หนูห้าตัว แม่ไก่หนึ่งตัว พ่อหมูหนึ่งตัว และแม่วัวหนึ่งตัว เป็นเพื่อนกัน อยู่ในฟาร์มห่างไกล วันที่ชาวนาทำท่าจะกินไก่ทอด พวกหนูรู้ ก็ให้แม่ไก่แกล้งป่วย เวลาที่ชาวนาจะกินไส้กรอกหมู หนูก็จะบอกให้พ่อหมูหนี ถึงเวลามีสัญญาณจะกินเนื้อย่าง หนูก็รีบไล่ให้แม่วัวทำทีไปหาหญ้ากินในที่ไกลๆด้วยวิธีนี้เอง แปดชีวิตสัตว์ในฟาร์มเอาตัวรอดมาได้ มานานแสนนาน (ชวนม่วนชื่น 2 พระอาจารย์พรหม)แล้ววันหนึ่ง ก็ถึงวันที่สายสัมพันธ์ที่แสนดีนี้ ขาดกระจุยบ่ายวันนั้นหนูตัวหนึ่ง มองผ่านรอยแตกกำแพง เห็นชาวนาเปิดกล่องพัสดุ เห็นกับดักหนู มันร้องเสียงหลง “แย่แล้ว พวกเราต้องตายแน่ๆ” แล้ววิ่งโร่ไปหารือกับเพื่อนๆ“กุ๊กๆๆ” แม่ไก่คุ้ยเขี่ยดิน “ไอ้กับดักอันเล็กๆจะทำอะไรกับฉันได้”พ่อหมูร้องสองอู๊ด “ตอนนี้ฉันกำลังจะยุ่ง ไว้ค่อยคุยกันใหม่” แล้วก็ก้มหน้าร้องอู๊ดที่สามที่สี่ถึงคิวแม่วัวตัวใหญ่กำลังวุ่นวายเคี้ยวหญ้า “กับดักหนูจะทำ อะไรฉันได้เล่า”มันพูดกับห้าหนูที่กำลังตื่นตระหนกเต็มที่“ตกลงนะ ฉันจะลองคิดดู แม้ฉันจะรู้ว่ามันไม่ใช่ปัญหาของฉันเลย”ตกดึกคืนนั้น หนูตัวหนึ่งแม้ระวังตัวเต็มที่แล้ว ระหว่างค้นหาอาหาร มันพลาดเข้ากับดัก เสียงดังคลิก แล้วหนูตัวนั้นก็ไปสวรรค์หนูอีกสี่ตัว วิ่งเข้าไปช่วยเพื่อน แต่ก็ช่วยไม่ได้ พวกมันกอดกันร้องไห้ฟูมฟาย ภรรยาชาวนาได้ยินเสียงกับดักและเสียงหนูร้อง จึงตื่นลงมาดู พอเห็นหนูเต้นไปร้องโหยหวนไปเธอตกใจกรีดร้อง แล้วก็เป็นลมเช้าวันต่อมา แม่ชาวนายังต้องนอนพักฟื้นบนเตียง ชาวนาคิดหาอาหารให้เมียกินแล้วอาการดีขึ้น ก็นึกถึงซุปไก่ ดังนั้นแม่ไก่ก็ถูกจับเชือดใส่หม้อ โรยเกลือเติมด้วยกระเทียมเพื่อนๆชาวนารู้ข่าว ก็ชวนกันมาเยี่ยม ธรรมเนียมของชาวบ้าน ชาวนาจำเป็นต้องจับหมูทำสเต๊กเลี้ยงแขกโชคร้าย! เมียชาวนาอาการไม่ดีขึ้น สองวันต่อมาเธอก็สิ้นใจ มีคนมาร่วมงานศพมากมายชาวนาต้องทำแซนด์วิชเนื้อรับรองแขก แน่นอน เนื้อที่ทำแซนด์วิชจะมาจากไหน แม่วัวนั่นเองพระอาจารย์พรหม พระฝรั่งจบเคมบริดจ์ จบนิทานตามลีลาพระป่า ศิษย์หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง ว่านี่คือวิธีที่กับดักหนูอันเล็กๆ ฆ่าแม่ไก่ พ่อหมู และแม่วัวได้ดังนั้น โปรดอย่าคิดว่า “มันไม่ใช่ปัญหาของฉัน”ถ้าผมยังบวชเป็นพระบ้าน ก็จะเทศน์เรื่องนี้ให้เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม ใครทำกรรมใดไว้ ก็ต้องรับกรรมนั้นพวกสัตว์ใหญ่ แม่ไก่ พ่อหมู แม่วัว นึกถึงคุณูปการที่ห้าหนูช่วยเป็นหูเป็นตาให้รอด ช่วยกันคิดหาวิธีป้องกัน ก็ไม่แน่ว่า พวกหนูจะรอดจากกับดักก็ได้เมื่อสัตว์ใหญ่ไม่ตอบสนองคุณสัตว์เล็ก กรรมก็ตามทันมาถึงตัวแต่ถ้าเป็นศิษย์หลวงพ่อพุทธทาส ตามลีลาคงจะเทศน์ตามสไตล์พระสวนโมกข์ เรื่องนี้เป็นไปตามหลัก อิทัปปัจยตา เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิดเรื่องราวประดามีในโลกนี้ใบนี้ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ นักการเมืองเล่นแต่บทลิงกินกล้วยๆ เล่นกันจนชาวบ้านเอือมระอา...นักการเมืองเหมือนสินค้ามีราคา ขึ้นลงได้ตามหลักอุปสงค์อุปทานผมนึกถึงภาพทหารขับรถถังออกถนน ยืดเส้นยืดสาย...ในคราวหนึ่ง...นานมาแล้ว ที่ยึดอำนาจ...โธ่เอ๋ย? แทนที่ชาวบ้านจะตระหนกตกใจ กลับหาดอกไม้ไปวางปากกระบอกปืนรถถัง นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องธรรมดา เป็นอิทัปปัจยตาทางการเมือง.กิเลน ประลองเชิง