จากนั้นขึ้นรถกระบะมุ่งหน้าเข้า กทม.เสียค่าใช้จ่ายคนละ 2-3.5 หมื่นบาท ทั้งหมดมีด้วยกัน 3 คัน เป็นรถนำทาง 1 คัน และรถขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน ก่อนจะมาถูกจับกุมไว้ได้ 1 คัน เบื้องต้นแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่ง สภ.สามชุก ดำเนินคดี พร้อมขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องต่อไป อีกคดี เป็นผลงานตำรวจทางหลวงพุนพิน สุราษฎร์ธานี ในช่วงเวลาเดียวกับคดีแรก ร.ต.อ.ป้องเกียรติ สังคหิรัญ รอง สว.ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล. พร้อมพวก จับกุมนายนเรศ ชราลักษณ์ อายุ 31 ปี พร้อมยาบ้า 38,880 เม็ด ปืนไทยประดิษฐ์ ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก กระสุน .380 1 นัด ขณะออกตรวจพื้นที่พบรถยนต์โตโยต้า อแวนซ่า สีขาว ทะเบียน 2กย 3099 กรุงเทพมหานคร จอดเปิดไฟฉุกเฉินอยู่ที่ไหล่ทางด้านซ้าย บริเวณ ทล.41 กม.171+600 หมู่ที่ 3 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะเข้าไปช่วยเหลือเพราะคิดว่ารถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ แต่เมื่อเข้าไปสอบถามพบนายนเรศ คนขับ ท่าทางมีพิรุธ ได้ขอตรวจค้นจนพบของกลางซ่อนอยู่ในลิ้นชักหน้ารถ จึงจับกุมตัวพร้อมของกลางได้ดังกล่าวสอบสวนนายนเรศรับสารภาพได้รับการว่าจ้าง 2 หมื่นบาท จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ราชสีห์แห่งเมืองสุราษฎร์” ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อายุประมาณ 40 ปี ให้ไปรับยาบ้าที่บริเวณสี่แยกยางอุง ต.น้ำพุ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี แล้วให้นำมาวางไว้ในจุดนัดหมายพื้นที่ อ.พุนพิน เมื่อมาถึงได้จอดรถเปิดไฟฉุกเฉินเป็นสัญญาณให้คนที่มารับยาเสพติดทราบ แต่กลับถูกจับกุมได้ นำตัวพร้อมของ กลางส่ง สภ.พุนพิน พร้อมขยายผลหาผู้สั่งการต่อไป