เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี้เอง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบวาระสำคัญวาระหนึ่ง ซึ่งเป็นข่าวเล็กๆในสื่อมวลชนต่างๆ แต่สำหรับผมแล้วเห็นว่านี่คือข่าวใหญ่มาก ขออนุญาตหยิบมาขยายความต่อในวันนี้นะครับวาระการประชุม ครม.ที่ว่านี้ได้แก่ “กรอบนโยบายและยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พ.ศ.2566–2570” ซึ่งหากจะแปลกันตรงๆให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือแผนพัฒนาของกระทรวง “อว.” หรือ “กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม” ฉบับปฏิรูป นั่นแหละครับท่านรัฐมนตรี ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นผู้แถลงข่าวนี้ด้วยตนเอง กล่าวถึงนโยบายและยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมก่อน แล้วก็มอบหมายให้ท่านปลัดกระทรวง อว. ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เป็นผู้อธิบายเพิ่มเติมสรุปประเด็นหลักๆได้ว่า ในกรอบนโยบายหลักที่ผ่านความเห็นชอบของ ครม.ครั้งนี้ประกอบด้วย 2 แผนเชื่อมโยงกัน...แผนแรก ได้แก่ แผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศส่วน แผนที่สอง เป็นแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โดยมีการตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของประเทศรวมกันในหลายๆด้านโดยทุกหน่วยงานทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องจะมาร่วมทำงาน เชื่อมโยงกันทั้งด้านกำลังคน การวิจัยและการใช้ประโยชน์ เพื่อทำให้ประเทศไทยของเราเป็นประเทศชั้นนำด้านการเกษตรแปรรูป ด้านอาหารมีคุณค่ารวมไปถึงการเป็นศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูงเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมก้าวหน้า รวมทั้งเทคโนโลยีอวกาศ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯเครื่องหมาย ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ในย่อหน้าที่แล้วหมายถึงว่ายังมีอีกมากและยาวเหยียดคงต้องไปหาอ่านกันเองจากเว็บไซต์ ของ อว. และอาจมีที่เว็บไซต์ของทำเนียบรัฐบาลผมขอขอบคุณคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมติยอมรับวาระนี้...และหวังว่าทางกระทรวง อว.จะรับไปดำเนินการอย่างเข้มแข็งในอนาคตถูกต้องแล้วครับที่มอบหมายให้ท่านปลัดกระทรวงเป็นผู้แถลงข่าวด้วย เพราะท่านคือ หัวหน้าทีมที่จะปฏิบัติตามกรอบนโยบายและยุทธศาสตร์ดังกล่าวนี้ตัวจริงเสียงจริงดร.เอนก ท่านก็อยู่แค่อายุของรัฐบาลชุดนี้ เมื่อครบวาระ หรือยุบสภาไปเลือกตั้งใหม่จะได้กลับมาอีกหรือไม่ก็ไม่รู้ ถึงกลับมาได้จะไปนั่งกระทรวงไหนก็ยังไม่รู้เช่นกันแต่ท่านปลัดจะต้องอยู่ไปจนกว่าท่านจะเกษียณ และจะต้องปฏิบัติการทั้งในส่วนของกระทรวงเอง และในส่วนที่จะต้องประสานกับกระทรวงอื่นๆตามที่เขียนไว้ในกรอบนโยบายนี้ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลท่านก็จะต้องดำเนินการตามนี้ หรือหากรัฐบาลใหม่เขาจะขอเพิ่มโน่นเปลี่ยนนี่บ้าง ซึ่งก็สามารถทำได้ แต่ก็ควรจะเปลี่ยนโดยยึดกรอบที่อนุมัติครั้งนี้เป็นหลักแม้ผมจะยังไม่เห็นเนื้อหาไม่เห็นรายละเอียดแต่ก็เห็นด้วยในหลักการและขอให้เดินหน้าต่อไปอย่างเข้มแข็งเพื่อให้ก้าวไปสู่การเป็นประเทศ “พัฒนาแล้ว” หรือประเทศ “รายได้สูงขั้นต้น” อย่างที่เคยตั้งเป็นเป้าเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว และก็ยังอยู่ในแผนพัฒนาฯ ฉบับปัจจุบันไม่ใช่งานง่ายๆแน่นอนครับ...จริงๆแล้วยากด้วยครับ เพราะที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเราจะไม่ทำ ทำทุกรัฐบาลแหละครับ...แต่ทำแล้วมันไม่ก้าวหน้าจึงต้องหาทางปฏิรูปอย่างที่ อว.นำเสนอคราวนี้ผมตั้งหัวข้อเรื่องของผมวันนี้ว่า “ฝันล่าสุดของรัฐบาล” ก็อย่าหาว่าผม “บูลลี่” หรือกระแซะอะไรเลยครับ...เพราะนโยบายนี้เป็นความฝันโดยแท้...และก็เป็นความฝันที่ยากจะเกิดขึ้นได้ ต้องใช้ความมานะพยายามอย่างมาก ผมจึงเขียนเป็นเชิงเตือนไว้แต่เมื่อมันเป็นฝันที่ถูกต้องและทุกชาติทุกประเทศที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วนั้นจะต้องฝันในเรื่องเดียวกันนี้ทั้งสิ้น...ก็ขอให้เดินหน้าสานฝันต่อไปขอส่งกำลังใจไปถึงกระทรวง อว.โดยเฉพาะท่านปลัดและข้าราชการประจำทั้งหลายไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งนะครับ.“ซูม”