ถึงเวลานี้...ก็ต้องบอกว่าคดีตำรวจไทยรีดไถเงินนักแสดงและเน็ตไอดอลสาวชาวไต้หวันเป็นข่าวฉาวโฉ่อยู่หลายวันนั้น “น่าจะ” มีมูลความจริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์!!มองในมุมของการท่องเที่ยว ก็ต้องบอกด้วยความสะเทือนใจว่า “ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายป่นปี้ยับเยิน” หน้าแหกจนหมอไม่รับเย็บก่อนหน้านี้เราตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากยิ่ง เนื่องจากไวรัสโควิดอาละวาดไปทั่วโลก แม้แต่ไทยก็ต้อง “ปิดประเทศ”ทั่วทั้งโลกไม่มีการเดินทาง ท้องฟ้าไร้เที่ยวบิน การท่องเที่ยวหยุดชะงัก ธุรกิจการบิน โรงแรมและบริการได้รับหายนะกันทั่วทุกหัวระแหง!!แต่เมื่อวันหนึ่ง...สถานการณ์โควิดเบาบาง โลกทั้งใบกำลังจะกลับมาเหมือนเดิม ธุรกิจท่องเที่ยวไทยเปิดประตูกว้างรับคนต่างชาติไม่อั้นสนามบินคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว เมืองท่องเที่ยวคึกคัก ทุกอย่างกำลังจะไปได้สวยงาม แต่องค์กรตำรวจกลับทำ “ขายขี้หน้า” แทบแทรกแผ่นดินหนีเกียรติยศศักดิ์ศรีสูญสลายในพริบตา เพราะมนุษย์กังฉินกินสินบาทคาดสินบนเพียงไม่กี่คน สามารถทำลายล้างเกียรติภูมิของประเทศ โดนตราหน้าว่าเมืองไทยเหม็นเน่าเพียงชั่วข้ามคืน!!เหล่านายพลสีกากีทั้งหลายจะอับอายหรือไม่ ก็ไม่มีใครรู้...แต่ที่รู้คือคนไทยทั้งแผ่นดินนี้อับอายและอดสูใจครับท่านอ้อ...ขอเตือนไปถึงพิธีกรหญิงรายการหนึ่ง ถ้าไม่ได้ทำการบ้าน หรืองานข่าวเบื้องหน้าไม่แตกฉาน ก็อย่าได้วิพากษ์วิจารณ์คดีนี้เลย คือกับคำพูดที่ว่า...“คดีนี้เราจะเชื่อนักแสดงสาวไต้หวันทั้งหมดไม่ได้ จะต้องให้เกียรติตำรวจไทยบ้าง เพราะถูกกล่าวหาโดยไร้หลักฐาน”ถึงเวลานี้ พยานหลักฐานขนาดนี้ พิธีกรทีวีท่านนี้จะยังยืนยันคำเดิมอีกหรือไม่??สื่อต้องร่วมกันทำความจริง เพื่อช่วยกันกู้ศักดิ์ศรีของชาติ ไม่ใช่ทำตัวเป็นบ่อเกรอะ บ่อกรังเสียเอง!!‘‘แจ๋วริมจอ’’jaewrimjor@gmail.com