แทรกรายการคิวระทึกศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ชะตาวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วันที่ 30 ก.ย.นี้ไฟต์ปะทะในสภา “ภูมิใจไทย–ประชาธิปัตย์” กำลังซัดกันดุเดือดศึกความขัดแย้งพรรคร่วมรัฐบาลปะทุขึ้นมาใหม่ หลังจากพรรคประชาธิปัตย์จับมือพรรคเพื่อไทย ร่วมลงมติตีกลับร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ของพรรคภูมิใจไทย ให้นำกลับไปทบทวนใหม่ยกเหตุผลการแก้ไขเนื้อหาในชั้น กมธ.เหาะเหินเกินลงกา เลยเถิดไปมากกว่าการใช้ประโยชน์กัญชาเพื่อการแพทย์เพียงอย่างเดียว สุ่มเสี่ยงนำไปสู่กัญชาเพื่อสันทนาการ นำประเทศไทยเข้าสู่สยามเมืองยิ้ม กฎหมายชิ้นโบแดงของพรรคภูมิใจไทยถูกคุมกำเนิด ค้างเติ่งคาสภา เสร็จไม่ทันก่อนปิดสมัยประชุมสภา วันที่ 18 ก.ย.นี้ ต้องถูกแช่แข็งอีก 2 เดือน เพื่อนำกลับไปทบทวนใหม่ รอต่อคิวเข้าสภาพิจารณาใหม่ หลังเปิดสมัยประชุมอีกครั้ง ในวันที่ 1 พ.ย.2565และมีแนวโน้มสูงจะถูกทำแท้งถาวร พิจารณาเสร็จไม่ทันสมัยประชุมสภารอบหน้าที่เป็นเทอมสุดท้ายของรัฐบาล ก่อนหมดอายุรัฐบาล 4 ปี ในเดือน มี.ค.2566เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุการเมือง ยุบสภาไปก่อนที่กฎหมายกัญชา กัญชงจะพิจารณาเสร็จ จากปัจจัยเสี่ยงปมวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ที่ “บิ๊กตู่” อาจถึงฆาตทางการเมืองเร็วกว่าที่คิดสถานการณ์พร้อมพลิกคว่ำพลิกหงายได้ทุกเวลา บีบทุกค่ายการเมือง พรรคใหญ่ พรรคเล็ก พรรคใหม่ พรรคเก่าต้องเร่งปล่อยของ โชว์หน้าแกนนำคู่ไปกับเปิดนโยบายหลัก ทำคะแนนกันล่วงหน้าค่ายเซราะกราวเองก็ต้องเร่งผ่านร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ตุนแต้มให้เต็มหน้าตัก ก่อนลงสนามเลือกตั้ง แต่กลับเสียจังหวะ ถูกเตะตัดขาจากคู่ปรับร่วมรัฐบาล “ประชาธิปัตย์”ตามหน้าฉากหน้าที่ดูเผินๆ เหมือนแค่ติติงแสดงความคิดเห็นธรรมดา เป็นห่วงนโยบายกัญชา จะควบคุมการใช้ไม่ได้ นำไปสู่กัญชาเสรี เด็กเยาวชนติดกันงอมแงมทั่วประเทศแต่ผลลัพธ์ทางการเมืองที่หวังคือ การฟาดฟันคู่แข่งสำคัญในการเลือกตั้ง เผาทิ้งกฎหมายสำคัญอันดับหนึ่ง “ภูมิใจไทย” บล็อกการนำร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ไปใช้เคลมเป็นผลงานหาเสียง ทำคะแนนทิ้งห่างพรรคประชาธิปัตย์ออกไปอีกอย่างที่ทีม 2 น. กำลังรุกคืบขยายอาณานิคมครั้งใหญ่ ประกาศขอปักธง ส.ส.ภาคใต้หลายพื้นที่ แย่งความยิ่งใหญ่โซนด้ามขวานที่เคยผูกขาดอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เขย่าเสาไฟฟ้าเจ้าถิ่นจ่อล้มระเนระนาด ซีกภูมิใจไทยกำลังขึ้นหม้อ ใครๆก็อยากวิ่งเข้าซบ เลี่ยงไม่พ้นเจอแรงหมั่นไส้พุ่งใส่ทั่วสารทิศไม่ใช่แค่พลพรรคทีมพระแม่ธรณีฯฝ่ายเดียว แม้แต่พรรคพลังประชารัฐของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ร่วมเตะสกัดด้วยช่วยบอนไซกฎหมายกัญชาอีกทาง มี 47 ส.ส.พลังประชารัฐ ร่วมวงดองกฎหมายเพื่อนร่วมรัฐบาลกัญชากลายเป็นเกมการเมือง ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านผนึกกำลังรุมเบรก “ภูมิใจไทย” หัวทิ่ม ต้องกระตุกทำลายจังหวะ จะปล่อยให้ติดลมมากกว่านี้ไม่ได้และดูตามแนวโน้มคงไม่ใช่สะดุดเฉพาะแค่ร่าง พ.ร.บ.กัญชา แม้แต่ร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯไปแล้ว โดยมีพรรคภูมิใจไทยเป็นตัวตั้งตัวตี ผลักดันการห้ามคิดดอกเบี้ย เบี้ยปรับล่าช้า การไม่ต้องมีคนค้ำประกันในการกู้ยืมเงิน ก็มีทีท่าน่าเป็นห่วงมีสิทธิถูกเปลี่ยนแปลงเนื้อหาชั้นวุฒิสภา กลับมาคิดดอกเบี้ยการกู้ยืมเงิน กยศ. ถีบสกัดกันทุกทาง ขวางพรรคสีน้ำเงินไม่ให้ได้แต้มออกหน้าออกตาเล่นงาน “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หัวเสีย 2 ร่างกฎหมายตัวทำแต้ม โดนเตะถ่วงทุกฉบับ รอยปริร้าวพรรคร่วมรัฐบาลถูกถ่างกว้างขึ้น ค่ายเซราะกราวคงไม่รามือ ดูแล้วมีรายการถอนแค้นพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐแน่ความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลระส่ำระสายหนักขึ้น ซ้ำเติมเสถียรภาพรัฐบาลที่สถานภาพผู้นำ “บิ๊กตู่” ยังไม่ชัวร์จะ “ร่วง”หรือ“รอด”สภาพเรือเหล็กโคลงเคลงเต็มที ไม่รู้จะเข้าเทียบท่าปลายทางตอนรัฐบาลครบวาระ 4 ปี เดือน มี.ค.2566 สำเร็จหรือไม่ ในยามที่ทุกค่ายการเมืองเปลี่ยนเข้าโหมดตะลุยเลือกตั้งกันหมดแล้วฤทธิ์กัญชาพากันมึนทั้งรัฐบาล เร่งรอยร้าวอาจพาเรือเหล็กอับปางเร็วก่อนถึงเวลา!!!ทีมข่าวการเมือง