ในเดือน ส.ค.2555 ยานหุ่นยนต์โรเวอร์คิวริออสซิตี (Curiosity) ได้ลงจอดที่แอ่งเกล (Gale Crater) บนดาวอังคาร และเริ่มสำรวจพื้นผิวดาวเพื่อค้นหาเบาะแสสิ่งมีชีวิตในอดีตของดาว จริงๆแล้วยานโรเวอร์ได้ค้นพบบางอย่างที่ลึกซึ้งในช่วงเวลานั้น รวมถึงหลักฐานที่แสดงว่าแอ่งนี้เคยเป็นก้นทะเลสาบขนาดใหญ่ ตรวจพบจุดของมีเทนหลายจุด ทั้งยังถ่ายภาพภูมิประเทศที่น่าสนใจหลายแห่งมีการเปิดเผยภาพจากกล้อง Mast Camera บนยานสำรวจคิวริออสซิตีที่ถ่ายได้เมื่อกลางเดือน พ.ค. นับเป็นภาพถ่ายที่สร้างความฮือฮา เนื่องจากมีวัตถุที่มีลักษณะเหมือนหนามแหลมแลประหลาดยื่นออกมาจากพื้นดินของดาว นักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน SETI ได้เสนอคำอธิบายที่น่าจะเป็นไปได้ว่าหนามแหลมนั้นหลงเหลือมาจากยุคโบราณหลังจากหินตะกอนที่อยู่รอบๆ และมีความอ่อนกว่าถูกกัดเซาะออกไป ซึ่งสอดคล้องกับหลักฐานอื่นๆที่ได้รับจากคิวริออสซิตี ที่แสดงให้เห็นว่าการกัดเซาะและการสะสมของตะกอนพบได้ทั่วไปในแอ่งก้นทะเลสาบทั้งนี้ ในยุคโนอาเคียน (Noachian) เมื่อราว 4,100-3,700 ล้านปีก่อน ช่วงเวลานั้นดาวอังคารมีชั้นบรรยากาศที่หนาแน่นกว่าวันนี้ มีสภาพแวดล้อมอบอุ่นกว่า และมีน้ำไหลบนพื้นผิว การไหลของน้ำเข้าสู่แอ่งทำให้เกิดลักษณะของชั้นตะกอน เช่น ชั้นหินที่ก่อตัวเป็นฐานของภูเขาชาร์ป (Mount Sharp) ในแอ่งเกล ดังนั้น แม้ว่าดาวอังคารจะไม่ได้สัมผัสกับการกัดเซาะที่เกิดจากน้ำ แต่ก็ยังประสบกับพายุฝุ่นขนาดมหึมาที่สามารถกัดเซาะหินตะกอนได้.(ภาพประกอบ Credit : NASA/JPL-Caltech/MSSS)