การเลือกตั้ง ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนที่ 17 วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผลการนับคะแนนกว่า 96% ปรากฏว่า นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือ บองบอง ลูกชายวัย 64 ปีของ อดีตประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซีเนียร์ ผู้นำเผด็จการ และ นางอีเมลดา มาร์กอส อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งฟิลิปปินส์ผู้อื้อฉาว ชนะการเลือกตั้งแบบ “แลนด์สไลด์” ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นกว่า 30.75 ล้านเสียง จากผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งกว่า 65.7 ล้านคน ส่วนการเลือกตั้งรองประธานาธิบดี นางซาร่า ดูแตร์เต บุตรสาววัย 43 ปีของ ประธานาธิบดีดูแตร์เต ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงกว่า 31.16 ล้านคะแนนคะแนนของคู่แข่งคนสำคัญ นางเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันได้เพียง 14.67 ล้านเสียง และ แมนนี่ ปาเกียว ได้เพียง 3.57 ล้านเสียงการชนะอย่าง “แลนด์สไลด์” ของ นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ทายาทการเมืองของอดีตผู้นำเผด็จการ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ที่เคยครองอำนาจฟิลิปปินส์มานานกว่า 21 ปี ระหว่างปี 2508–2529 ได้สร้างความตื่นตะลึงต่อ “ชนชั้นกลาง” ในฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก ข่าวระบุว่า คะแนนเสียงส่วนใหญ่ของบองบอง มาจากประชาชนที่มีอายุ 18–41 ปีกว่า 24.7 ล้านคน ซึ่งเกิดหลังยุคมาร์กอสผู้พ่อ และประชาชนระดับรากหญ้า ที่สนใจข่าวสารในโซเชียลมีเดีย คนกลุ่มนี้ใช้เวลากับโซเชียลมีเดียวันละกว่า 4 ชั่วโมง บองบองจึงใช้โซเชียลมีเดียเป็น “อาวุธทางการเมือง” ด้วยการ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตระกูล จากพ่อที่เป็นผู้นำเผด็จการทุจริตคอร์รัปชัน จนถูกประชาชนเดินขบวนขับไล่ ต้องขนสมบัติหนีออกจากประเทศไปเสียชีวิตที่รัฐฮาวาย กลายเป็นฮีโร่ผู้สร้าง “ยุคทอง” ให้ฟิลิปปินส์บองบอง เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า เขาถูกบิดาบังคับให้ลงสนามการเมืองตั้งแต่อายุ 20 ปี ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดฮีลากังอีไลโคส ในช่วงที่บิดายังครองอำนาจทางการเมืองเมื่อ อดีตประธานาธิบดีมาร์กอส ถูกประชาชนโค่นล้มลง มาร์กอส จูเนียร์ ก็ต้องลี้ภัยการเมืองตามพ่อไปยังรัฐฮาวาย สหรัฐฯ จนกระทั่งบิดาเสียชีวิต เขาได้กลับมาฟิลิปปินส์อีกครั้งและลงเลือกตั้ง ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯในจังหวัดบ้านเกิด และ ได้รับเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกตั้งแต่ปี 2553 แต่มาแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2559 และมาคว้าชัยชนะเป็น ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนที่ 17 ในการเลือกตั้งเมื่อวันจันทร์คู่กับ นางซาร่า ดูแตร์เต ลูกสาว ประธานาธิบดีดูแตร์เต ที่จะครบเทอมในวันที่ 30 มิถุนายนนี้บองบอง เคยระบุว่า เขาจบการศึกษาระดับปริญญา จาก มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สาขาวิชาปรัชญาการเมืองและเศรษฐศาสตร์ แต่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดแถลงว่า เขาได้รับแค่ประกาศนียบัตรเท่านั้น ไม่ได้จบปริญญาชัยชนะอย่างท่วมท้นของ บองบอง มาร์กอส จูเนียร์ นักวิเคราะห์มองว่า เขาใช้ “โซเชียลมีเดีย” เป็น “อาวุธทางการเมือง” ในการ “โฆษณา ชวนเชื่อ” ด้วยการ สร้างข้อมูลเท็จใหม่ เพื่อลบล้างข้อมูลอื้อฉาวเดิมของตระกูล เรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน มาร์กอส ซีเนียร์ ผู้พ่อที่เป็นผู้นำจอมเผด็จการ โดยข้อมูลใหม่ระบุว่า ยุคเผด็จการมาร์กอสผู้พ่อ แท้ที่จริงแล้วเป็นยุคทองของฟิลิปปินส์ อดีตพนักงานบริษัทที่ปรึกษาทางการเมือง Cambridge Analytica ที่ อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เคยใช้บริการ เคยให้สัมภาษณ์ว่า มาร์กอส จูเนียร์ เคยติดต่อให้บริษัทช่วยล้างภาพเก่าๆของตระกูลมาร์กอสในโซเชียลมีเดียผมเปิดดูวิกิพีเดียล่าสุด ข้อมูลของ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ปัจจุบันถูกตัดลงไปสั้นมากเขียนถึง ชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ ของ มาร์กอส จูเนียร์ ทายาทการเมืองของ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตผู้นำเผด็จการฟิลิปปินส์ แล้ว ก็ให้นึกถึงประโยค แลนด์สไลด์ในการเมืองไทย เพราะวันนี้อิทธิพลโซเชียลมีเดียไทยก็แรงไม่แพ้โซเชียลมีเดียฟิลิปปินส์.“ลม เปลี่ยนทิศ”