ระหว่างเปิดหนังสือพจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลศัพท์ ของอาจารย์พระมหาประยุทธ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) หาคำอธิบาย ธรรมะชุดโพชฌงค์ กับบทสวดโพชฌังคปริตร ให้คุณสาวเมืองจันเสน ฟังผมก็เจอเรื่อง พระปริตรอีกบท ซึ่งเป็นที่มาน้ำมนต์เด็กวัดเก่ารุ่นผม มีเรื่องสงสัยคาใจมานาน...เจอสมภารวัดสายหลวงพ่อปัญญานันทะ...(ซึ่งปกติท่านไม่ยอมทำน้ำมนต์ให้ใคร) ท่านยอมพรมน้ำมนต์ให้ ในงานทำบุญบ้าน...พรมไปท่านก็สอนไป“น้ำมนต์ไม่ช่วยอะไรหรอกหนา!โยม ดีชั่ว รวยจน อยู่ที่การกระทำของโยมเอง”อ๊ะ! ก็แล้วที่พระท่านชุมนุมเทวดา สวดชยันโต แล้วเดินพรมน้ำมนต์กันอยู่โครมๆเล่า ท่านไปเอามาจากไหนคำตอบเรื่องนี้ได้มาจากอรรถกถา...อรรถกถา หมายความว่า เป็นเรื่องที่ไม่ได้มาจากพระไตรปิฏกตรงๆ แต่พระอาจารย์รุ่นหลังๆ ตั้งใจ แต่งเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ชิงประชาชน สู้กับพวกพราหมณ์ ก็แน่นอน ต้องโลดโผนพิสดารคราวหนึ่งที่เมืองเวสาลี เกิดทุพภิกขภัยใหญ่ ผู้คนล้มตายซากศพเกลื่อนเมือง อมนุษย์ก็เข้ามา แถมอหิวาตกโรคซ้ำ กษัตริย์ลิจฉวีอาราธนาพระพุทธเจ้า ขณะนั้นอยู่ที่เมืองราชคฤห์ทรงรับอาราธนา เสด็จมาทางเรือ เมื่อถึงเขตแดนเวสาลี พอย่างพระบาทลงทรงเหยียบฝั่งแม่น้ำคงคา ฝนโบกขรพรรษก็ตกลงมา จนน้ำท่วมพัดพาซากศพลอยลงแม่น้ำคงคาไปหมดเมื่อเสด็จถึงเมืองเวสาลี ท้าวสักกะและประดาเทพก็มาชุมนุมรับเสด็จ พวกอมนุษย์หวาดกลัว พากันหนีไปครั้งนั้นพระพุทธเจ้าได้ตรัสรตนสูตรให้พระอานนท์เรียน และเดินทำปริตรไปในระหว่างกำแพงเมืองทั้งสามชั้นพระอานนท์เรียนรตนสูตรนั้น แล้วสวดเพื่อเป็นปริตร คือเป็นเครื่องคุ้มครองป้องกัน พร้อมถือบาตรของพระพุทธเจ้า ใส่น้ำเดินพรมไปทั่วเมือง เป็นอันว่า ทั้งภัยแล้ง ภัยอมนุษย์ และภัยจากโรคก็สงบสิ้นไปประทับเมืองเวสาลีครึ่งเดือนจึงเสด็จกลับ มีการชุมนุมครั้งใหญ่เพื่อส่งเสด็จ เรียกว่าคงคาโรหนสมาคมพระสูตรนี้แสดงคุณของพระรตนตรัย จึงเรียกว่ารตนสูตรท่านอาจารย์พระมหาประยุทธ์ บอกว่า เรื่องที่อรรถกถาเล่านี้ น่าจะเป็นที่มาของประเพณีการเอาน้ำใส่บาตรทำน้ำมนต์ แล้วพรมน้ำมนต์เพื่อความสุขสวัสดีเอาเป็นว่า ผมก็เพิ่งรู้ว่าพิธีการทำน้ำมนต์ รวมไปถึงการชุมนุมเทวดามีที่มาเช่นนี้เอง ซึ่งก็ไม่น่าจะคิดมากกันเกินไป เรื่องอิทธิปาฏิหาริย์โลดโผนพิสดาร ศาสนาไหนเขาก็มี ทำไมศาสนาพุทธจะมีบ้างไม่ได้เล่าเพียงแต่พุทธศาสนิกชน ต้องทำความเข้าใจ ต้องรู้เท่าทัน แยกแยะให้ได้ ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ ส่วนไหนเป็นแก่น ส่วนไหนเป็นเปลือก และส่วนไหนเป็นกระพี้ยิ่งพระสงฆ์ ก็ต้องยิ่งเข้าใจ สมัยนี้วิทยาศาสตร์ก้าวหน้า ทุกคำถามต้องมีคำตอบ จะเทศน์สอนใคร ต้องดูเนื้อตัวหน้าตา...เช่นเรื่องสอนว่า ทำบุญให้มากๆ ตอนตายพระอินทร์จะขับราชรถไพชยนต์มารับ ไปขึ้นสวรรค์หรือบางพระ...ที่สอนให้ถอดแหวนเพชรถวายวัด ยิ่งถวายวงใหญ่ ตอนขึ้นสวรรค์จะได้วงใหญ่กว่าพระสอนแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ เด็กที่แค่จบปริญญาตรี ฟังแล้ว บางคนก็ทนฟังไม่ไหวแต่ถ้าเรื่องเดียวกัน สอนจากปากของพระมหาสมปอง พระมหาไพรวัลย์ ผมว่า ท่านคงมีมุกเด็ด ฟังแล้วฮา...เข้าใจความเป็นไปของพุทธศาสนา ได้ทั้งศรัทธาได้ทั้งความรู้ทุกเรื่องในโลกนี้ มีหลายเหลี่ยมมุมให้เลือกมอง อยู่ที่ตัวคุณเอง จะเลือกเหลี่ยมมุมไหน.กิเลน ประลองเชิง