อุบัติเหตุสยองรถตู้ชนราวเหล็กไฟลุกท่วมย่างสดผู้โดยสารตายหมู่ 11 ศพคาซากรถ หนุ่มวัย 20 ปีรอดตายปาฏิหาริย์ถีบกระจกประตูรถมุดหนีเปลวเพลิงออกมาได้คนเดียวบาดเจ็บขาถลอกเล็กน้อย ตำรวจยังไม่ฟันธงสาเหตุจากขับเร็ว ประมาท หรือหลับใน พฐ.ตรวจจีพีเอสความเร็วของรถ 82 กม.ต่อ ชม. คาดหลังพุ่งชนราวเหล็กเกิดน้ำมันรั่วมีประกายไฟลุกพึ่บ หนุ่มเฉียดตายเผยนั่งหลับมาตลอดทาง สะดุ้งตื่นตอนได้ยินเสียงรถชนกระแทกครูดราวเหล็กไฟลุกไหม้ในรถเสียงร้องดังระงม เหตุเกิดขึ้นเร็วมากช่วยคนอื่นออกมาไม่ได้เลย สุดช็อกเตรียมบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต น่าเศร้าเหยื่อรถตู้มรณะมีเด็ก 2 คนรวมอยู่ด้วย กู้ภัยเผยจุดเกิดเหตุมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งเพราะจุดกลับรถอยู่บนเนินลาดชัน ช่วงสัปดาห์เดียวมีรถชนการ์ดเรลพลิกคว่ำแล้ว 3 ครั้งรถตู้ชนการ์ดเรลไฟลุกท่วมย่างสดผู้โดยสารตายหมู่ 11 ศพ เปิดเผยเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 21 ม.ค. ร.ต.ท.นันทพงศ์ ดวงแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิฮุก 31 จุดสีคิ้ว ว่า เกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารพลิกคว่ำมีไฟลุกไหม้ในร่องกลางถนนมิตรภาพ กม.ที่ 100 บ้านมอจะบก ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว มีผู้โดยสารติดอยู่ในรถหลายราย รายงานให้ พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผกก. นำกำลังตำรวจ ประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองสีคิ้ว 2 คันไประงับเหตุ ที่เกิดเหตุพบรถตู้โดยสารโตโยต้าคอมมิวเตอร์ สีขาว ทะเบียน 30-0078 อำนาจเจริญ ตะแคงอยู่ในร่องกลางถนนระหว่างการ์ดเรลราวเหล็กริมทางทั้ง 2 ฝั่ง ล้อด้านซ้ายเกยอยู่บนการ์ดเรล มีไฟลุกไหม้รถ เสี้ยวนาทีนั้นมีชายคนหนึ่งทราบชื่อภายหลังนายธนชิต กิ่งแก้ว อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ 6 บ้านดงบัง อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ มุดหน้าต่างประตูด้านข้างกระเสือกกระสนออกมาจากรถไปขอความ ช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย ก่อนที่เปลวไฟจะโหมลุกท่วมรถทั้งคัน เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำสกัดนานร่วม 1 ชม. กระทั่งเพลิงสงบ แต่เผาผลาญรถวอดเป็นเศษเหล็ก หลังเพลิงสงบพบภาพอเนจอนาถของผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกร่างหงิกงอดำเป็นตอตะโก 11 ศพ ติดอยู่ในซากรถตู้ หน่วยกู้ภัยต้องนำเครื่องตัดถ่างมาตัดซากรถช่วยกันนำศพผู้เคราะห์ร้ายออกมาวางเรียงรายริมถนน ก่อนจะลำเลียงส่ง รพ.สีคิ้ว ระหว่างนั้นนายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครราชสีมา เดินทางมาอำนวยการยังที่เกิดเหตุพร้อมสอบถามเรื่องราว แต่เนื่องจากเหตุเกิดในเวลากลางคืนไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ ว่าอุบัติเหตุเกิดจากสาเหตุใดตรวจสอบรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ศพ ประกอบด้วย นายวันชัย เสวาภพ คนขับรถตู้ นางอุทัย อุตราช อายุ 49 ปี ภรรยา ด.ช.กิติเดช สาตะสิน ลูกชายวัย 6 ขวบ นางทองยุ่น แสนโท อายุ 56 ปี น.ส.ทัศวรรณ์ บุญเนาว์ ไม่ทราบอายุ นายรังสรรค์ บุญนันต์ อายุ 53 ปี นางดวงนภา จารุไชย อายุ 41 ปี ด.ญ.พลอยชมพู จารุไชย ลูกสาววัย 7 ขวบ นางสุคนธี สีสันต์ ไม่ทราบอายุ นางศิริพร หนูคำหอม ไม่ทราบอายุ และนายวีระ สุวชัย อายุ 63 ปี นายธนชิต กิ่งแก้ว ผู้โดยสารหนึ่งเดียวที่รอดชีวิตมาได้ราวปาฏิหาริย์ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลถลอกเล็กน้อยที่ขาขวาให้การว่า นั่งรถตู้โดยสารเดินทางจากบ้าน จ.อำนาจเจริญ จะไปทำธุระที่กรุงเทพฯ นั่งเบาะแถวกลางหลับมาตลอดทาง คนขับไม่ได้ขับเร็วมากนัก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงรถกระแทกไถลครูดไปกับราวเหล็กเสียงดังสนั่น ตกใจตื่นขึ้นมาพบว่ารถพลิกคว่ำแล้ว เมื่อรถหยุดนิ่งได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากคนในรถดังระงม มองเห็นไฟกำลังลุกไหม้ตัดสินใจใช้เท้าถีบกระจกหน้าต่างประตูแตกแล้วมุดตัวตะเกียกตะกายหนีออกมาจากรถรอดตายหวุดหวิด เหตุเกิดขึ้นเร็วมากช่วยเหลือคนอื่นไม่ได้เลย ในรถมีคนขับ เด็ก และผู้หญิงนั่งเบาะหน้า ในห้องโดยสารมี 9 คน ตนนั่งแถวกลาง มีเด็กอีกคนที่นั่งแถวสุดท้ายด้านขวา ทุกคนหนีออกมาไม่ได้ถูกไฟคลอกเสียชีวิต 11 ศพ ที่ตนโชคดีรอดชีวิตมาได้เชื่อเป็นเพราะบารมีของท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม ที่ตนเคารพศรัทธาห้อยคออยู่ช่วยปกป้องคุ้มครองต่อมาช่วงเช้าวันที่ 22 ม.ค. นางศิริจันทร์ อัศวภูมิ อายุ 40 ปี แม่ของนายธนชิตเดินทางมาเยี่ยมอาการลูกชายที่ รพ.สีคิ้ว เผยว่า ได้รับโทรศัพท์จากหลานชายแจ้งว่ารถตู้ที่ลูกชายนั่งมาประสบ อุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ลูกชายรอดชีวิตเพียงคนเดียว ตกใจมากไม่รู้ว่าจะได้รับบาดเจ็บหนักขนาดไหน จึงเหมารถแท็กซี่จาก จ.นครปฐม มาเยี่ยมลูกชายระหว่างนั่งรถมาก็โทรศัพท์สอบถามกับทางโรงพยาบาลและได้คุยกับลูกชายทราบว่าอาการบาดเจ็บไม่หนักมากก็รู้สึกโล่งใจ ลูกชายเล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุไฟกำลังลุกไหม้รถได้ยินเสียงคนในรถทั้งเด็กและผู้ใหญ่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เพราะต้องรีบมุดหน้าต่างหนีเอาตัวรอดออกมาก่อน ลูกชายรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้จะบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตที่นั่งรถตู้มาด้วยกัน พร้อมทั้งเป็นการบวชเพื่อสะเดาะเคราะห์ที่รอดชีวิตมาได้ สำหรับผู้เสียชีวิตแทบทั้งหมดเป็นคนละแวกบ้านเดียวกัน คนขับรถตู้ทราบชื่อเล่นว่าน้อย เป็นคนขับรถดีมาก ขับรถไม่เร็วและไม่ดื่มสุรา คนในหมู่บ้านจะรอขึ้นรถของนายน้อยทุกครั้งที่เข้ากรุงเทพฯ ที่ สภ.สีคิ้ว ตั้งแต่ช่วงเช้าญาติผู้เสียชีวิตทยอยเดินทางมายื่นเอกสารเพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่พากันร่ำไห้ยืนมองดูซากรถตู้ที่ประสบเหตุ ยังคงมีร่องรอยสัมภาระที่ถูกไฟเผาไหม้แทบไม่เหลือซาก ทั้งเสื้อผ้าและข้าวสารที่หล่นเกลื่อนเต็ม พื้นรถ ส่วนการติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย ยังไม่สามารถทำได้เนื่องจากเอกสารส่วนตัวถูกไฟเผาวอดจนไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผกก.สภ.สีคิ้ว เผยว่า ญาติยังไม่สามารถรับศพออกไปได้เนื่องจากผู้เสียชีวิตทั้งหมดยังไม่สามารถระบุตัวตนที่แน่ชัด ได้ประสานงานไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อส่งทั้ง 11 ศพ ไปตรวจดีเอ็นเอยืนยันตัวบุคคล พร้อมประสานงานไปยังมูลนิธิฮุก 31 นครราชสีมา ขอสนับสนุนรถเคลื่อนย้ายศพทยอยออกเดินทางจาก รพ.สีคิ้ว ในช่วงบ่ายวันนี้ ถ้าญาติคนไหนสะดวกให้เดินทางมาที่ สภ.สีคิ้วก่อนเพื่อตรวจสอบเอกสาร แต่ถ้าไม่สะดวกก็เดินทางไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจได้เลย เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากการขับรถเร็ว ความประมาท หรือคนขับอาจหลับใน ต้องรอการตรวจสอบพยานหลักฐานจากปากคำพยาน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะสามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้ด้าน น.ส.มณี ไวยภาค ผอ.คปภ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตรวจสอบรายละเอียดการทำประกันภัยของรถตู้คันที่เกิดเหตุพบว่า เจ้าของรถเป็นห้างหุ้น ส่วนจำกัดแห่งหนึ่งใน จ.อำนาจเจริญ กรณีผู้โดยสารที่เสียชีวิต พ.ร.บ.คุ้มครองเต็มจำนวน 500,000 บาทต่อราย และมีความคุ้มครองของ 3+ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ 500,000 บาทต่อราย และการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้โดยสารที่เสียชีวิตคนละ 100,000 บาท รวมผู้เสียชีวิตจะได้รายละ 1,100,000 บาท ส่วนผู้ขับขี่ความคุ้มครองจะน้อยกว่าผู้โดยสาร เพราะถ้าเกิดจากการขับขี่โดยประมาท พ.ร.บ.จะจ่ายค่าปลงศพ 35,000 บาท และการประกัน ภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของคนขับ 100,000 บาท รวมคนขับเสียชีวิตจะได้ 135,000 บาทขณะที่นายสุรเดช อ่อนคำ อายุ 45 ปี สามีของนางดวงนภาที่ต้องสูญเสียภรรยาและลูกสาววัย 7 ขวบ ที่นั่งโดยสารมาในรถตู้มรณะ ร้องไห้จุกอกน้ำตาคลอเบ้า เผยว่า ภรรยาพาลูกสาวเดินทางมาหาตนที่กรุงเทพฯ คุยกันครั้งสุดท้ายตอน 1 ทุ่ม บอกว่า ขึ้นรถตู้แล้ว กระทั่งตี 1 ตนมารอรับยังมาไม่ถึงเสียที ก่อนจะรู้ข่าวว่ารถตู้ประสบอุบัติเหตุทั้งภรรยาและลูกสาวถูกไฟคลอกเสียชีวิต ทำใจไม่ได้แม้จะมีเงินประกันคุ้มครองกว่า 1 ล้านบาทก็ไม่สามารถทดแทนความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตได้ช่วงสายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้รถตู้ พบว่าติดตั้งเชื้อเพลิง 2 ระบบ คือก๊าซแอลพีจีและเบนซิน เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดหลังจากที่รถตู้พลิกคว่ำแล้วมีน้ำมันรั่วไหลออกมา ประกอบกับรถเดินทางมาเป็นระยะเวลานานทำให้เกิดความร้อนจนเกิดประกายไฟลุกไหม้ขึ้น สำหรับรถตู้คันดังกล่าวจดทะเบียนถูกต้องจากกรมขนส่งทางบก มีจีพีเอสวัดความเร็ว จากการตรวจสอบจีพีเอสพบว่าขณะเกิดเหตุรถตู้ขับมาด้วยความเร็วประมาณ 82 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นนายนิคม แส้อุน หัวหน้ากู้ภัยฮุก 31 จุดสีคิ้ว อยู่ประจำจุดบริการประชาชนถนนมิตรภาพ เผยว่า จุดเกิดเหตุอยู่หน้าสำนักงานพอดี ได้ยินเสียงรถครูดกับผิวถนนก่อนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นต่อเนื่อง 3 ครั้ง มีไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง เปลวไฟลุกท่วมทั้งคัน ไม่สามารถเอาถังดับเพลิงฉุกเฉินไปช่วยดับไฟได้ ขณะนั้น มีผู้รอดชีวิต 1 คน หนีออกจากซากรถมาขอความช่วยเหลือบาดเจ็บที่เท้าเล็กน้อย ส่วนคนอื่นๆ ถูกไฟคลอกเสียชีวิตทั้งคัน หลังเพลิงสงบพบภาพสุดสลดใจเพราะผู้เสียชีวิตทั้งหมดไหลมากองรวมกันบริเวณประตูห้องโดยสาร คาดว่าเกิดจากแรงกระแทก ผู้โดยสารไม่สวมเข็มขัดนิรภัยจึงไหลมากองรวมกันและถูกไฟไหม้เสียชีวิตยกคัน ถนนมิตรภาพจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง สัปดาห์นี้มีรถเสียหลักชนการ์ดเรลพลิกคว่ำ 3 ครั้ง คาดว่าสาเหตุมาจากสภาพผิวถนนมีจุดกลับรถอยู่บนเนินลาดชัน มีช่องจราจรเพิ่มอีก 1 เลน ถนนกว้างขึ้น จากทางเบี่ยงถนนมิตรภาพเชื่อมกับถนน 24 สีคิ้ว-เดชอุดม เมื่อรถมาทางตรงผ่านจุดกลับรถมักจะเบี่ยงเข้าเลนขวาและเสียหลักพุ่งชนการ์ดเรล ที่ผ่านมาได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบแจ้งเตือนผู้ใช้เส้นทางเพิ่มความระมัดระวัง แต่ยังไม่มีการติดตั้งแต่อย่างใด