รศ. ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เปิดเผยว่า ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษาเป็นปัญหาสำคัญของการศึกษาไทยในปัจจุบัน คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา จึงมีเป้าหมายสำคัญในการป้องกันเด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยด้าน ดร.ไกรยส ภัทราวาท กรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และรองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า ความยากจนถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทย ซึ่งนำไปสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและปัญหาเด็กหลุดออกนอกระบบ กสศ. จึงจัดทำโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข หรือ “ทุนเสมอภาค” ซึ่งเป็นมาตรการเชิงป้องกันที่เน้นให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในระบบการศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กกลุ่มนี้หลุดออกจากระบบการศึกษา และมีโอกาสที่จะได้ศึกษาต่อในระดับชั้นที่สูงขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะต่อไปได้ โดยนักเรียนที่ได้รับทุนเสมอภาค ต้องรักษาอัตราการมาเรียนให้สูงกว่าร้อยละ 80-85 ของเวลาเรียน มีพัฒนาการให้สมวัยตามเกณฑ์ของกรมอนามัยดร.ไกรยสกล่าวต่อว่า จากงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรในปี 2564 กสศ.ได้ช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายแล้วจำนวน 1.244 ล้านคน ผ่านทุนเสมอภาคในอัตรา 3,000 บาท/คน/ปีการศึกษา ผลการประเมินขั้นต้นพบว่ากลุ่มที่เคยขาดเรียนเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2 วัน ขาดเรียนลดลงเหลือสัปดาห์ละครึ่งวัน และในปีการศึกษา 2563-2564 นักเรียนทุนเสมอภาคกว่าร้อยละ 95 ยังคงอยู่ในระบบการศึกษา ปัจจุบันให้ทุนกับเด็กระดับชั้นประถม-ม.ต้น เป็นหลัก กสศ.จึงมีข้อเสนอเชิงนโยบายถึงภาครัฐในการขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังระดับชั้นอนุบาล เพื่อสนับสนุนให้เด็กได้เข้าเรียนทันเวลาเพื่อพัฒนาการที่สมวัย และกลุ่มระดับ ม.ปลาย เนื่องจากพบว่าเป็นวัยที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องมีการปรับอัตราเงินอุดหนุนให้สอดคล้องกับระดับการศึกษาและค่าครองชีพในปัจจุบัน ภายใต้เงื่อนไขอัตราการมาเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80-85 เพื่อให้การใช้จ่ายด้านการศึกษามีประสิทธิภาพคุ้มค่าสูงสุด แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ทั้งเกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจในด้านการแก้ไขความยากจนข้ามชั่วคนของประเทศอีกด้วย.