ค.ศ.1912 ดร.ซุนยัตเซ็น ประธานาธิบดีสาธารณรัฐจีน ประกาศเปลี่ยนเมืองหลวงมณฑลกว่างซี จากเมืองกุ้ยหลินเป็นนครหนาน หนิง ค.ศ.1949 เหมาเจ๋อตง ประธานสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกาศเปลี่ยนสถานะของกว่างซี จากมณฑลเป็นเขตปกครองตนเอง เมืองที่มีชื่อเสียงของกว่างซีมีหนานหนิง เป่ย์ไห่ (เมืองท่าค้ามุก) หลิ่วโจว (ศูนย์กลางทางรถไฟและการคมนาคม) อู่โจว (เมืองท่าบนฝั่งแม่น้ำซีเจียง) และกุ้ยหลิน (ศูนย์กลางวัฒนธรรมและเมืองท่องเที่ยวนานาชาติ)กว่างซีมีชื่อเสียงด้านอาหารการกิน 1 ใน 3 ของสมบัติแห่ง กว่างซีคือ เต้าหู้ยี้ น้ำพริก และเหล้าซานฮวา พ.ศ.2562 พ่อผมได้รับเชิญให้ไปสักการะศาลจอหงวนเฉินฮงมู ข้าราชการแห่งหมู่บ้านหลินซื่อถางเฮิงซาน จอหงวนเฉินฮงมูเป็นผู้นำเต้าหู้ยี้กุ้ยชิงเฉินของกุ้ยหลินไปถวายพระเจ้าเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง เหตุผลที่โรงงานและชุมชนจีนโบราณแห่งนี้เชิญเราไปสักการะ เพราะต้องการใช้พ่อเป็นประธานการส่งออกเต้าหู้ยี้กุ้ยชิงเฉินไปจำหน่ายให้คนจีนในต่างประเทศซึ่งกระจายอยู่ทั้งโลก (ชมคลิปใน Line Voom โดย การแอดไลน์ไอดี @ntp59 และทักทายด้วยคำว่า “สวัสดี”)บ้านของเราอยู่ในเมืองหลินกุ้ย (เขตขยายของกุ้ยหลิน) แต่พอถึงตอนที่ลูกชายคนที่ 2 จะคลอด ญาติขอให้ไปคลอดในโรงพยาบาลที่หลิ่วโจว ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างนครหนานหนิงกับเมืองกุ้ยหลิน พวกเราจึงคุ้นเคยกับเมืองหลิ่วโจวพอสมควร เมื่อปีที่แล้ว ค.ศ.2021 นายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเดินทางไปหลิ่วโจว เพื่อไปเยือนโรงงานทำก๋วยเตี๋ยวหลัวซือ (หลัวซือเฝิ่น)การเดินทางไปโปรโมตและทานก๋วยเตี๋ยวหลัวซือของประธานาธิบดีสี ทำให้ก๋วยเตี๋ยวซึ่งเดิมเป็นแค่อาหารถิ่น กลายเป็นอาหาร ระดับชาติและดังไปทั้งโลก ยอดการจำหน่ายทั้งอุตสาหกรรมของก๋วยเตี๋ยวหลัวซือใน ค.ศ.2021 มีมูลค่าเกิน 5 หมื่นล้านหยวน หรือ 2.6 แสนล้านบาท และยังพุ่งขึ้นไปอย่างไม่หยุดยั้ง คาดว่า ค.ศ.2022 ตัวเลขอาจจะมากถึง 3-4 แสนล้านบาทก๋วยเตี๋ยวหลัวซือของเมืองหลิ่วโจว มีฉายาว่า ทุเรียนฉบับบะหมี่ หรือ durian of soup เพราะมีกลิ่นแรงมาก เส้นก๋วยเตี๋ยว ทำจากข้าว เคี้ยวหนึบๆ น้ำซุปหอยหลัวซือรสชาติเผ็ดร้อน ผสมกับ หน่อไม้ดอง ถั่วฝักยาว ถั่วลิสง และฟองเต้าหู้รัฐบาลจีนโปรโมตอาหารอย่างเป็นระบบและทำงานอย่างละเอียดทุกขั้นตอน อันดับแรก คณะรัฐมนตรีจะประกาศรายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในระดับชาติ มีการแสดงถึงวิธีการปฏิบัติและการแสดงออกทางวัฒนธรรม ก๋วยเตี๋ยวหลัวซือเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการเผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว และประสบความสำเร็จอย่างมาก ยอดขายกระฉูดไปทั้งโลก แม้แต่ในเมืองไทยเอง ตอนนี้ก็สามารถหาก๋วยเตี๋ยวหลัวซือกึ่งสำเร็จรูปทานได้หลังจากประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม และประธานาธิบดีเดินทางไปทานก๋วยเตี๋ยวหลัวซือด้วยตัวเองแล้ว รัฐบาลก็จัดงาน The World Rice Noodle Expo ที่เมืองหลิ่วโจว ระหว่าง 5-7 พฤศจิกายน 2564 โดยเอาก๋วยเตี๋ยวหลัวซือเป็นพระเอก คนจีนมีวัฒนธรรมการกินอาหารเส้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เส้นหมี่ขาวที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า จีนและฮ่องกงมีความต้องการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากถึงปีละ 46,350 ล้านห่อ ทิ้งห่างอินโดนีเซียที่รั้งอันดับ 2 อยู่ถึง 3.6 เท่าผมทดลองนำอาหารท้องถิ่นไทยไปเสนอในเมนูให้ผู้บริโภคชาวจีน ปรากฏว่าได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีสมุนไพรไทยเป็นส่วนประกอบ นอกจากขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด แล้ว พวกเร่วหอม ส้มระกำ ลูกสันดาน ใบชะมวง กระวาน สำรอง ไพล ขมิ้นขาว (ว่านม่วง) ขมิ้นชัน และจันทน์เทศ ก็ยังทำให้คนจีน หลงใหลในรสชาติอาหารไทยอย่างมากอีกด้วยนำการโปรโมตก๋วยเตี๋ยวหลัวซือของรัฐบาลจีนที่นำเงินเข้าสู่ท้องถิ่นเมืองหลิ่วโจวได้มากถึงปีละ 2.6 แสนล้านบาท มาเขียนรับใช้ ด้วยความหวังว่า รัฐบาลท้องถิ่นของไทยอาจจะนำวิธีการโปรโมตของจีนไปปรับใช้ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาหารท้องถิ่นของเราครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com