ดิ้นหนีตายจาก “ปาร์ตี้ลิสต์หาร 100” ว่ากันตามสถานการณ์แบบที่คนตรงๆอย่าง “เดอะเอี้ยง” นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคโอกาสไทย เปิดเบื้องหลัง “เฮียมิ่ง” นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรคโอกาสไทย ทั้งๆที่ลงทุนเปลี่ยนชื่อพรรคมาจากรักษ์ผืนป่าประเทศไทยเป็นอยู่ได้ไม่กี่วัน ก็ชิ่งไปสังกัดค่ายพลังประชารัฐสาเหตุเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญฟันธงร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญการันตีสูตรปาตี้ลิสต์หาร 100 บัตรเลือกตั้ง 2 ใบทำให้พรรคเล็กหรือพรรคตั้งใหม่ไปต่อลำบาก โดยเฉพาะถ้าหวัง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 370,000 คะแนนต่อหนึ่งเก้าอี้“เฮียมิ่ง” เลยต้องหนีเรืออีโปง กระโดดเกาะเรือเหล็กปะผุในเครื่องหมายคำถาม นายมิ่งขวัญที่ประกาศจุดยืนมาตลอดว่า จุดยืนอยู่กับฝั่งประชาธิปไตย ไม่เคยคิดร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะคนละอุดมการณ์แล้วทำไมถึงกลืนน้ำลายมาอยู่แนวร่วมฝ่ายทหารเฒ่า 3 ป.ทิ้งอุดมการณ์เพียงเพื่อความอยู่รอดเท่านั้นหรือมันก็ต้องไม่ลืมว่า การเมืองแบบไทยๆมันมีเหตุให้ “ออกตัว” ได้เนียนๆเสมอ ณ วันที่ค่ายพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กำลังระหองระแหงกับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ที่กำลังนำลูกหาบแหกค่ายไปปักหลักกับพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อไม่มี “บิ๊กตู่” ซะคน “เฮียมิ่ง” ก็คลอเคลียร์กับ “บิ๊กป้อม” ได้เพราะ พล.อ.ประวิตร ยืนยันกลางสภาแล้วว่า ไม่ใช่เป็นคนทำปฏิบัติ โบ้ยชัดๆ ไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนนำ ทำคนเดียวมันก็กล้อมแกล้ม อ้อมแอ้มได้ ไม่ได้หนุนเผด็จการสรุป “เฮียมิ่ง” ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้วนั่นแหละที่แน่ๆการที่นายมิ่งขวัญตัดสินใจใส่เสื้อค่ายพลังประชารัฐ อยู่ภายใต้สังกัดของ “บิ๊กบราเธอร์” มันยิ่งทำให้สถานะของ “บิ๊กป้อม” เปิดกว้างมากกว่าเดิมเสริมโอกาสเกิดรัฐบาลดีลข้ามขั้ว ฮั้วข้ามค่ายกับสูตรค่ายพลังประชารัฐจับมือกับพรรคเพื่อไทย“พี่ใหญ่” แตะมือกับ “นายห้างดูไบ” ผ่านอดีตลูกข่ายคนสำคัญของนายทักษิณ ชินวัตร ทั้งนายมิ่งขวัญ รวมไปถึง “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ที่นำทีม “กบฏผู้กอง” กลับเข้าค่าย พปชร.ฝ่ายต่อต้าน “ทักษิณ” หนาวๆร้อนๆก็แล้วกันถึงวันนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น หนทางกลับบ้านของคนแดนไกลเห็นอยู่ลิบๆ แต่ที่เห็นอยู่แค่เอื้อมก็คือ “บิ๊กป้อม” กับเก้าอี้ผู้นำตัวจริง เก้าอี้นายกรัฐมนตรีเห็นอยู่ตรงหน้า ในรัฐบาลผสมค่ายพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทยสูตรพิสดาร ลุ้นตีตั๋วผ่านด่านความมั่นคงเทียบกันนาทีนี้ ต้องบอกว่า “พี่ใหญ่” ราศีจับมากกว่า “น้องเล็ก”ประตูทางการเมืองของ พล.อ.ประวิตร หลังเลือกตั้งรอบหน้า เปิดกว้างมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์โดยเงื่อนไขสถานการณ์ “บิ๊กป้อม” ลุ้นคั่วไพ่หลายหน้าถ้าไม่บังเอิญโดนคว่ำกระดานซะก่อน.ทีมข่าวการเมือง