ภาพของหนุ่มสาวชาวภารตะกับการตั้งท้องของฝ่ายที่มีสรีระคล้ายเพศชาย ซึ่งกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก ไม่ใช่เพียงเพราะภาพที่ฝ่ายชายเป็นผู้ตั้งท้องเท่านั้น แต่เพราะทั้งสองคือ...คู่รักข้ามเพศ คู่แรกของอินเดียที่กล้าท้าทายจารีตนิยมแบบสุดขั้วในดินแดนภารตะแม้การยอมรับคนข้ามเพศ และกลุ่ม LGBTQ ของอินเดียจะได้รับการปลดแอกไปเมื่อประมาณ 9 ปีก่อน เมื่อศาลฎีกาอินเดียมีคำตัดสินยอมรับคนข้ามเพศเป็นเพศที่สามด้วยเหตุผลทางด้านสิทธิมนุษยชน ในปี 2014 แต่ในทางปฏิบัติ พวกเขาก็ยังถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่แปลกแยกจากประชากรทั่วไปในอินเดีย ซึ่งถือเป็นประเทศต้นกำเนิดอารยธรรมโลกอันเก่าแก่ที่ยังคงไว้ซึ่งจารีตประเพณีอันแข็งแกร่ง ซียา พาวาล วัย 21 ปี ถือกำเนิดในฐานะผู้ชาย กลายเป็นผู้หญิงในเวลานี้ เธอใช้ชีวิตร่วมกับ ซาฮัด วัย 23 ปี ที่ถือกำเนิดในฐานะผู้หญิง แต่ขณะนี้ระบุตัวเองว่าเป็นผู้ชายทั้งสองให้สัมภาษณ์ว่า อยากมีลูกมาโดยตลอด แม้จะต้องบำบัดฮอร์โมนเพื่อเปลี่ยนแปลงเพศของตนเอง แต่ในที่สุดเพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า ทั้งคู่ตัดสินใจหยุดการบำบัดด้วยฮอร์โมนชั่วคราวเพื่อมีลูกซาฮัด ซึ่งมีเพศสภาพเดิมเป็นหญิง ทำให้ยังมีทั้งรังไข่และมดลูก ที่ทำให้สามารถตั้งท้องได้และล่าสุด ซาฮัดได้ให้กำเนิดทารกน้อยแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่รัฐเกรละ ทางตอนใต้ของอินเดียหลังมีการโพสต์รูปภาพการตั้งครรภ์ มีข้อความแสดงความยินดีกับทั้งคู่หลั่งไหลเข้าไปที่สื่อสังคมออนไลน์ของพวกเขาอย่างล้นหลามทั้ง พาวาล และ ซาฮัด ยอมรับว่า แม้เรื่องราวของพวกเขาจะได้รับการกล่าวถึงอย่างมากมายในโลกออนไลน์ที่แพร่หลายไปทั่วโลก แต่สำหรับในอินเดียการเป็นคนข้ามเพศก็ยังเป็นความแปลกแยกที่ต้องใช้เวลาอีกนานในการปรับทัศนคติของผู้คนในประเทศที่เต็มไปด้วยจารีตประเพณีอันเก่าแก่เช่นนี้ มีหลายคอมเมนต์ที่สงสัยว่า เมื่อทารกโตขึ้นเขาจะเรียกใครว่าพ่อ และเรียกใครว่าแม่ พาวาล และ ซาฮัด บอกว่าในสังคมของคนข้ามเพศ ไม่มีใครสามารถเรียกตัวเองว่าพ่อแม่ได้หรอกการคลอดทารกน้อยของซาฮัดเร็วกว่าที่กำหนดไว้ราว 1 เดือน แต่ทารกก็ปลอดภัยดี และที่สำคัญ ความฝันของพวกเขาที่ต้องการมีลูกได้กลายเป็นความจริงพาวาล และ ซาฮัด พบกันเมื่อ 3 ปีก่อน โดยทั้งคู่ต่างก็ห่างเหินจากครอบครัวของพวกเขา เพียงเพราะเพศสภาพที่พวกเขาเลือก“ฉันมาจากครอบครัวมุสลิมหัวโบราณที่ไม่เคยอนุญาตให้ฉันเรียนนาฏศิลป์อินเดียแบบดั้งเดิม พ่อแม่ของฉันหัวโบราณมากจนถึงขั้นที่พวกเขาเคยตัดผมเพื่อไม่ให้ฉันไปเต้นระบำ” พาวาลเล่าถึงชีวิตของเธอและนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอออกจากบ้านเพื่อเข้าร่วมเทศกาลของกลุ่มเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ และไม่เคยกลับไปบ้านอีกเลย เธอเรียนเต้นระบำที่ศูนย์ชุมชนคนข้ามเพศ และตอนนี้ เธอเป็นผู้สอนให้นักเรียนในเขตโคชิโคด ส่วน ซาฮัด เป็นนักบัญชี เขามาจากครอบครัวชาวคริสเตียนที่เป็นชุมชนชาวประมงในเมืองธีรุวนันทปุรัม และปัจจุบัน เขาทำงานที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ซาฮัด ออกจากครอบครัวหลังเปิดเผยตนเองว่าเป็นคนข้ามเพศ แต่หลังจากที่ตั้งครรภ์ ครอบครัวของเขาก็ยอมรับและให้การสนับสนุนพวกเขาทั้งคู่พาวาล เล่าว่า แม่ของซาฮัดเป็นคนขอให้ทั้งคู่อย่าเปิดเผยการตั้งครรภ์ต่อสาธารณะ ขณะที่ครอบครัวของซาฮัด ให้ความช่วยเหลือทุกอย่างระหว่างตั้งครรภ์ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะมีลูกเมื่อประมาณปีครึ่งก่อนหน้านี้ ขณะที่อยู่ในขั้นตอนของการข้ามเพศที่ต่างกัน โดยรังไข่และมดลูกของซาฮัดยังไม่ถูกเอาออก ทั้งคู่ตกลงที่จะหยุดการรักษาด้วยฮอร์โมนตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อเตรียมพร้อมในการมีลูก อย่างไรก็ตาม นพ.มาเนช ดีเอ็ม ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อในเมืองบังกาลอร์ ผู้ซึ่งทำงานร่วมกับคนข้ามเพศ บอกว่า เมื่อการตั้งครรภ์สิ้นสุดลง พวกเขาสามารถกลับมาบำบัดด้วยฮอร์โมนเพศได้ซาฮัดจะกลับไปทำงานได้ประมาณ 2 เดือนหลังจากที่ให้กำเนิดลูก ขณะที่พาวาลจะรับสอนเต้นระบำให้กับนักเรียนเพิ่มมากขึ้นเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวแม้จะเป็นเรื่องของคนตัวเล็กๆในเมืองเล็กๆแห่งชมพูทวีป แต่การให้กำเนิดทารกของทั้งคู่ครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแสงสว่างในการยอมรับคนข้ามเพศในอินเดีย ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนนานเป็นพันปี.