ภาพการเมืองในสนามเลือกตั้ง...นักวิเคราะห์การเมืองระดับปรมาจารย์มองการเมืองไทยเริ่มตั้งแต่การชิงชัยในสนามเลือกตั้งคงไม่ต่างไปจากที่ผ่านมาฝ่ายหนึ่งพลังประชารัฐของ “3 ป.” และบรรดานั่งร้านอันประกอบไปด้วยภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์เป็นกลุ่มการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมหรือเปรียบให้ง่ายเข้าก็คือ กลุ่มทหาร (คสช.) ที่จะต่อท่ออำนาจต่อไปอีกฝ่ายหนึ่งคือเพื่อไทย (เสื้อแดง) ที่มุ่งหวังให้การเลือกตั้งออกมาแบบแลนด์สไลด์ (250 เสียง) ขึ้นไป เพื่อตั้งรัฐบาลพรรคเดียวสู้กับ 250 เสียง จาก ส.ว.ที่โหวตนายกฯได้โดยชู “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวเจ้าของพรรคนำทัพภายใต้หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ด้วยการปลุกผีคนเสื้อแดงขึ้นมาอาละวาดอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการชูธงประชาธิปไตย“เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถูกตั้งให้เป็นผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กำลังทำงานปลุกระดมคนเสื้อแดงกลับมาอยู่ในอ้อมอกแนวทางที่กำลังดำเนินการก็คือ เปิดเวทีหาเสียงในจังหวัดภาคอีสาน โดยเฉพาะที่ถูกภูมิใจไทยเจาะพื้นที่อย่างที่ศรีสะเกษแน่นอนว่าจังหวัดใหญ่ๆ มี ส.ส. จำนวนมาก อย่างโคราช อุดรธานี ขอนแก่น คือเป้าหมายที่จะต้องลุยเพื่อให้ได้ ส.ส.เต็มอัตราศึกปิดประตูสำหรับพรรคการเมืองอื่นไม่ใช่แค่ภูมิใจไทยเท่านั้นแต่สนามเลือกตั้งครั้งใหม่นี้มีความแตกต่างจากเดิมก็คือ มีพรรคการเมืองใหม่ที่จะเข้ามาเป็นตัวแปรที่มองข้ามไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกล ไทยสร้างไทย สร้างอนาคตใหม่“ก้าวไกล” นั้นเป็นพรรคคนรุ่นใหม่เพิ่งแกะกล่อง แต่ไม่ใช่ขี้ไก่ เพราะมีอนาคตรออยู่ข้างหน้าและสอดรับกับสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนไปที่สำคัญก็คือมีความเป็นตัวของตัวเองไม่เข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด“ไทยสร้างไทย” เป็นพรรคการเมืองใหม่นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แยกมาจากเพื่อไทยเพราะปัญหาขัดแย้งทางความคิดและแนวทางการเมืองเวลานี้กำลังรอจังหวะที่จะมีนักการเมืองอีกส่วนหนึ่งลาออกจากเพื่อไทยเข้ามาร่วมงานอย่างชัดเจนพรรคนี้ก็มุ่งชิงพื้นที่ภาคอีสานเช่นกัน“สร้างอนาคตไทย” เป็นพรรคการเมืองใหม่ที่ลอกคราบมาจากพลังประชารัฐ นำโดยนายอุตตม สาวนายน“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เป็นหัวขบวนและแคนดิเดตนายกฯนอกนั้นก็เป็นพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ที่ไม่ได้วางบทบาทว่าจะเป็นพรรคการเมืองใหญ่เหมือนกับพรรคการเมืองที่ว่ามาแล้วทั้งไทยสร้างไทย สร้างอนาคตใหม่ มุ่งเน้นไปที่การเป็นพรรคการเมืองที่เดินสายกลาง ไม่นิยมความรุนแรง เน้นแก้ปัญหาของประเทศและเศรษฐกิจจะไปได้ขนาดไหนขึ้นอยู่กับบุคลากรที่จะเข้ามาสมทบในสนามการเลือกตั้งต่างก็มุ่งหวังในพื้นที่ภาคอีสานเช่นกันแต่ที่จะสู้กันเป็นหลักก็คงกลุ่มการเมืองเดิมๆที่เหลือก็คงสอดแทรกเป็น “ยาดำ” หวังเป็น “ม้ามืด”.“สายล่อฟ้า”