ผลตรวจพนักงานเสิร์ฟที่ใกล้ชิดนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่พบติดเชื้อ “โอมิครอน” ในไทยรายแรก ออกแล้วไม่เจอเชื้อ แต่เพื่อไม่ประมาทยังต้องเฝ้าดูอาการและตรวจอีกครั้งระหว่างกักตัว ส่วนกลุ่มเสี่ยง 16 คนผลเป็นลบ นายกฯวอนคนไทยอย่าตระหนก “โอมิครอน” เชื่อไทยรับมือไหว ส.อ.ท. แนะรัฐบาล จัดเต็มกิจกรรมปีใหม่ฟื้นเศรษฐกิจ ไม่อยากให้ขวัญผวาโอมิครอนมากไปจนต้องยกเลิก แต่ต้องอยู่ใต้มาตรการเข้มข้น เชียงใหม่ร้านนวดเริ่มกลับมาเปิดบริการลูกค้า มุกดาหารโควิดยังไม่สงบ ชุมพรตั้งศูนย์พักคอยหลังเจอคลัสเตอร์ฟันน้ำนมไทยผวาเชื้อ “โอมิครอน” หลังพบนักท่องเที่ยวชายชาวอเมริกันเป็นผู้ติดเชื้อในไทยรายแรก และยังมีผู้สัมผัสใกล้ชิดที่ถือว่าเป็นผู้เสี่ยงสูงเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหาร โดยผลตรวจหาเชื้อครั้งแรกจากพนักงานเสิร์ฟรายนี้ยังไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด ทว่าเพื่อความไม่ประมาทได้ถูกกักตัวไว้ก่อนเพื่อสังเกตอาการ ติดเชื้อต่ำ 3 พันกว่าดับอีก 31เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในไทยว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 3,525 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 31 ราย เป็นชาย 20 ราย หญิง 11 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 22 ราย มีโรคเรื้อรัง 8 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ใน จ.เชียงใหม่ 4 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,148,766 ราย ยอดหายป่วยสะสม 2,061,374 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 20,997 ราย ยอดฉีดวัคซีนสะสม 95,616,058 โดส 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 7 ธ.ค. ได้แก่ กทม. 810 ราย นครศรีธรรมราช 271 ราย ชลบุรี 162 ราย สงขลา 159 ราย สุราษฎร์ธานี 153 ราย ปัตตานี 110 ราย เชียงใหม่ 95 ราย นครสวรรค์ 95 ราย สมุทรปราการ 93 ราย ตรัง 80 รายยัน พนง.เสิร์ฟไม่ติดโอมิครอนที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงความคืบหน้าผลการสอบสวนโรค ชายชาว อเมริกัน อายุ 35 ปี ที่เดินทางมาจากสเปนและพบเชื้อ “โอมิครอน” รายแรกของไทยว่า ยังไม่มีอาการแต่อย่างใด แต่จะติดตามอาการทุกวันจนครบกำหนดกักตัว 14 วัน นับจากวันแรกที่เดินทางเข้าไทยวันที่ 30 พ.ย. ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อรายนี้มี 17 คน ผลการตรวจหาเชื้อพบเป็นลบ 16 คน ถูกกักตัว 14 วัน และจะต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้งก่อนครบวันกักตัว อีก 1 คนเป็นชายไทย อายุ 44 ปี อาชีพพนักงานเสิร์ฟ ผลตรวจหาเชื้อยืนยันเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. ไม่พบเชื้อ ทั้งนี้ ชายดังกล่าวไม่เคยมีประวัติติดเชื้อมาก่อน เป็นไปได้ว่าอาจติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว และหายแล้ว อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการตรวจหาเชื้อพนักงานเสิร์ฟรายนี้ด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้งในวันที่ 12-13 ของการกักตัวกักตัวสังเกตอาการคนใกล้ชิดนพ.จักรรัฐกล่าวต่อว่า พนักงานเสิร์ฟชายรายนี้ แม้จะเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนรายแรก แต่ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำเพราะพบกัน 1 ครั้ง และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาทั้ง 2 คน ไทม์ไลน์ของพนักงานเสิร์ฟ คือ วันที่ 29-30 พ.ย. หยุดอยู่บ้าน ไปตลาดปากซอย วันที่ 1 ธ.ค. เสิร์ฟอาหารให้กับชายชาวอเมริกัน นำเอกสารให้เซ็น ใช้เวลา 5-10 นาที โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา วันที่ 2 ธ.ค.ปฏิบัติงานในโรงแรม วันที่ 3 ธ.ค. เดินทางกลับบ้านที่ จ.อุบลราชธานี พร้อมครอบครัวอีก 4 คน แวะรับญาติที่ จ.นครราชสีมา 1 คน รวม 6 คน ทั้งหมดสวมหน้ากากตลอดเวลา วันที่ 4 ธ.ค. อยู่บ้านตลอด ได้รับแจ้งว่าเป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยโควิด วันที่ 5 ธ.ค. เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อ วันที่ 6 ธ.ค. กลับกรุงเทพฯ เข้าตรวจหาเชื้ออีกครั้งที่สถาบันบำราศนราดูร เมื่อผลออกเป็นลบก็กักตัวต่อ ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดกับพนักงานเสิร์ฟรายนี้ มี 5 คน ถูกกักตัวเพื่อสังเกตอาการไปเที่ยว ตปท.ป้องกันตัวให้มากผอ.กองระบาดวิทยากล่าวว่า ส่วนสถานการณ์สายพันธุ์โอมิครอน ทั่วโลกพบแล้ว 54 ประเทศ ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการหรืออาการน้อย คล้ายโรคไข้หวัดยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อโอมิครอนเสียชีวิต สำหรับมาตรการป้องกันในประเทศไทย จะต้องฉีดวัคซีนโควิดให้ครอบคลุมมากที่สุด ป้องกันตนเองตลอดเวลา โดยเฉพาะคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ ขอให้ป้องกันตนเองตลอดเวลาเช่นกัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อและนำเข้าเชื้อมาในประเทศ คนปฏิเสธวัคซีนมักชะล่าใจด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตได้สำรวจกลุ่มประชาชนที่ปฏิเสธวัคซีนพบว่า มีความชะล่าใจต่อสถานการณ์การแพร่ระบาด อีกทั้งจากการสำรวจประชากรในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จากกลุ่มตัวอย่าง 604 ราย พบว่า ร้อยละ 53.81 ไม่เชื่อมั่นในวัคซีนเรื่องความปลอดภัยและผลข้างเคียง ส่วนช่องทางการรับวัคซีน พบปัญหาความไม่สะดวกในการเดินทางไปรับวัคซีนและไม่สะดวกเรื่องการนัดหมายกำชับคุมชายแดนเข้มที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติป้องกันเชื้อโอมิครอนว่า เรากำชับป้องกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะ ศบค. เตรียมการอยู่แล้ว ส่วนแรงงานผิดกฎหมายเราจับได้จำนวนมาก ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลพื้นที่ เพราะเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่เราสั่งการให้ทำงานเข้มข้นขึ้น วอนคนไทยอย่าตระหนกนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีข้อสั่งการและแสดงความเป็นห่วงถึงเรื่องการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรก ในไทยว่า ขอให้คนไทยตระหนัก แต่อย่าตระหนก ขอให้มั่นใจว่าไทยมีความพร้อมทั้งเรื่องสถานพยาบาล ระบบเฝ้าระวัง คัดกรอง ติดตาม ตรวจสอบ มีวัคซีนป้องกันอาการรุนแรงและการเสียชีวิตในอนาคต ทั้งนี้ ไวรัสโควิด-19 ยังสามารถกลายพันธุ์ได้อีกเพิ่มเติม นายกฯได้ขอบคุณและมอบกำลังใจไปยังคณะแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคนไทยทุกคน ขอให้ช่วยกันรักษาสถิติการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งวันนี้มียอดต่ำกว่า 4,000 ราย และย้ำว่าจะยังไม่มีการล็อกดาวน์ยังไม่ถึงขั้นล็อกดาวน์นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ถึงสถานการณ์โอมิครอนว่า ยังไม่จำเป็นต้องเสนอ มาตรการถึงขั้นต้องล็อกบางส่วนเพื่อป้องกันเรื่องท่องเที่ยว การพบเชื้อกลายพันธุ์ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะโรคระบาดเราไม่สามารถปิดกั้นได้ ตามข้อมูลยังไม่พบว่าเชื้อโอมิครอนมีอาการรุนแรง ตามมาตรการ สาธารณสุขไทยหากผู้ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรง 80% สามารถใช้วิธีโฮมไอโซเลชันได้รอข้อมูลชัดก่อนออกมาตรการนายสาธิตกล่าวอีกว่า ในที่ประชุม ครม.นายกฯกำชับมาตรการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน แต่มาตรการต่างๆภายในประเทศยังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง เพราะเรายังไม่รู้โอมิครอนรุนแรงมากน้อยแค่ไหน แล้วจะส่งผลกับคนกลุ่มใดมากที่สุดเป็นพิเศษหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลทั้งโลกยังไม่เพียงพอ คงต้องรอดูประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะชัดเจนเกี่ยวกับลักษณะของเชื้อ เมื่อถามว่า กิจกรรมช่วงปีใหม่ ยังดำเนินการได้ใช่หรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า มาตรการ ทุกอย่างยังคงยึดตามมติ ศบค.ก่อนหน้านี้ ยังไม่มีมาตรการอะไรใหม่ออกมา ต้องรอความชัดเจนของเชื้อก่อน มีแผนสำรองถ้ากระทบเอเปกที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อสังเกตว่าการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โอมิครอน อาจมีผลต่อการจัดรูปแบบการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) และการประชุมที่เกี่ยวข้องในปี 2565 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพว่า ตอนนี้ยังอีกไกลอย่าเพิ่งไปกังวล แต่ยืนยันเราเตรียมแผนสำรอง รองรับกรณีเกิดสถานการณ์ต่างๆ ต้องดูภาพใหญ่ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ จะมาเยือนประเทศไทยภายในเดือนนี้ ขอให้ติดตามดูแล้วกัน บุคคลสำคัญของต่างประเทศทยอยเดินทางเข้ามากันเรื่อยๆ เพราะไทยเป็นประเทศที่ใครๆก็อยากเดินทางเข้ามาสร้างปฏิสัมพันธ์ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบ้านเมืองเราคือ ช่วยกันเดินหน้าพัฒนาประเทศต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งสมาคมไร่อ้อยเข้มกันโควิดนายมนตรี เลาหศักดิ์ประสิทธิ์ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 6 กำแพงเพชร เปิดเผยว่า สมาคมฯ กำหนดวันเปิดหีบแล้วในวันที่ 16 ธ.ค. และกำหนดให้คนขับรถบรรทุกอ้อยต้องผ่านการฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม พร้อมตรวจหาเชื้อโควิด-19 หรือตรวจ ATK ก่อนเปิดหีบเป็นเวลา 7 วัน ต้องแสดงเอกสารผลตรวจ ATK ก่อนนำอ้อยเข้าโรงงาน หากไม่ปฏิบัติตามทางโรงงานจะไม่อนุญาตให้นำรถบรรทุกอ้อยเข้าภายในโรงงานโดยเด็ดขาดร้านนวดกลับมาเปิดแล้วที่ จ.เชียงใหม่ พนักงานร้านลีลานวดไท สาขาถนนพระปกเกล้า อ.เมืองเชียงใหม่ ช่วยกันฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์สำหรับให้บริการลูกค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า หลังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งผ่อนคลายมาตรการ อนุญาตให้ร้านนวดกลับมาเปิดบริการได้อีกครั้งภายใต้มาตรฐานโควิดฟรีเซตติ้ง น.ส.วรินทิพย์ สุวรรณเดช พนักงานในร้านเผยว่า ร้านได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA Plus และมาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กรจากกรมอนามัย พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวออกข่าวสำรวจ พบร้านนวดแผนไทยและสปาในตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ขณะที่หลายแห่งที่ได้รับผลกระทบจากโควิดตัดสินใจปิดกิจการถาวร คาดว่าจะมีธุรกิจร้านนวดแผนไทยกลับมาเปิดให้บริการไม่ถึง 50% จากที่เคยมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 3,000 แห่ง มุกดาหารโควิดยังไม่สงบที่ จ.มุกดาหาร หลังจากศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดมุกดาหาร พบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นกลุ่มก้อนรวม 97 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ต้องเฝ้าระวังกว่า 100 รายนั้น เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าตรวจเชิงรุกชาวบ้าน ที่บ้านดงมอน หมู่ 1-2-3 ต.ดงมอน รวม 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เคยตรวจและกลุ่มที่ไม่เคยตรวจ นายพรชัย พุดซ้อน นอภ.เมืองมุกดาหาร เผยว่า ต.ดงมอน มีโควิดระบาดตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พ.ย. จึงได้ตรวจคัดกรองชาวบ้านหมู่ 1 และหมู่ 2 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงประมาณหนึ่งพันคน พบผู้ติดเชื้อ 97 ราย ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลมุกดาหาร วันนี้เป็นการตรวจครั้งที่ 2 หลังครบเจ็ดวันหลังจากตรวจครั้งแรก ทราบว่า มีเด็กนักเรียนชั้น ป. 2 ติดเชื้อที่โรงเรียนดงมอน ทำให้จะต้องนำเด็กนักเรียนทั้งหมดเข้ามาตรวจตรวจเสี่ยงสูงคลัสเตอร์อนุบาลที่หอประชุมโรงเรียนบ้านนาเจริญ อ.เมืองบึงกาฬ นายกงพัฒน์ แกมนิล ผอ.รพ.สต.หนองเลิง นำเจ้าหน้าที่ รพ.สต.หนองเลิง อสม.และผู้นำชุมชน ตรวจคัดกรองเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงสูงหลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ ต. หนองเลิง ที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากคลัสเตอร์โรงเรียนอนุบาลวีรวิชญ์ อ.ปากคาด ขณะที่ตำรวจ สภ.บึงกาฬก็เข้าตรวจเชิงรุกหลังมีผู้ติดเชื้อโควิดมาใช้บริการที่โรงพัก ด้านศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬรายงานพบผู้ติดโควิด-19 ใหม่ 20 ราย เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากสถานบริการในตลาดคับคั่ง 12 ราย โดยคลัสเตอร์นี้มีผู้ป่วยสะสมแล้ว 51 ราย กระจายไปตามตำบลต่างๆตั้งศูนย์พักคอยคลัสเตอร์ฟันน้ำนมที่ จ.ชุมพร หลังเกิดคลัสเตอร์ฟันน้ำนมที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดหน้าค่าย สังกัด อบต.ปากคลอง อ.ปะทิว หลังจากเปิดเรียนได้ไม่ถึง 1 เดือน มีนักเรียนซึ่งเป็นเด็กเล็กอายุ 3-5 ขวบ ติดโควิดนับ 10 ราย ครู 1 ราย ผู้ปกครอง 4 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องถูกกักตัวอีกกว่า 30 ครัวเรือน ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอปะทิว นำโดยนายกิติพงค์ โสมณะ ปลัดอำเภอปะทิว จึงสั่งจัดตั้งศูนย์พักคอยและแยกกักกัน 60 เตียง ที่วัดหน้าค่าย หมู่ที่ 1 ต.ปากคลอง เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดในพื้นที่ กบินทร์บุรีผวาโควิดที่ จ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลตำบลเมืองหนองกี่ อ.กบินทร์บุรี ต้องเปิดศูนย์พักคอยอีกครั้งหลังเพิ่งปิดไปได้ไม่นาน รับผู้เสี่ยงสูงที่สัมผัสผู้ป่วยโควิดกว่า 200 ราย จากคลัสเตอร์ใหม่ ที่เป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี การระบาดเกิดจากการทำงานในแผนกเดียวกัน โดยผู้ป่วยโควิดคลัสเตอร์นี้พุ่งถึง 50 ราย อีกกว่า 30 รายกำลังรอผลตรวจในวันที่ 7 ธ.ค. ทั้งนี้ หลังโควิด-19 ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี กลับมาระบาดอีกครั้งทำให้ประชาชนในพื้นที่ต่างเกิดความหวาดกลัวอีกครั้งแนะรัฐจัดปีใหม่ฟื้นเศรษฐกิจวันเดียวกัน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ส.อ.ท. ต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าจัดกิจกรรมเทศกาลปีใหม่ 2565 อย่างเต็มที่เหมือนเดิม เพราะไม่ได้จัดมาแล้ว 2 ปี เพื่อช่วยฟื้นเศรษฐกิจที่กำลังค่อยๆปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าไทยเริ่มพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนแล้วก็ตาม เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญที่แอฟริกา ได้วิเคราะห์ข้อมูลเชื้อดังกล่าวยังไม่รุนแรงมาก ทั้งนี้ หากถามว่า มีความกังวลเท่าเดิมหรือไม่ มองว่า กังวลน้อยลง เพราะที่ผ่านมาตอนสายพันธุ์เดลตาระบาดรุนแรงประเทศ ไทยยังไม่มีการฉีดวัคซีนกระจายเหมือนในปัจจุบันและมีการเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่ตอนนี้ไทยได้กระจายการฉีดวัคซีนแล้ว ที่สำคัญต้องเข้มข้นกับการป้องกัน และมาตรการคัดกรองให้เข้มงวดต่อไป ไม่อยากให้รัฐบาลวิตกกังวลมาก แต่ก็ต้องไม่ประมาท อยากให้ทุกส่วนร่วมมือกันดูแลอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดการล็อกดาวน์ หรือมาตรการเคอร์ฟิว รวมทั้งการปิดประเทศอีกWHO ไม่แนะนำใช้พลาสมาวันเดียวกัน องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า การนำพลาสมาของผู้ที่ฟื้นตัวจากไวรัสโควิด-19 มาใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางหรือล้มป่วยรุนแรง ตามสมมติฐานที่ว่า ภูมิคุ้มกันในพลาสมาที่รู้วิธีจัดการไวรัสโควิดมาแล้ว จะช่วยยับยั้งไวรัสในร่างกายของผู้ป่วยรายอื่นได้นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ได้ผล โดยงานวิจัย 16 ชิ้น ทดลองกับผู้ป่วย รวม 16,236 คน พบหลักฐานตรงกันว่า พลาสมาของผู้ที่หายป่วยจากไวรัส ไม่ได้เพิ่มอัตราการรอดชีวิต หรือลดโอกาสในการใช้เครื่องช่วยหายใจของผู้ป่วยที่มีอาการเบาบาง ปานกลางหรือรุนแรง ทั้งการใช้พลาสมามีค่าใช้จ่ายสูงและ กินเวลา ด้วยเหตุนี้ ขอออกคำแนะนำอย่างหนักแน่น ไม่ให้ใช้พลาสมาในการรักษาผู้ป่วยอีกต่อไปยืนยันวัคซีนสูตรไขว้ให้ผลดีขณะที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด อังกฤษ เผยผลวิจัยผ่านวารสารการแพทย์เดอะ แลนเซท เรื่องการใช้วัคซีนสูตรไขว้ สำหรับรับมือเชื้อกลายพันธุ์ “เบตา” และ “เดลตา” โดยพบว่าสูตรที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาหรือไฟเซอร์ 2 โดส คือการฉีดแอสตราเซเนกาหรือไฟเซอร์เป็นเข็มแรก แล้วเว้นระยะเวลา 9 สัปดาห์ จึงฉีดเข็มที่สองด้วยวัคซีนโมเดอร์นา หรือโนวาแวกซ์ สหรัฐฯ งานวิจัยครั้งนี้ทดสอบกับอาสาสมัคร 1,070 คน ที่หลังจากได้รับวัคซีนสูตรไขว้ มีการตอบสนองของภูมิคุ้มกันสูงกว่าการฉีดวัคซีนชนิดเดียวกันสองโดส พร้อมระบุว่าการทดสอบไม่พบปัญหาเรื่องความปลอดภัย ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศรายงานด้วยว่า ก่อนที่จะมีผลการศึกษายืนยันแน่ชัดอย่างในครั้งนี้ หลายประเทศได้อนุมัติใช้วัคซีนสูตรไขว้ไปแล้ว ไม่ว่าประเทศไทย อินโดนีเซียหรือแคนาดา