ผมขอแสดงความเสียใจต่อ ครอบครัวอาจารย์โกร่ง กับการจากไปของ ดร.“โกร่ง” วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกฯ อดีตรัฐมนตรีคลัง นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง ด้วยความอาลัยอย่างยิ่ง ผมรู้จักกับอาจารย์โกร่งตั้งแต่อาจารย์สอนหนังสือที่คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาฯ ได้คุยกันมากเป็นพิเศษตอนที่อาจารย์เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี และสนิทกันมากขึ้นเมื่อ อาจารย์โกร่ง ไปเรียนวิชาโหราศาสตร์กับ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร โหราศาสตร์ชื่อดังที่พยากรณ์ด้วยหลักโหราศาสตร์สากล คำนวณการเคลื่อนย้ายของดวงดาวละเอียดเป็นพิลิปดาเพื่อความแม่นยำช่วงที่ ดร.โกร่ง เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ นายกฯเปรม ทำให้มีการ คิดต้นทุนการปลูกข้าวต่อไร่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย แต่เดิมกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ ไม่เคยมีตัวเลข ต้นทุนปลูกข้าวต่อไร่ของชาวนาไทย จนกระทั่ง ป๋าเปรม ถามขึ้นในที่ประชุมเหตุการณ์สำคัญที่สุดในยุค “ป๋าเปรม” ที่เกี่ยวข้องกับ ดร.โกร่ง ก็คือ การลดค่าเงินบาทในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2527 จากอัตราแลกเปลี่ยน 23 บาทต่อดอลลาร์ เป็น 27 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ สมัยนั้นเงินบาทผูกค่าไว้กับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อสหรัฐฯพิมพ์เงินดอลลาร์ออกมามากๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่สนใจมูลค่าเงินดอลลาร์ที่อิงกับทองคำ ทำให้ค่าเงินบาทที่ผูกติดกับดอลลาร์มีค่าสูงเกินจริงถึง 35.9% ส่งผลกระทบต่อการส่งออกอย่างรุนแรง ทำให้สินค้าไทยแพงขึ้นโดยเฉพาะสินค้าเกษตรของไทย2 พฤศจิกายน 2527 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจลดค่าเงินบาท ตามที่ คุณสมหมาย ฮุนตระกูล (ปู่สมหมาย) รัฐมนตรีคลัง เสนอ ลดค่าเงินบาทลง 15% จาก อัตราแลกเปลี่ยน 23 บาทต่อดอลลาร์ เป็น 27 บาทต่อดอลลาร์ และ ปรับปรุงระบบ การแลกเปลี่ยนเงินตรา จากการผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น “ตะกร้าเงิน” ที่ประกอบด้วยเงินตราสกุลหลักหลายสกุล แต่ยังคงสัดส่วนดอลลาร์สหรัฐฯไว้มากที่สุดการลดค่าเงินบาทวันนั้น แม้จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ ทำให้ราคานํ้ามันเพิ่มสูงขึ้นทันที แต่หลังจากนั้นก็ช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว การลดค่าเงินบาทช่วยให้การส่งออกไทยดีขึ้น ทั้งสินค้าอุตสาหกรรมและเกษตร ทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงปี 2530–2533 รุ่งเรืองมาก เกิดอีสเทิร์นซีบอร์ด หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก เป็นยุคที่เรียกขานกันว่า “ยุคโชติช่วงชัชวาล” ความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจไทยในยุคนั้นได้เป็น “บุญเก่า” ให้รัฐบาลยุคหลังผลาญกันอีกเป็นสิบปี กว่าเศรษฐกิจไทยจะทรุดลงอีกครั้งจนต้องลดค่าเงินอีกในปี 2540ก่อนที่ คุณสมหมาย จะประกาศการลดค่าเงินบาทอย่างเป็นทางการในเช้าวันรุ่งขึ้น ช่วงบ่ายวันนั้น พล.อ.ประจวบ สุนทรางกูร รองนายกฯ ซึ่งมีความสนิทสนมกับสื่ออาวุโสจำนวนมาก ได้ติดต่อบรรณาธิการและคอลัมนิสต์อาวุโสให้พบกับ คุณสมหมาย ในช่วงคํ่าโดยบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะชี้แจง แต่ขอให้เป็นความลับ ผมและสื่อทุกสำนักก็ไปกันพร้อมหน้า คุณสมหมายได้แจ้งเรื่องการลดค่าเงินบาทให้ทราบ โดยอธิบายถึงเหตุผลความจำเป็นต่างๆ และให้สื่ออาวุโสซักถามล่วงหน้าอย่างเปิดอก เพื่อให้หายสงสัยก่อนประกาศเป็นทางการ ส่งผลให้การประกาศลดค่าเงินบาทในวันรุ่งขึ้นเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ที่ไม่ราบรื่นก็คือในคํ่าวันเดียวกัน พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ผบ.ทบ. ออกทีวีคัดค้านการลดค่าเงินบาท ส่งผลให้ พล.อ.อาทิตย์ ถูกปลดออกจาก ผบ.ทบ.ผมมารู้จาก ดร.โกร่ง ภายหลังว่า เมื่อ พล.อ.เปรม ตัดสินใจลดค่าเงินบาทแล้ว ก็มีการเตรียมการหลายด้าน หนึ่งในนั้นก็คือ “การวางฤกษ์วันเวลาประกาศลดค่าเงินบาท” โดยให้ ดร.โกร่ง ซึ่งเรียนวิชาโหราศาสตร์มาจาก อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร เป็นผู้รับผิดชอบ และได้มีการไปวางฤกษ์ยามกันอย่างลับๆที่บ้าน อาจารย์เทพย์ ซอยหลังสวนนั่นเองก็เป็นเสี้ยวหนึ่งในประวัติศาสตร์การเงินไทยที่เป็นความลับมานานถึง 37 ปี.“ลม เปลี่ยนทิศ”