บ้านโป่งศรี ต.บ้านถิ่น อ.เมืองแพร่ ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งจำหน่ายเครื่องเงินมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันประชากรร้อยละ 70 ของบ้านโป่งศรี ที่ประกอบด้วยไป 3 หมู่บ้านคือ หมู่ 4 หมู่ 6 และหมู่ 10 มีอาชีพซื้อขายแลกเปลี่ยนวัตถุเก่าและของเก่ามีค่า จำพวกเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ของใช้ในบ้าน ทั้งเครื่องเงิน ขันเงิน เข็มขัดเงิน และกำไลเงิน ฯลฯนายถวิล เป็งวงศ์ อายุ 73 ปี ชาวบ้านโป่งศรี เล่าว่า เดิมบรรพบุรุษชาวบ้านโป่งศรีมีอาชีพรับเครื่องเงิน และทองรูปพรรณจากร้านขายทองคำและเครื่องเงินใน อ.เมืองแพร่ นำไปจำหน่ายทั่วประเทศทำให้ชาวบ้านเห็นวัตถุเครื่องประดับมีค่าที่ชำรุดมากมาย ทั้งเข็มขัดเงิน กำไลเงิน สร้อยเงิน เหรียญเงิน จึงซื้อกลับมาหลอมใหม่ ทำเป็นเครื่องเงินรูปพรรณ หรือซ่อมแซมให้ดีขึ้นแล้วนำมาจำหน่ายที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือเครื่องเงิน เนื่องจากชิ้นงานมีความประณีต สวยเด่นกระทั่งราว 20 กว่าปีก่อนชาวบ้านแห่งนี้มีแนวคิดว่าน่าจะทำขันเงินขนาดใหญ่ เรียกว่า “ขันเงินหลวง” (สลุงเงินหลวง) ไว้เป็นอนุสรณ์ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์รากเหง้าของตนเองผ่านขันเงินหลวงทุกคนร่วมใจกันนำเครื่องเงินที่ตัวเองมีอยู่ เช่น ขันเงินเก่า เข็มขัด กำไล กระเป๋า และต่างหู น้ำหนักเงินรูปพรรณคนละ 3-5 บาท แล้วแต่จิตศรัทธา นำมาหลอมรวมกันเป็นเงินแท้ 92.5 เปอร์เซ็นต์จากนั้นนำไปให้ช่าง จ.เชียงราย ทำขันเงินหลวง แกะสลักลวดลายชนบทล้านนา รวมน้ำหนัก 14 กก. คิดเป็นเงินรูปพรรณหนัก 919 บาท ราคาประมาณ 1 ล้านบาทด้าน นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผวจ.แพร่ กล่าวว่า ขอชื่นชมชาวบ้าน โป่งศรีที่สละเครื่องเงินคนละเล็กละน้อยนำมาทำขันเงินหลวง ปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ที่วัดโป่งศรี และนำไปใช้แห่ในเทศกาลงานสำคัญต่างๆของจังหวัดเป็นการแสดงถึงเอกลักษณ์ของบ้านโป่งศรี หมู่บ้านอนุรักษ์ของใช้โบราณ และแหล่งจำหน่ายเครื่องเงินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแพร่.มณี ม่วงทอง/รายงาน