รศ.พญ.นันทนา ศิริทรัพย์ เลขาธิการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) กล่าวว่า กลุ่มคณะแพทย์ได้รับทราบปัญหาแพทย์ลาออกจากระบบมาโดยตลอด ซึ่งแต่ละคณะมีการติดตามการทำงานของบัณฑิตแพทย์ของตนเอง และมีการประชุมหารือกันทุกๆ 7 ปี เพื่อปรับปรุงหลักสูตรและหาแนวทางการปรับปรุงการผลิตเพื่อให้แพทย์ได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การประชุมล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตาม ได้มีการประชุม กสพท. เพื่อเตรียมการประชุมแนวทางการจัดการศึกษาแพทยศาสตร์ในอนาคต โดยจะประชุมกันปี 2567 ในระหว่างนี้เป็นช่วงของการเก็บข้อมูลต่างๆ รวมทั้งปัญหาที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้เกี่ยวกับภาระงานของแพทย์ที่หนักมาก ทำให้แพทย์ส่วนหนึ่งลาออก ซึ่งส่วนหนึ่งพบว่ามาจากค่านิยมของเด็กแต่ละรุ่น ซึ่งเราก็ต้องหาวิธีรับมือกับแนวคิดค่านิยมของเด็กรุ่นใหม่ที่แตกต่างจากคนรุ่นเดิม ว่าจะหาจุดสมดุลได้อย่างไรส่วนข้อเสนอจาก 4 ชมรมด้านการแพทย์และสาธารณสุขเสนอ ผ่าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประสานสถาบันผลิตแพทย์ให้สอนแพทย์ตามหลักสูตร 6 ปี และให้รวมสอนอินเทิร์นแทนกระทรวงสาธารณสุขอีก 1 ปี นั้น รศ.พญ.นันทนากล่าวว่า ทุกฝ่ายสามารถมีข้อเสนอได้ และ กสพท.ก็รับฟังทุกข้อเสนอ แต่การจะปรับหลักสูตรเพิ่มหรือลดระยะเวลาเรียนไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ง่ายๆหรือทำได้เร็ว ซึ่งก็มีสิ่งที่อยากให้พิจารณาด้วยว่า หากให้นิสิตนักศึกษาแพทย์อยู่ในโรงเรียนแพทย์อีก 1 ปี จะทำให้ปีแรกไม่มีแพทย์ไปเติมในระบบทันที 3,000 กว่าคน จะรับ ภาระไหวหรือไม่ และการให้แพทย์เรียน 7 ปี จะได้รับเงินเดือนเท่าไหร่ นักเรียนทุนแพทย์ ซึ่งได้รับทุน 6 ปี ส่วนปีที่ 7 จะได้รับทุนจากที่ไหน รวมทั้งงบประมาณสำหรับการเรียนการสอน อุปกรณ์ของโรงเรียนแพทย์อีก 1 ปี จะได้รับการสนับสนุนจากแหล่งใด เป็นต้น ทุกเรื่องจะเกี่ยวพันกันทั้งหมด ซึ่งก็ต้องมาหารือกันเพื่อช่วยกันหาทางออกกันต่อไป“วิชาชีพแพทย์เป็นที่คาดหวังสูงของผู้ป่วย ญาติ และสังคมไทย ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทุกฝ่ายในวงการแพทย์ไม่ได้อยู่นิ่ง เรารับรู้ปัญหาโดยตลอด ถ้าเราหยุดนิ่ง คงรักษาโรคยากๆ ไม่ได้ ก็ขอให้วางไว้ ถ้าวางใจว่าแพทย์รักษาโรคยากๆ ได้ขอให้วางใจว่าแพทย์ก็ดูแลหลักสูตรแพทย์ การผลิตแพทย์รุ่นใหม่ ไม่ต่างจากการดูแลคนไข้เช่นกัน” รศ.พญ.นันทนากล่าว.