ประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ โต้กลับ ผบช.ภ.1 ปัดแทรกแซงการทำงานของตำรวจ คดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม” ยัน ไม่เคยก้าวก่ายสั่งการให้ทำอะไร เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นให้ข้อเสนอแนะด้วยความหวังดี จะนำไปปฏิบัติหรือไม่ก็ได้ อยากให้คดีกระจ่างไม่เกิดข้อครหาในสังคม มั่นใจระวังการทำงานเต็มที่ไม่ให้ผิดมาตรา 185 เตรียมประชุมเดินหน้าลงพื้นที่ลุยต่อ ด้านคดีตำรวจรอผลชันสูตรรอบสองจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ คาดภายใน 1-2 สัปดาห์ ก่อนเรียกแพทย์และผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวน ไล่เช็กคลิป-ภาพวงจรปิดพบถูกตัดต่อเกินครึ่งเอาไปเป็นหลักฐานไม่ได้ ประธานชุมชนพิบูลสงคราม 1 พร้อมกลุ่มแฟนคลับเตรียมจัดงานไว้อาลัยรำลึกการจากไปครบ 1 เดือนถึงแม้ว่าการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม-ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตจมแม่น้ำเจ้าพระยา อ.เมืองนนทบุรี จะล่วงเลยผ่านมานานร่วม 1 เดือนแล้ว มีแนวโน้มที่ตำรวจจะสรุปสำนวนคดีเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของคนขับเรือ แต่ในโลกโซเชียลยังไม่หายข้องใจหลายปมปริศนาที่น่าสงสัย ล่าสุด พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ซัดกลับ กมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ว่าก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานหรือไม่ ยืนยันตำรวจดำเนินการไปเกินกว่าข้อสั่งการ สอบปากคำพยานไปแล้ว 118 ปาก รวบรวมวัตถุพยานจากกล้องวงจรปิด 70 ตัว 200 ไฟล์ มือถือ 3 เครื่อง 14 คลิป วัตถุพยาน 40 รายการ 51 ชิ้น ตอนนี้ รอผลชันสูตรรอบสองจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ระบุข้อสั่งการของ กมธ.ให้ตำรวจตรวจสอบ 3 ประเด็นคือ การนำ 5 คนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ การสอบผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม และการเก็บหลักฐานของกลางเรือ อาจเข้าข่ายแทรกแซงเจ้าหน้าที่รัฐในการทำงานว่า คงเป็นความเข้าใจผิดของ ผบช.ภ.1 ยืนยันว่า กมธ.ไม่เคยสั่งการก้าวก่ายการทำงานของตำรวจ เพราะสั่งไม่ได้ สิ่งที่ กมธ.พูดในประเด็นต่างๆ ทั้งการนำตัวคนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ การสอบผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม และการเก็บเรือของกลางเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ให้ข้อเสนอแนะเท่านั้น ตำรวจจะนำไปปฏิบัติหรือไม่ก็ได้ ถ้าเห็นว่าสิ่งที่ กมธ.เสนอไปได้ตรวจสอบหมดแล้วก็ไม่เป็นไร เป็นการพูดด้วยความหวังดี ไม่ใช่แทรกแซง การทำงานของ กมธ.ทำตามขั้นตอน อย่างการลงพื้นที่แต่ละครั้งก็เป็นมติ กมธ. ไม่ได้ทำในนามส่วนตัว กมธ.ไม่เคยไปคาดคั้นอยากทราบรายละเอียดในสำนวนคดีประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา กล่าวต่อไปว่า ข้อเสนอของ กมธ.ใน 3 ประเด็นดังกล่าว อยากให้คดีเกิดความกระจ่าง ไม่เกิดข้อครหาในสังคม ยืนยันการหารือกันระหว่าง กมธ.กับตำรวจ ทั้งที่รัฐสภา และ สภ.เมืองนนทบุรี เป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ไม่มีการสั่งการ คงไม่ต้องไปเคลียร์ปรับความเข้าใจกับ ผบช.ภ.1 เนื่องจาก กมธ.ระมัดระวังการทำงานเต็มที่ ไม่ให้ผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 185 ที่ห้าม ส.ส. และ ส.ว.ไปก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานระบบราชการประจำของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ผู้อื่นหรือพรรคการเมือง สิ่งที่ กมธ.ทำไม่ได้เพื่อประโยชน์ตัวเองหรือผู้อื่น ฝากไปอ่านมาตรา 185 ให้ดีว่า กมธ.ทำงานตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง“อยากให้ ผบช.ภ.1 พิจารณาสิ่งที่แถลงใหม่ว่า ไม่มีการสั่งการ อย่าไปเชื่อในสิ่งที่ได้รับรายงานมาผิดๆ อย่ากังวล กมธ. ขอให้สบายใจได้ แต่สิ่งที่ ผบช.ภ.1 พูดมาทำให้ กมธ.ไม่สบายใจว่าไปแทรกแซงการทำงาน ทั้งนี้ในการประชุม กมธ.วันที่ 28 มี.ค.จะนำเรื่องนี้มาหารือเพื่อยืนยันไม่มีการก้าวก่ายการทำงานของตำรวจ กมธ.ยังสามารถตั้งข้อสังเกตต่างๆ เพิ่มเติมได้ และพร้อมลงพื้นที่ต่อไป ต่างคนต่างมีหน้าที่ตัวเอง กมธ.ทุกคนมีความอาวุโส มีชื่อเสียง ไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามผิดกฎหมายแน่นอน” นายสมชายกล่าวส่วนความคืบหน้าการทำสำนวนคดี พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า พนักงานสอบสวนยังปักหลักทำคดีตลอดทุกวัน ไม่มีวันหยุดที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและพยานอย่างละเอียดรอบคอบ ในประเด็นที่ยังไม่ได้สอบ หรือถ้าหากมีประเด็นไหนต้องสอบใหม่ก็จะเรียกพยานมาสอบเพิ่มเติม ตอนนี้มีพยานบุคคลและพยานแวดล้อมมากกว่า 118 ปาก ผลชันสูตรศพรอบแรกจากสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ส่งมาให้พนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแพทย์ผู้ผ่าชันสูตร และผู้เกี่ยวข้องในการผ่าชันสูตรรอบแรกหมดแล้ว เหลือเพียงผลการชันสูตรรอบสองจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ยังไม่ได้ส่งมาให้พนักงานสอบสวน คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์คงส่งมาให้ หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะเริ่มสอบปากคำแพทย์ และผู้เกี่ยวข้องในการผ่าชันสูตรลงในสำนวนการสอบสวนด้าน พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 และทีมสืบสวนภาค 1 ซึ่งทำหน้าที่ในการรวบรวมวัตถุพยานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดและคลิปต่างๆ เพื่อนำมาให้แผนกวิเคราะห์ข่าวตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งจากกล้องวงจรปิดที่ได้มาจากหน่วยงานราชการและคลิปที่ประชาชนนำมามอบให้ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าเกินกว่าครึ่งเป็นคลิปตัดต่อทั้งสิ้น จึงไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานทางคดีได้ บรรยากาศที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ยังมีแฟนคลับของแตงโมนำช่อดอกไม้สีขาวมาวางไว้อาลัยให้ดาราสาวผู้ล่วงลับอย่างต่อเนื่อง มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามาเร่ขายลอตเตอรี่กันคึกคัก นายเบียร์ อายุ 26 ปี เดินทางมาจากพระประแดง จ.สมุทรปราการ เผยว่า พี่สาวอยู่ต่างประเทศและเคยทำงานในกองถ่ายละครร่วมกับแตงโม บอกว่าฝันถึงแตงโมและให้ตนนำอาหารที่แตงโมชอบ 2 อย่างคือพะแนงหมูและหมูทอดกระเทียมมาให้ เผื่อแตงโมหิวก็แวะมาพักและทานข้าวตรงนี้ ขอให้หายเหนื่อย พักผ่อนหลับให้สบาย ไปสู่สุคติและช่วยดลใจให้คนเลวได้รับผลกรรมเร็วๆด้วย ต่อมาเวลา 14.30 น. สิตางศุ์ บัวทอง ดารานักแสดงและเน็ตไอดอลรุ่นใหญ่ เดินทางมาร่วมไว้อาลัยแตงโม พร้อมให้กำลังใจแฟนคลับ เนื่องจากไม่สามารถมาร่วมงานในวันที่ 27 มี.ค. เวลา 13.00 น. ที่ประธานชุมชนพิบูลสงคราม 1 และกลุ่มแฟนคลับนัดหมายรวมตัวกันจัดงานไว้อาลัยรำลึกถึงการจากไปครบ 1 เดือน ส่วนด้านคดี อยากให้ตำรวจตรวจสอบว่าเป็นไปได้หรือไม่ในประเด็นที่ 5 คนบนเรือให้ปากคำว่า น้องแตงโมไปปัสสาวะที่ท้ายเรือแล้วพลัดตกน้ำไป ไม่เชื่อว่าจะมีผู้หญิงที่ไหนเขาจะทำกัน ถามคนทั้งประเทศได้เลย