น้อยครั้งจะตามรอยลากคอ “ตัวจักรสำคัญ” ของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ผลพวงที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ 5 ศูนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตร. ส่ง พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ. 2 กับพวก ข้ามฝั่งไปประสานความร่วมมือ พล.ต.อ.วรรณวีระ สม ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ ผบช.รักษาความมั่นคงภายในตำรวจกัมพูชาทำให้ทราบ “รังใหญ่” เครือข่ายอยู่ที่ตึกประตูดำ 8 ชั้น ซอยวัดตาด กลางเมืองปอยเปต ใช้เวลาเก็บข้อมูลนานกว่า 6 เดือนจนพิสูจน์แน่ชัดว่า นายชลวิชา หรือ เบียร์ ปานสมุทร อายุ 32 ปี ที่อยู่ 19 หมู่ 4 ต.เจ็ดริ้ว อ.บ้านแพ้วจ.สมุทรสาคร ทำหน้าที่พนักงานสาย 3สวมบท “ผกก.สภ.เมืองเชียงราย”ในวงการตั้งให้เป็นดาวเด่น “ตัวเชือด” ปิดเกมหลอกครูวัยเกษียณ นักลงทุนหุ้น รวมถึงแพทย์หญิงรายหนึ่ง โอนเงินเข้า “บัญชีม้า” รวมกันได้มากถึง 150 ล้านบาทรับส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์จากผลงานต้มนับล้านจนร่ำรวยอู้ฟู่กระทั่งทางการกัมพูชาบุกเข้าค้น “ตึกประตูดำ” ตีรังคอลเซ็นเตอร์แตกกระเจิง ถึงหอบเงินข้ามกลับไทยมาจนมุมตำรวจบริเวณลานจอดรถร้านเค้กบ้านสวน ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาสอบสวนรับว่า เริ่มต้นข้ามไปกัมพูชาทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อทำงานเป็น “แอดมินเว็บพนัน” ที่เมืองปอยเปต แล้วย้ายตัวเองเข้าไปอยู่ “ตึกประตูดำ” หลอกลวงเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์สาย 2 อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ยศ ร.ต.ท.ทำมาได้ระยะหนึ่ง หัวหน้าชาวไต้หวันเห็นถึงความสามารถด้านจิตวิทยาในการ “เชือด” เลื่อนขั้นเป็นเจ้าหน้าที่สาย 3 อ้างตัวเป็น ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ตุ๋นเปื่อยเหยื่อรายใหญ่ได้เงินนับร้อยล้านบาทถือเป็นภัยสังคม สร้างความเดือดร้อนให้คนไทยด้วยกัน.สหบาท