เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. กระทรวงกลาโหมรัสเซียชี้แจงความคืบหน้าสถานการณ์ในจังหวัดซาโปริชเชีย ทางภาคใต้ของยูเครน ที่กองทัพยูเครนอยู่ระหว่างปฏิบัติการบุกตีโต้ครั้งใหญ่ โดยระบุว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หน่วยรบยูเครนประกอบด้วยกองพันทหารราบ 2 กองพัน ได้ทำการเข้าตีอย่างน้อย 2 ระลอก ที่หมู่บ้านมาคารอฟกา ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่สองฝ่ายผลัดกันยึดมาแล้วหลายครั้ง พร้อมกระจายกำลังเข้าตีหมู่บ้านเปรชิสตอฟกาในบริเวณใกล้เคียงกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุต่อไปว่า เบื้องต้นการปะทะในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยูเครนสูญเสียกำลังพลกว่า 800 นาย รถถัง 20 คัน ยานเกราะ 15 คัน รถลำเลียงพล 4 คัน ไม่รวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ กรณีนี้ส่งผลให้ยูเครนสูญเสียกำลังพลโดยรวมไปมากกว่า 7,500 นาย นับตั้งแต่การบุกตีโต้เริ่มขึ้นในวันที่ 4 มิ.ย. โดยยอดดังกล่าวนับเฉพาะทหารในแนวหน้า ไม่รวมทหารที่เสียชีวิตจากการโจมตีระยะไกลหลังแนวรบก่อนหน้านี้ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ยังชี้แจงว่าทหารยูเครนสูญเสียกำลังพลอย่างหนักหน่วงในอัตรา 10 ต่อ 1 หากเทียบกับอัตราสูญเสียของรัสเซีย และทราบว่าการบุกตีโต้ยังทำให้ยูเครนสูญเสียอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ได้รับจากชาติตะวันตกประมาณ 25-30% ขณะที่สื่อความมั่นคงสายยูเครน ไม่ได้รายงานความคืบหน้าเหมือนกับทุกครั้ง แต่ระบุว่ายานเกราะแบรดลีย์จากสหรัฐฯที่ถูกทำลายไปจำนวนมากได้รับของใหม่ทดแทนแล้วขณะที่นายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศปรับแก้แนวคิดเรื่องการจัดตั้งเขตกันชนระหว่างรัสเซียกับยูเครนตามแนวรบปัจจุบัน หากสามารถเจรจาหย่าศึกได้สำเร็จ โดยมองว่าในเมื่อชาติตะวันตกยังคงส่งอาวุธให้ยูเครน แถมมีระยะพิสัยทำการที่ไกลขึ้นจนคุกคามรัสเซีย ก็สมควรที่จะจัดตั้งเขตกันชนแถวเมืองลวิฟ ทางภาคตะวันตกไม่ไกลจากพรมแดนโปแลนด์ ซึ่งคำกล่าวนี้ไม่แน่ชัดว่าหมายถึงการยึดยูเครนทั้งประเทศหรือไม่ ส่วนนายปูตินเคยส่งสัญญาณกับสื่อมวลชนว่า ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องรุกเกิน 4 จังหวัดทางภาคใต้และภาคตะวันออกของยูเครน รวมถึงไม่จำเป็นต้องบุกยึดกรุงเคียฟ แต่ถ้าหากต้องทำก็จำเป็นจะต้องระดมกำลังพลเพิ่มนอกจากนี้ นายเมดเวเดฟยังกล่าวถึงบรรยากาศการรายงานข่าวในชาติตะวันตกที่เริ่มให้น้ำหนักว่ายูเครนเป็นตัวการวางระเบิดท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมไม่ใช่ฝีมือของสหรัฐฯ โดยระบุว่ารัสเซียเริ่มไม่เห็นเหตุผล หรือเหตุผลทางจริยธรรมที่จะมายับยั้งไม่ให้รัสเซียทำลายเคเบิลการสื่อสารใต้ทะเลของศัตรู.