หลายเรื่อง ในศิลปวัฒนธรรม ฉบับเมษายน 2566 นับแต่ ตามรอยระเด่นลันได เครื่องทองเจ้าสามพระยา ฯลฯ ผมอ่านมาจนถึง เรื่องสาลิกาลิ้นทองคุณบุญเลิศ คชายุทธเดช เขียนให้รู้จักศรคีรี ศรีประจวบ มากกว่าที่เคยรู้จักมาก่อน นี่คือนักร้องลูกทุ่ง ที่ร้องเพลง น้ำท่วม เพลงมนต์รักแม่กลอง เพลงคิดถึงพี่ไหม หนาวลมที่เรณู ฯลฯโด่งดังมาตั้งแต่ปี 2512เล่ากันว่า ทุกครั้งที่ศรคีรีร้องเพลง พูดกับใคร หรือหัวเราะ นอกจากจะไม่อ้าปาก บางครั้งยังเอามือปิดปากรู้ๆกัน ศรคีรีสักยันต์สาลิกาเอาไว้ที่ฟัน ฝีมืออาจารย์สักชื่อ รื่น นิลแนบแก้ว บ้านอยู่แถวบางใหญ่ ต.กระดังงา ใกล้ๆตำบลบางกระบือ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม บ้านเกิดศรคีรีเองศรคีรีเกิดปี 2478 ตอนหนุ่มๆขึ้นตาลมะพร้าว เวลาปีนถึงยอด...เขาร้องเพลง คำรณ สัมบุญณานนท์ เช่น เสือสำนึกบาป ฯลฯ ดังๆ จนเพื่อนๆเรียกไอ้บ้าเพลงบวชเรียนหนึ่งพรรษา สึกออกมาไปซื้อที่ปราณบุรี ทำไร่สับปะรด รวบรวมเพื่อนฝูงตั้งวงดนตรี รวมดาวเมืองปราณ ผู้ว่าฯประจวบเคยมาดูชอบใจ ตั้งชื่อให้ใหม่ จากศรชัย ทองประสงค์เป็นศรคีรี ศรีประจวบร้องเพลงเรื่อยมา จนเป็นนักร้องเพลงดัง เวลาพูดจากับใคร ก็ไม่ค่อยยิ้ม เริ่มมีคนตั้งข้อสงสัย ศรคีรีร้องเพลงดี ได้ครูเพลงดีหรือเพราะศรคีรี “มีของ”หนึ่งแรงขลัง ก็คือ ศรคีรีสักยันต์สาลิกาที่ฟัน เขาเชื่อว่า จะช่วยให้มีเสียงไพเราะ แว่วหวานเหมือนนกสาลิกาสาลิกาเป็นนกในวงศ์นกเอี้ยงนกกิ้งโครง ตัวสีน้ำตาล หัวและคอดำ ปากและขอบตาสีเหลือง เวลากู่หาคู่เสียงไพเราะจับใจ เป็นจังหวะจะโคนอาจารย์ผู้ทำสาลิกา ถ้าเป็นฆราวาส นิยมทำไปทางเสน่ห์แต่ถ้าเป็นพระ นิยมทำให้ดีทางเมตตามหานิยมสาลิกาทั่วไป อาจารย์มักสักเปล่าๆที่ปลายลิ้น ไม่ต้องลงหมึก นี่คือที่มาของชื่อสาลิกาลิ้นทอง แต่บางอาจารย์ เช่นที่อาจารย์รื่น สักให้ศรคีรี ลงยันต์ด้วยเหล็กแหลมลงหมึกที่ฟันนี่กระมัง ศรคีรีไม่อยากให้ใครทัก “ฟันดำ” จึงมักปิดปาก หรือไม่ค่อยยิ้มให้ใครเห็นพิธีสักยันต์สาลิกา ทำกันในป่าช้า ตั้งศาลเพียงตาบวงสรวงเทวดากั้นสายสิญจน์ เอาโลงผีตายโหงมาไว้ในวงพิธี เริ่มพิธีอาจารย์และศิษย์จะต้องนั่งในโลงผีด้วยกัน หันหน้าเข้าหากันอาจารย์บริกรรมคาถา จนกระทั่งนกสาลิกาบินมาจับที่ขอบโลงผีนี่คือฤกษ์ สักอักขระที่ฟัน อาจารย์สักไปบริกรรมสำทับไป จนนกสาลิกาบินจากไป เป็นอันว่าเสร็จพิธีความขลังของยันต์สาลิกานี้หรือไม่ ก็ไม่รู้ ระหว่างปี 2512 ถึง 2514 ที่ศรคีรีดัง คิวจองไม่ว่าง เปิดวิกที่ไหน แฟนๆแย่งกันซื้อบัตร จนหลายครั้งคนเบียดกันถึงระดับที่ลือกันว่าวิกแตกรุ่งสาง 30 ม.ค.2515 เที่ยวกลับจากเดินสาย รถยนต์ที่ศรคีรีนั่งมากับเพื่อน ถูกรถบรรทุกไม้ซุงชน...เขาตาย ระหว่าง กม.448-449 ถนนพหลโยธิน อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ตัวตาย แต่ชื่อศรคีรียังไม่ตายถึงวันนี้ เสียงเพลงของเขา ยังเจื้อยแจ้วแว่วหวาน จับใจผู้คนอ่านเรื่องสาลิกาลิ้นทองของศรคีรีจบ ผมนึกถึงนักการเมืองใหญ่... ท่านคงไม่ได้ไปสักสาลิกาลิ้นทอง เวลาพูดจาหาเสียง ชาวบ้านฟังแล้วจึงไม่ปักใจเชื่อก็แค่ เรื่องแจกเงินหมื่น...ตั้งแต่คุยมา จนวันนี้ ยังวิจารณ์กันไม่จบจะไปหาเงินห้าแสนล้านมาจากไหน ถ้าหาไม่ได้ต้องไปกู้ ก็เสียยี่ห้อ แล้วก็เรื่องสำคัญ ที่ครูบาอาจารย์เขาเป็นห่วงกันมาก ก็คือ ไม่เพียงทำให้ชาวบ้านเสียนิสัย จะทำให้ระบบการเงินพัง.กิเลน ประลองเชิง