ช่วงนี้โรงเรียนมัธยมที่โด่งดังที่สุดของประเทศไทยคงต้องยกให้ “โรงเรียน” ที่เกิดกรณี “น้องหยก” ไปปีนรั้วข้ามเพื่อประท้วงในหลายๆเรื่องดังที่เป็นข่าวเรื่องราวจะจบอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป เพราะ ณ นาทีที่ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ดูเหมือนเหตุการณ์จะยังไม่จบ เพราะมีข่าวว่า “น้องหยก” ยังคงมา “ปีนรั้ว” เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และอาจจะมา “ปีนต่อ” อีกในวันจันทร์ผมเองยืนข้างผู้บริหารโรงเรียนเต็มที่ว่าที่แล้วมาตัดสินใจได้อย่างถูกต้องแล้ว แต่ด้วยอุปนิสัยประจำตัวของผมที่เป็นคนรักเด็ก และมองว่าเด็กเปรียบเสมือนผ้าขาวผืนหนึ่งที่อาจโดนใครสักคนหนึ่งหรือหลายๆคนสาดสีสาดสิ่งสกปรกต่างๆเข้าใส่ทำให้กระดำกระด่างอภัยให้เด็กได้ก็อภัยเถิด...ในทางกฎหมายก็ว่ากันไปแต่ในทางสังคมผมยังอยากให้มองเด็กในแง่ดีไว้ (แม้ระหว่างดู “ไลฟ์สด” จะรู้สึก “โกรธ” ในพฤติกรรมและวาจาของเด็กคนนี้เพียงใดก็ตาม)อายุของเธอเพียงแค่ 15 ปีเท่านั้น โอกาสปรับตัวปรับความคิดในอนาคตยังมีอีกเยอะครับที่ผมจะเขียนถึง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ในวันนี้เฉพาะที่เกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้นก็คงจะเป็นความเห็นสั้นๆเพียงเท่านี้ขออนุญาตเขียนถึงโรงเรียนนี้ในแง่มุมอื่นดีกว่าในฐานะที่ผมรู้จักโรงเรียนนี้มานานและมีความผูกพันทางใจอยู่พอสมควรตามประวัติที่มีการเผยแพร่ในสื่อมวลชนขณะนี้ ระบุว่าเดิมโรงเรียนนี้ชื่อ “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา 2” ใช้อักษรย่อว่า “ต.อ.2.” เป็นสาขาของ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (ถนนพญาไท) โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2521เท่าที่ผมทราบมาในช่วงก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ออกมาเรียกที่ดินคืนจากสถานศึกษาและสถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น วิทยาลัยก่อสร้างอุเทนถวาย (ขออนุญาตเรียกชื่อเดิมที่คุ้นเคย) และ กรมพลศึกษา (รวมทั้งสนามศุภชลาศัยด้วย) เป็นต้นแม้ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของจุฬาลงกรณ์ฯ เพราะเมื่อแรกก่อตั้งก็คือ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แห่ง จุฬาลงกรณ์ ...ก็มีข่าวว่าจะโดนเรียกคืนด้วยเช่นกันผู้บริหารโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษายุคนั้นจึงเตรียมหาทางหนีทีไล่เอาไว้ หากถูกจุฬาฯเรียกคืนจะได้มีโรงเรียนเป็นของตนเองในที่สุดก็มาได้ที่ดินบริเวณบ้านเอื้อสุข ถนนพัฒนาการ โดยการบริจาคของ “เจ้าสัวอื้อ จือเหลียง” มหาเศรษฐีท่านหนึ่งของประเทศไทยในอดีตโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ จึงได้ชื่อว่ามีความผูกพันกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาใหญ่มากที่สุดก่อนหน้านี้ แม้ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จะออกไปช่วยพัฒนาโรงเรียนต่างๆ เพื่อให้มีมาตรฐานสูงขึ้น แต่ก็ดำเนินการแค่ส่งครูบาอาจารย์ และผู้บริหารไปช่วยเท่านั้น เช่น ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นต้นต่างกับ “เตรียมอุดม 2” หรือ “เตรียมอุดมพัฒนาการ” หรือ “เตรียมพัฒน์” ที่เปรียบเสมือนโรงเรียน “สำรอง” ที่เตรียมอุดมใหญ่จัดตั้งไว้ เพื่อเป็นทางหนีทีไล่ของตนเองหลายปีต่อมาก็มีข่าวว่าโรงเรียนเตรียมพัฒน์ได้ ผอ.ท่านใหม่ ชื่อ ผอ.ลัดดา (เผือกวัฒนะ) ตระหง่าน ซึ่งเป็นภริยาของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย (มนตรี ตระหง่าน) ใน พ.ศ.นั้นท่าน ผอ. ลัดดา เคยเป็นอาจารย์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเก่า และเป็นอาจารย์ประจำชั้น ห้อง 39 ที่ผมเรียน ชั้นเตรียม 1 ตึก 1 จึงมีความผูกพันทางใจกับผม และเพื่อนมาตั้งแต่ พ.ศ.2501 โน่นแล้วจำได้ว่าผมเคยแวะไปกราบอาจารย์ลัดดาที่เตรียมพัฒน์อยู่ครั้งหนึ่ง ก่อนที่ท่านจะย้ายไปเป็น ผอ. โรงเรียนสตรีวิทยาผมถึงได้บอกว่า ผมรู้จักและคุ้นเคยกับ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ อย่างดียิ่งป.ล.ผมยังมีเรื่องราวของเตรียมพัฒน์ต่ออีกวันนะครับ...นั่นก็คือการขยายโอกาสและแบ่งปันการศึกษาที่เป็นเลิศไปสู่โรงเรียนใหม่ๆ และโรงเรียนต่างจังหวัดอีกหลายต่อหลายโรงเรียนเรื่องนี้ “ไทยรัฐออนไลน์” เคยลงไว้แล้ว แต่ผมอยากจะนำมาบันทึกไว้เป็นเกียรติประวัติในคอลัมน์ผมด้วย...พรุ่งนี้มาลุ้นกันนะครับว่า “เตรียมอุดมฯพัฒนาการ” วันนี้มีกี่สาขาทั่วประเทศไทย?“ซูม”