เรายังอยู่ในบรรยากาศของงานหนังสือแห่งชาติ จัดที่สถานีรถไฟฟ้าบางซื่อ นะครับ ผมเลือกหนังสือเล่มน้ำตาและรอยยิ้ม คาลิล ยิบราน เขียน กิติมา อมรทัต แปล สำนักพิมพ์แสงดาว พิมพ์ครั้งที่ 5 พ.ค.64 นี่เป็น หนึ่งเล่มในชุดนี้ซึ่งมีหลายเล่ม อ่านเรื่อง นายพูดพล่อยเรื่องนี้ยาวห้าหน้า ไม่เหลือวิสัย ที่คัดสาระ...เอามาย่อให้พอรู้เรื่องฉันเบื่อคนพูดพล่าม และคำพูดพล่อยๆของเขาเสียจริงๆเมื่อฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เพื่ออ่านจดหมายและนิตยสารที่วางอยู่ข้างเตียง ฉันได้เห็นมันเต็มไปด้วยคำพูดพล่อยๆ ไร้ความหมาย และเต็มไปด้วยความหน้าไหว้หลังหลอกเมื่อฉันไปทำงาน นายพูดพล่อยก็ตามฉันไปด้วย เขากระซิบใส่หูฉัน และเคาะสมองอันอ่อนไหวของฉันเล่นเมื่อฉันไปตลาด นายพูดพล่อยก็มายืนอยู่หน้าร้านทุกร้าน เที่ยววิพากษ์วิจารณ์ผู้คน ฉันแลเห็นเขา แม้กระทั่งบนใบหน้าของคนที่ไม่พูดถ้าฉันนั่งลงในหมู่เพื่อน นายพูดพล่อยก็เข้ามาเป็นบุคคลที่สามโดยไม่ได้รับเชิญเมื่อฉันไปที่ศาล และสถาบันการศึกษา ฉันก็พบเขาพร้อมด้วยพ่อแม่ของเขา ช่วยกันตกแต่งความเท็จด้วยเสื้อผ้าไหม และแต่งตัวให้ความหน้าไหว้หลังหลอก ด้วยเสื้อคลุมอันตระการตา และผ้าผูกผมที่สวยหรูเมื่อฉันไปเยือนโบสถ์วิหาร และสักการะสถานอื่นๆ เขาก็อยู่ที่นั่นด้วย นั่งอยู่บนแท่น สวมมงกุฎไว้บนหัว และถือคทาเป็นประกายอยู่ในมือเมื่อกลับมาบ้านในยามเย็น ฉันก็เห็นเขาอยู่ที่บ้านฉัน ห้อยหัวลงมาเหมือนกับงูพูดสั้นๆ เราจะพบนายพูดพล่อยได้ทุกหนทุกแห่ง ภายในท้องฟ้าและเหนือท้องฟ้า บนแผ่นดินและใต้ผืนดิน บนปีกของอวกาศและบนคลื่นในทะเล ในป่า ในถ้ำ และบนยอดเขาผู้รักความสงบจะหาที่พักให้ห่างไกลจากเขาได้ที่ไหนหนอ?พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมีเมตตาดวงวิญญาณของฉัน และทรงอนุญาตให้ฉันได้รับพรแห่งความเป็นใบ้ เพื่อที่ฉันจะได้พักอยู่ในสวรรค์แห่งความเงียบได้บ้างหรือไม่?ในจักรวาลนี้จะมีสักมุมหนึ่งไหม ที่ฉันจะได้หลบไปอยู่อย่างเป็นสุขตามลำพังของฉันได้?ในโลกนี้จะมีใครบ้างไหม? ที่จะไม่บูชาตัวเองด้วยคำพูดเราจะเห็นคนแปลกๆ ที่ผ่านเวลาไปยังหลุมฝังศพของชีวิต ด้วยการเฝ้าเปลี่ยนความเงียบให้เป็นเสียงร้องคร่ำครวญ ซึ่งละห้อยละเหี่ยเสียยิ่งกว่า เสียงเรียกของนกเค้าแมวนานทีปีครั้ง เราจะพบพวกพูดพล่อย ที่ถักโน่น สานนี่ อยู่ตลอดเวลา แต่ตัวเองกลับไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่เลยในจำนวนเหล่านี้ พวกที่แปลกที่สุด พวกที่นอนหลับ ซึ่งสมาชิกของมัน ทำความเดือดร้อนแห่งจักรวาล ด้วยเสียงกรน และปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้นเป็นพักๆ เพื่อจะกล่าวว่า เรานี่ช่างเรียนรู้มากเสียนี่กระไรเลยเมื่อได้แสดงความเกลียดกลัวนายพูดพล่อย และพรรคพวกของเขาออกมาแล้ว ฉันก็พบว่าตัวเองเป็นเหมือนหมอ ที่ไม่สามารถรักษาตัวเองได้ฉันได้พูดเย้ยเยาะนายพูดพล่อย ด้วยการพูดมากของฉันเอง ฉันพยายามหนีจากคนพูดพล่อย แต่ฉันสิกลับพูดพล่อยเสียเอง...เรื่องนายพูดพล่อยยังมีต่อไปจบอีกห้าบรรทัดข้างหน้านะครับ... แต่ผมขอขยักไว้ เพื่อให้ท่านไปหาฉบับเต็มๆ และหนังสือคาลิล ยิบราน อีกหลายๆเล่ม อ่านให้จุใจไปกันเองอ่านเรื่องนี้แล้ว มโนถึงวิล สมิธ นักแสดงนำยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์ เดินไปตบผู้ประกาศข่าวรางวัลให้ตัวเอง โทษฐานที่เป็นนายพูดพล่อย พูดด้อยค่าภรรยาที่รักข้างตัว เขาไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ ได้พูดอะไรออกไป.กิเลน ประลองเชิง