ผมคิดจะใช้คำ “บอกศาลา” แต่นึกเอะใจ จะใช้ถูกที่ถูกตามความหมายดั้งเดิมหรือเปล่า? เปิดหนังสือ “สำนวนไทย” อาจารย์ “กาญจนาคพันธุ์” อธิบายว่า แรกเริ่มเดิมที ใช้คำ “บอกศาลา” หมายความตรงๆไปตามคำนั้นตัวอย่าง จากคำประกาศในรัชกาลที่ 4 เรื่องเล่นเบี้ย มีความตอนหนึ่งว่า“ถ้าเจ้านายจะเอาข้าคนซึ่งอยู่นอกพระราชวัง จะเอาเข้ามาไว้ใช้สอยในพระราชวังให้มากขึ้นไปกว่าแต่ก่อน ก็ให้ไปบอกศาลา บอกบาญชีเดิมนั้น ยื่นขึ้นตามจำนวนคน ซึ่งได้ใช้สอยประจำอยู่ในพระบวรราชวัง”หรือในเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนชำระความขุนช้าง มีกลอนว่าทำมะรงโกรธาคว้ามัดหวาย ป่ายลงทั้งกำดังต้ำผึง ตีซ้ำคว่ำหงายตายช่างมึง ผิดก็เสียเฟื้องหนึ่งบอกศาลาทำมะรง คือผู้คุมครับ...ในกลอนนี้มีความหมายว่า มีอำนาจเฆี่ยนนักโทษได้เต็มที่ หนักถึงตายถ้าไปบอกศาลาคือแจ้งทางการ โทษแค่เสียเงินเฟื้องเดียวแต่หากใช้ “บอกศาลา” เป็นสำนวน มีความหมายรุนแรงไปอีกมาก...มากแค่ไหน ลองอ่านตัวอย่างแรก จากละครพูดเรื่องชิงนาง พระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ 6“แต่ถ้าเอ็งไม่ยอมละก็ นี่แน่ะเองน่ะอย่ามาอยู่ในโลกเดียวกับข้า อย่ามาใช้ตะวันดวงเดียวกับข้า เอ็งไปหาฟ้าหาตะวันของเอ็งต่างหากเถอะ ข้าไม่อยากใช้ฟ้าใช้ตะวันร่วมกับคนทรยศกับเอ็งแล้วข้าก็จะบอกศาลาเอ็ง ข้าจะแก้พินัยกรรมตัดชื่อเอ็งออกเสีย ข้าจะยกเลิกเอ็งเสียจากลูก”“บอกศาลา” ในความหมายของเรื่องนี้ เป็นสำนวนที่ระบุถึงการตัดขาดจากพ่อลูกกันสำนวนบอกศาลา ไม่ใช่แค่ใช้เป็นที่รู้ทั่วกันในสมัยรัชกาลที่ 6 เพราะใช้กันมาเก่าแก่กว่านั้นมูลของสำนวนมาจากกฎหมายลักษณะโจรห้าเส้น ออกเมื่อปี พ.ศ.2380 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) มีความตอนหนึ่งว่า“ถ้าอ้ายผู้ร้ายปล้นได้ทรัพย์ไปมากน้อยเท่าใด ให้เอาทรัพย์ที่ผู้ร้ายปล้นไปนั้น ตั้งปรับไหมบิดามารดา ญาติพี่น้องป้าน้าอา บุตรหลานและเหลนลื่อ ซึ่งได้รับราชการและมิได้รับราชการ เรียงตัวไปตามกฎหมาย ที่ได้ส่วนแบ่งปันทรัพย์มรดกตามสนิทแลห่างเป็นพิไนยหลวงเหตุว่าบิดามารดาญาติพี่น้องมิได้สั่งสอนห้ามปรามละเลยให้บุตรหลานกระทำความชั่ว มิได้เอาความมาบอกศาลาเป็นคำนับ”คำว่า “บอกศาลา” ตามกฎหมายฉบับนี้ คือแจ้งความต่อพนักงานที่ศาลาทำงาน เช่นศาลาลูกขุน ให้เจ้าพนักงานรับทราบไว้ เมื่อลูกประพฤติชั่ว พ่อแม่ไปบอกศาลาไม่รับรู้เรื่องเกี่ยวกับลูก ก็เหมือนเป็นการตัดลูก ไม่นับว่าเป็นลูก คำบอกศาลา ก็เลยกลายเป็นสำนวน หมายถึงการตัดขาดไม่นับว่าเป็นลูกอีกต่อไปผมถือเป็นความรู้ใหม่ที่เพิ่งได้จากความหมายของสำนวน บอกศาลา...ตำรวจจับลูกเป็นโจร...ปล้นไปเท่าไหร่ พ่อแม่ญาติพี่น้องนับลำดับลงมาห้าชั่วโคตร...ต้องใช้คืนเท่านั้น อ่านแล้วขนลุกเกรียวเคยได้ยินสำนวน “ของหลวง” ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ถ้าบ้านเมืองเรายังใช้กฎหมายลักษณะโจรห้าเส้น...เหมือนสมัยรัชกาลที่ 3 ของหรือทรัพย์สินเงินทองชาวบ้าน ก็คงตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ได้คืนเหมือนของหลวงหรือ...ถ้าเอามาปรับใช้กับข้าราชการ หรือนักการเมือง โกงบ้านกินเมือง...ก็ยิ่งดี เพราะก็คงจะเอาทรัพย์สินคืนได้จากญาติพี่น้องที่ร่ำรวย ไม่ปล่อยให้ชูคอสง่าผ่าเผยได้เหมือนในสมัยต่อๆมาเป็นอันว่าคำ “บอกศาลา” เป็นสำนวนโบราณ ใช้ในความหมาย พ่อตัดขาดจากลูก ผู้ใหญ่ตัดขาดจากผู้น้อย...จะเอามาใช้กับ ส.ส.ที่เพิ่งลาออกจากพรรค...ก็คงพอเข้าใจได้ แต่ไม่ถูกตำแหน่งแห่งที่เสียทีเดียว.กิเลน ประลองเชิง