“หมอทศพร” จัดหนัก แฉหลาย รพ.จัดฉีดวัคซีนไฟเซอร์แบบไม่ชอบมาพากล ขณะที่กลุ่มแพทย์พยาบาลเพื่อมวลชน รพ.ภูมิพลฯ ร้องเรียนคนทำงานด่านหน้าตัวจริงชื่อตกหล่น เจอยัดไส้ชื่อคนอื่นมาฉีดแทน แม้แต่คนเกษียณแล้วยังมี โฆษก ทอ.แจงทันควันข้อมูลคลาดเคลื่อนแก้ไขรายชื่อที่ตกหล่นพร้อมขอวัคซีนเพิ่มเติมอีก 400 โดสแล้ว ยันทุกคนได้ฉีดตามสิทธิแน่นอน ส่วนชมรมหมอชนบทยังเดินหน้าอัดการประมูลชุดตรวจ ATK ขององค์การเภสัชฯต่อ ท้าให้รีบเซ็นสัญญาจะตามเช็กบิลได้ถูก ขณะเดียวกัน “หมอนิธิพัฒน์” ชี้สถานการณ์ขณะนี้ ยังมองไม่เห็นฝั่ง เหตุมาตรการที่ใช้อยู่แค่ชะลอไม่ให้กราฟพุ่งขึ้นเร็ว หากยังคิด เหมือนเดิม จะได้ผลแบบเดิมๆ ล่าสุดติดเชื้อใหม่ยังทะลุ 2.2 หมื่นคน ตายทุบสถิติ 217 ศพ “ท่านผู้หญิงบุญเรือน-อดีต ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน” เจอโควิดคร่าชีวิตด้วยกระทรวงสาธารณสุขยังถูกคนในสังคมจับตาการบริหารจัดการโรคโควิด-19 ทั้งกรณีล็อกดาวน์มากว่าเดือน แต่ยอดคนติดเชื้อและเสียชีวิตยังไม่ลดลง การบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์ที่บุคลากรด่านหน้าตัวจริงกลับไม่ได้ฉีด ล่าสุดยังมีการจัดซื้อชุดตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ Antigen Test Kit (ATK) ขององค์การเภสัชกรรม ที่ยังมีข้อกังขาในเรื่องของประสิทธิภาพ พบพิรุธสวมชื่อรับไฟเซอร์ที่ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมการแพทย์ทหารอากาศ กทม. เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นพ.ทศพร เสรีรักษ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังเดินทางมาพบกลุ่มแพทย์พยาบาลเพื่อมวลชนที่ร้องเรียนการจัดการวัคซีนไฟเซอร์สำหรับบุคลากรแพทย์พยาบาลในโรงพยาบาล พบมีการสวมชื่อคนที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์เป็นบูสเตอร์โดสว่าบุคลากรด่านหน้ามีความเคลือบแคลงสงสัยเรื่องการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรทางการแพทย์ตั้งแต่ได้รับวัคซีนมาว่า ตอนแรกมีการประกาศรายชื่อมานั้นสามารถตรวจสอบได้ มีการจัดทำรายชื่อ รายชื่อแรกออกมามีจำนวนคนหลายร้อยคนระบุได้ว่าทำงานหน่วยงานไหน มีวันเดือนปีเกิดระบุ ปรากฏว่ากลับมีรายชื่อเพิ่มขึ้นมา บางรายชื่อที่เพิ่มทำงานหน่วยงานอื่นๆ บางรายเกษียณไปแล้ว บางรายเป็นนักเรียนแพทย์ที่จบไปแล้วกลับมีรายชื่อโผล่มาชี้หลาย รพ.ไม่ชอบมาพากลนพ.ทศพรเปิดเผยต่ออีกว่า คิดว่าพนักงานทุกคนใน รพ.ควรได้รับวัคซีนทั้งหมดโดยเฉพาะบุคลากรด่านหน้าควรได้รับวัคซีนก่อน นอกจากนี้ อยากให้ทุก รพ.จัดสรรวัคซีนให้โปร่งใส่ เช่น ให้ตัวแทนแต่ละแผนกใน รพ.มาหารือการจัดสรรวัคซีนให้เกิดความโปร่งใสไม่ใช่การงุบงิบทำหรือมีบุคคลวีวีไอพี ยังมีอีกหลาย รพ.มีลักษณะไม่ชอบมาพากลเช่นนี้ ทั้งนี้ วัคซีนที่ได้รับบริจาคมามี 1.5 ล้านโดส แต่กลับจัดสรรไม่เพียงพอกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยโควิด ประชาชนทั่วไปต่างต้องการให้คุณหมอพยาบาลด่านหน้าได้รับวัคซีนก่อน แต่กลับกลายเป็นการเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นชื่อพยาบาลด่านหน้าตกหล่นด้านตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนจะต้องเป็นบุคคลที่ทำงานในด่านหน้า คัดกรอง อยู่แผนกไอซียู ภายหลังมีการตั้งเกณฑ์ขึ้นมาใหม่ ทำให้พยาบาลด่านหน้าตัวจริงรายชื่อตกหล่นเกินกึ่งหนึ่ง มีเงื่อนไขต่างๆกีดกันออกไป เช่น ฉีดซิโนแวค 2 เข็มถึงได้ฉีด ฉีดเพียงแอสตราเซเนกา 1 เข็มไม่ได้ ทำให้วัคซีนเหลือ เลยตั้งข้อสงสัยว่าเอาวัคซีนให้ใคร ที่ผ่านมาได้สอบถามไปยังผู้บังคับบัญชาแต่ไม่ได้รับคำตอบว่าใครเป็นผู้จัดสรร อยากให้มีการตรวจสอบว่ารายชื่อที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์เป็นบุคลากรด่านหน้าหรือไม่ หรือไม่ใช่บุคลากรที่นี่ ดับเครื่องชนเพราะไม่มีอะไรเสียขณะที่ตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์อีกราย เปิดเผยว่า เรารวบรวมรายชื่อเป็นแผนก 100-200 คน จากทั้งหมด 800 คน หมอ พยาบาล เวรเปล แม่บ้าน โดย รพ.ภูมิพลฯได้รับการจัดสรร 1,680 โดส จากที่เคยขอไป 3,000 โดส การตรวจสอบบัญชีรายชื่อพบว่ามีทั้งหมด 1,611 รายชื่อ มีการฉีดให้วันที่ 13-14 ส.ค. เมื่อตรวจสอบรายชื่อดังกล่าว กลับพบว่ามีความผิดปกติรายชื่อซ้ำ เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ และใช้สัญลักษณ์เป็นตัวเลขเป็นชื่อบุคคล 172 รายชื่อแทนที่จะเรียงลำดับความสำคัญ ไปเรียงลำดับตามตัวอักษร ทำให้บุคลากรด่านหน้าไม่ได้รับการพิจารณา อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ออกมาเปิดเผย และเหตุที่มาพึ่งนายแพทย์ทศพรนั้น เพราะต้องการให้สังคมรับรู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้จริง และไม่มีอะไรจะเสียแล้วจึงยอมดับเครื่องชนแบบนี้ เพราะเป็นสิทธิ์ที่ควรได้ โดยไม่ยอมฉีดวัคซีนที่ได้รับ ยอมจองวัคซีนทางเลือก ทั้งที่เป็นด่านหน้าผู้ดูแลผู้ป่วยโควิดทอ.ยันไร้สวมสิทธิ์เข็ม 3ด้าน พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรม กิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นการสวมสิทธิ์ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ในสังกัดโรงพยาบาลภูมิพลว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นจากเจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ ยืนยันได้จัดเตรียมวัคซีนไว้สำหรับบุคลากรทุกคนตามสิทธิ์ ในขั้นตอนของการลงทะเบียนช่วงหนึ่งอาจมีข้อผิดพลาด ยืนยันว่าทุกคนต้องได้หมด ไม่มีประเด็นการทุจริตสวมสิทธิ์แต่อย่างใด เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศยืนยันเป็นเพียงข้อมูลที่คลาดเคลื่อน รายชื่อที่ตกหล่นไปได้แก้ไขแล้วเพื่อขอวัคซีนเพิ่มเติม จะมาสัปดาห์หน้าอีก 400 โดสและกลุ่มพยาบาลที่ชื่อตกหล่นจะได้ฉีดในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ส่วนประเด็นการโพสต์แชร์ข้อมูลทางกองการพยาบาลจะได้ทำความเข้าใจกับผู้ที่แชร์ข้อมูลต่อไปหมอชนบทย้ำใช้ ATK ที่แม่นยำส่วนกรณีการจัดซื้อชุดตรวจ ATK ของ อภ. วันเดียวกัน นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้ออกแถลงการณ์ชมรมแพทย์ชนบท ฉบับที่ 2 ระบุว่า ตามที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาแถลงชี้แจง ยืนยันที่จะเดินหน้าจัดซื้อตามผลการประมูลแอนติเจนเทสต์คิตหรือ ATK จำนวน 8.5 ล้านชิ้น ได้ผู้ชนะการประมูลคือบริษัทออสท์–แลนด์ แคปปิตอล จำกัด เสนอ ATK ยี่ห้อ LEPU มีข้อกังขามากมายถึงคุณภาพและความแม่นยำนั้น ชมรมแพทย์ชนบทยังขอยืนยันว่า ATK คือหัวใจของการควบคุมโรคโควิด ควรใช้ ATK ที่มีความแม่นยำและคุณภาพสูง จะสร้างความมั่นใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในการให้การรักษาในทันทีไม่ต้องรอทำ RT-PCR ซ้ำ หากรักษาได้เร็วจะสามารถลดอัตราป่วย อัตราเสียชีวิตลง อ้างวิจัยโลกถึงประสิทธิภาพสำหรับ ATK ยี่ห้อ LEPU ทางชมรมแพทย์ชนบทมีข้อสังเกตที่น่าห่วงกังวลให้กับสาธารณะได้รับทราบ ดังนี้ 1. แม้ว่า ATK LEPU จะผ่านเกณฑ์ อย.รวมทั้งผ่านการประเมินเทคโนโลยีจากรามาธิบดี (ด้วยจำนวนทดสอบ 150 ตัวอย่าง) แต่งานวิจัยในวารสารระดับโลกหลายชิ้นมีข้อสรุปถึงความไม่มีประสิทธิภาพของ LEPU อาทิ งานวิจัยในวารสาร Virologt Journal ที่ศึกษาในปากีสถาน ในผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ LEPU 33,000 คน พบว่า LEPU มีความไวน้อยมาก พบผลลบเทียมสูงถึง 48 เปอร์เซ็นต์ (มีเชื้อเป็นบวก แต่ผลการตรวจเป็นลบไม่มีเชื้อ) ซึ่งแตกต่างจากข้อมูลที่ LEPU นำมาเสนอต่อ อย.ไทย ที่มีความไวถึง 90 เปอร์เซ็นต์2.การที่บริษัท ออสท์–แลนด์ แคปปิตอล จำกัด ชนะการประมูลด้วยสินค้า LEPU ราคา 70 บาทนั้น แท้จริงประเทศไทยได้ของถูกที่ราคาแพง เพราะราคาขายส่งอยู่ที่ 1 USD หรือไม่เกิน 35 บาท ส่วน ATK มาตรฐาน WHO นั้น ทาง UNICEF ซื้อแจกจ่ายทั่วโลกที่ราคา 160 บาท คณะกรรมการต่อรองราคาของ สปสช.ต่อรองได้ที่ 120 บาทรวมค่าส่ง ถือว่าได้ของคุณภาพดีราคาถูก เราต้องการ ATK คุณภาพสูง ที่แม่นยำที่สามารถนำมาทดแทนหรือลดการทำ RT-PCR ได้ ก็จะลดภาพรวมงบประมาณการสู้ภัยโควิดลดลงเร่งจัดซื้อจะได้ตามเช็กบิลต่อมา นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ให้สัมภาษณ์ว่าชมรมแพทย์ชนบทเรียกร้องให้ทบทวนการจัดซื้อ และศึกษาให้รอบคอบ หากพบว่ามีปัญหาก็ต้องยกเลิก ส่วนจะทำอย่างไรต่อเป็นเรื่องที่องค์การเภสัชฯ อย. รพ.ราชวิถี สปสช. ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง เพราะถ้าไม่ยกเลิกก็มีขั้นตอนอยู่ เมื่อเขายืนยันที่จะไม่ยกเลิกก็ให้รีบๆจัดซื้อ ตอนนี้เรารออย่างเดียว รอเขาจัดซื้อ อย่ารอช้า รีบลงนามจัดซื้อ ให้ความผิดสำเร็จ ทางชมรมแพทย์ชนบทที่มีเครือข่ายทั่วประเทศจะได้ช่วยตรวจสอบว่า ATK ชุดนี้มี sensitivity และ specificity ตรงตามที่กล่าวอ้างมาหรือไม่ ถ้าเขามีการยกเลิก เราสามารถเสนอเจาะจงได้ เจาะจงแล้วเรียกมาต่อรองราคาใหม่ได้ จะได้จบ เราก็อยากให้จบเร็ว และขอให้ทั้ง 4 องค์กรแถลงให้ชัดว่าจะรับผิดอย่างไรหากมีความเสียหายเกิดขึ้น เพื่อให้สาธารณชนสามารถตามเช็กบิลในภายหลังได้รีบซื้อเพราะมีเงื่อนเวลาใช้เงินด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงการจัดซื้อ ATK สำหรับแจกประชาชนเช่นกันว่า การจัดซื้อจัดจ้างเป็นหน้าที่ขององค์การเภสัชกรรม และนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งให้ชะลอเพื่อตรวจสอบก่อน ใครมีข้อมูลก็ให้ส่งองค์การเภสัชฯจะได้ตัดสินใจ เดิมชุดตรวจ ATK นี้ วางเป้าหมายว่าจะให้ได้มาไม่เกินกลางเดือน ส.ค.แต่เมื่อต้องตรวจสอบเข้าใจว่าต้องใช้เวลา แต่งบ ประมาณที่ใช้มาจากงบเงินกู้ที่ต้องใช้ก่อน 30 ก.ย.64 เรื่องเงินก็ส่วนหนึ่ง แต่เรื่องของก็ส่วนหนึ่ง เร็วที่สุดก็ดีที่สุด ความคิดเราคืออยากให้ชาวบ้านได้ใช้ เพราะตอนนี้อุบัติการณ์ในพื้นที่สีแดงยังตรวจน้อยเพียงร้อยละ 10 เลยให้ชาวบ้านตรวจเองด้วย ATKเจาะจงยี่ห้อได้แต่เงื่อนไขเยอะเลขาธิการ สปสช.กล่าวอีกว่า บอร์ด สปสช.ไม่ได้มายุ่งเรื่องการจัดหา แต่มีมติให้จัดซื้อในวงเงิน 1,014 ล้านบาท จำนวน 8.5 ล้านชุด หารแล้วชุดละประมาณ 120 บาท ที่ผ่านมามีการคุยกันว่าจะระบุเจาะจงได้หรือไม่ ก็พบเงื่อนไขใน พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างว่าสามารถซื้อแบบเฉพาะเจาะจงได้ สอบถามทางองค์การเภสัชฯแล้วระบุว่า ได้ มีคำว่า “แต่” เยอะเช่น “แต่ท่านต้องบอกก่อนนะว่าไม่มีเจ้าอื่นในโลกที่ดีกว่านี้แล้ว และท่านมั่นใจแล้วนะว่านี่ดีที่สุด ท่านมีข้อมูลหลักฐานหรือไม่ ถ้าถูกฟ้องร้องจะทำอย่างไร” นี่ตนไม่ได้พูดเอง แต่ท่านเขียนมาเป็นหนังสือ ดังนั้นถ้าตนบอกว่าจะซื้อยี่ห้อนี้แล้วคุณซื้อให้ อันนี้จบ แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ ท่านบอกว่าได้ แต่มีคำว่าแต่อีกมาก แล้วจะทำได้อย่างไร เราไม่ได้บอกว่าเราจะไม่เอา ATK ที่ประมูลได้ เพียงแต่ติดข้อสงสัยในเรื่องคุณภาพ คณะทำงานก็มองว่าอยากจะได้คุณภาพดี หากองค์การเภสัชฯตรวจสอบพบว่ามีคุณภาพดีก็ยื่นมาป่วยตายทำนิวไฮ 217 ศพส่วนภาพรวมสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันที่ 14 ส.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานที่ทำเนียบรัฐบาลว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22,086 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 21,813 คน มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 17,406 คน จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 4,407 คน จากเรือนจำและที่ต้องขัง 270 คน มาจากต่างประเทศ 3 คน มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 885,275 คน ผู้ป่วยหายเพิ่ม 23,672 คน ยอดรวมหายป่วยสะสม 667,556 คน อยู่ระหว่างรักษา 210,376 คน อาการหนัก 5,590 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,151 คน เสียชีวิตเพิ่ม 217 คน เป็นชาย 130 คน หญิง 87 คน อยู่ใน กทม.มากที่สุด 96 คน จำนวนนี้เป็นการเสียชีวิตที่บ้าน และขณะนำส่งโรงพยาบาล 18 คน อยู่ใน กทม. 17 คน และสุพรรณบุรี 1 คน ผู้เสียชีวิตวันนี้เป็นหญิงตั้งครรภ์ 2 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 7,343 คน ส่วนยอดการฉีดวัคซีนรวม 23,192,491 โดสตจว.เพิ่มอีก 8 คลัสเตอร์สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 5,088 คน สมุทรสาคร 1,819 คน สมุทรปราการ 1,598 คน ชลบุรี 1,254 คน นนทบุรี 867 คน นครปฐม 724 คน สระบุรี 686 คน อุบลราชธานี 395 คน พระนครศรีอยุธยา 379 คน ฉะเชิงเทรา 366 คน มีคลัสเตอร์ใหม่ 8 คลัสเตอร์ คือบริษัทถุงพลาสติก อ.เมืองสมุทรสาคร พบผู้ป่วย 13 คน ที่ จ.สมุทรปราการ พบ 2 คลัสเตอร์ คือโรงงานห้องเย็น อ.เมืองสมุทรปราการ พบผู้ป่วย 12 คน และสถานคุ้มครองผู้พิการ อ.พระประแดง พบผู้ป่วย 30 คน บริษัทอาหารทะเล อ.เมืองชลบุรี พบผู้ป่วย 11 คน บริษัทก่อสร้าง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พบผู้ป่วย 16 คน บริษัทเครื่องยนต์ อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี พบผู้ป่วย 24 คน ล้งผลไม้ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี พบผู้ป่วยใหม่ 25 คน บริษัทเคมีภัณฑ์ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก พบผู้ป่วย 14 คน โควิดคร่า “ท่านผู้หญิงบุญเรือน”ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 01.38 น.วันที่ 14 ส.ค.เฟซบุ๊ก ธิษะณา ชุณหะวัณ-แก้วตา-Tisana Choonhavan บุตรสาวของนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ โพสต์ข้อความระบุว่า “คุณย่าได้จากไปแล้วจากการติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเช้าเวลา 01.38 น. ไปด้วยอายุ 101 ปี ขอบพระคุณสำหรับทุกอย่างในชีวิตของแก้ว และที่ทำคุณูปการให้แก่ประเทศเรา...ท่านเป็นสตรีหมายเลข 1 ที่พูดได้ถึง 7 ภาษา และเป็นผู้ช่วยของคุณปู่สมัยเป็นนักการทูต (คุณปู่จะพูดภาษาต่างชาติได้น้อยกว่าคุณย่า) ทำให้คุณปู่เวลาไปเจรจากับทูตประเทศอื่นๆ รัฐมนตรีต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี หรือประธานาธิบดีต่างประเทศ สมัยคุณปู่เป็นทูตและเป็นรัฐมนตรีการต่างประเทศ มาจนถึงเป็นนายก-รัฐมนตรี ประสบความสำเร็จในการต่างประเทศมาก จนกระทำการ “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า” ในช่วงสงครามเย็นได้สำเร็จ เพราะมีสตรีหมายเลขหนึ่งคนนี้คอยอยู่เคียงข้างตราบจนวันสุดท้าย” น.ส.ธิษะณา ระบุ และทางครอบครัวชุณหะวัณ และครอบครัวพหิทธานุกร (หลาน) กราบขออภัยที่ด้วยข้อจำกัดของสถานการณ์ ทายาทไม่ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมตามปกติ ทั้งนี้ ได้ขอพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯ ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เวลา 14.00 น.เข้า รพ. 7 ส.ค. แต่เชื้อลงปอดนอกจากนี้ มีรายงานว่าท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ เข้ารักษาที่ รพ.วิชัยยุทธ ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. แพทย์ประจำตัวได้ให้การรักษาอย่างใกล้ชิดที่สุด จนอาการในช่วงต้นดีขึ้น แต่เมื่อเชื้อโควิดเริ่มกระจายตัวเพิ่มขึ้นแล้วลงปอด อาการทรุดลงอย่างรวดเร็วและถึงแก่อนิจกรรมใน รพ.วิชัยยุทธ อย่างสงบด้วยอายุ 101 ปี ทั้งนี้ ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ สกุลเดิมโสพจน์ เป็นคนกรุงเทพฯ เกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2463 เป็นบุตรคนที่สามจากทั้งหมดสี่คนของแช่ม โสพจน์ บิดาเป็นลูกพี่ลูกน้องทางพระชนนีของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ต่อมา ท่านผู้หญิงบุญเรือนและพี่น้องทั้งหมดได้รับการอุปการะจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นผู้ติดตามเมื่อครั้งเดินทางไปโลซาน สวิตเซอร์แลนด์ โดยสารทางเรือจากปีนังเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2476 และได้ไปอยู่กับครอบครัวชาวสวิตเซอร์แลนด์ และไปศึกษาต่อที่โรงเรียนประจำ ท่านผู้หญิงบุญเรือนสำเร็จการศึกษาด้านการเลี้ยงเด็ก ต่อมาตามเสด็จ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เดินทางกลับประเทศไทย เมื่อพฤศจิกายน พ.ศ.2481 เป็นครูสอน หนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ ต่อมาพบรักและสมรสกับ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะนั้นเป็นผู้บังคับหมวดกองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2487 มีบุตรธิดาด้วยกันสองคน คือวาณี ชุณหะวัณ และไกรศักดิ์ ชุณหะวัณเสียอดีต ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดินวันเดียวกัน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ส่งเอกสารแจ้งข่าวนายปราโมทย์ โชติมงคล อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และอุปนายกสภามหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้ถึงแก่อนิจกรรม จากโรคโควิด-19 นายปราโมทย์ติดเชื้อโควิดเมื่อต้นเดือน ส.ค. เข้ารักษาที่ รพ.จุฬาภรณ์ จากนั้นได้กลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน ต่อมาวันที่ 12 ส.ค.คนในบ้านพบว่านอนฟุบอยู่ที่สนามที่บ้าน นำส่ง รพ.จุฬาภรณ์อีกครั้ง แพทย์วินิจฉัยว่านอกจากโรคโควิด-19 แล้ว ยังมีโรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงคือ ภาวะไตวาย และภาวะติดเชื้อ แพทย์และพยาบาลได้พยายามจนถึงที่สุดแล้ว นายปราโมทย์ได้ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 12 ส.ค.64 อายุรวม 80 ปี สำหรับประวัติของนายปราโมทย์นั้น เป็นผู้บุกเบิกการจัดตั้งทบวงมหาวิทยาลัยและเกษียณในตำแหน่งรองปลัดทบวง จากนั้นมาร่วมบุกเบิกจัดตั้งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และได้เป็นประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน จนกระทั่งพ้นตำแหน่งเมื่อมีอายุครบ 70 ปี เมื่อ พ.ศ.2554 จากนั้นได้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในมหาวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชน จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตแจงเหตุไม่ตรวจเชื้อก่อนกลับต่อมา น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการตั้งคำถามว่าเหตุใดไม่มีการตรวจสวอบให้ผู้ป่วยที่แพทย์ให้กลับบ้านกักตัวต่อที่บ้านจนครบ 14 วันว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าเป็นการดำเนินการตามแนวทางตามข้อแนะนำจากคณะทำงานด้านการรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล (คณะกรรมการกำกับดูแลรักษาโควิด-19) พิจารณาจากงานศึกษาแล้วพบว่าผู้ป่วยที่มีอาการน้อยหรืออาการดีขึ้นแล้ว อาจตรวจพบว่าเป็นเพียงซากสารพันธุกรรมที่หลงเหลือที่ร่างกายยังกำจัดไม่หมด ไม่ได้หมายความว่าผู้ป่วยรายนั้นยังแพร่เชื้อได จึงระบุว่าไม่ต้องทำสวอบก่อนออกจากสถานพยาบาล เพราะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงการรักษา แพทย์ผู้รักษาจะพิจารณาจากอาการเป็นหลัก แต่ยังให้กลับไปกักตัวอย่างเข้มงวดที่บ้านจนครบ 14 วันศิริราชตั้งไอซียูสนามเพิ่มด้าน รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทำให้ศักยภาพการให้บริการของห้องความดันลบใน รพ.ศิริราช เต็มทุกพื้นที่ แม้จะเร่งขยายและดัดแปลงพื้นที่เดิมรองรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่เพียงพอ รพ.ศิริราช จึงขยายจัดตั้งหอผู้ป่วยวิกฤติโรคโควิด-19 รองรับผู้ป่วยหนักรวม 20 เตียง ใช้พื้นที่บริเวณข้างสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ใกล้กับท่าเรือรถไฟ จะเปิดรับผู้ป่วยได้ในวันที่ 30 ส.ค.นี้ และได้รับความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจในการให้บริการจากบุคลากรในเครือทั้ง 3 รพ. คือ รพ.ศิริราช รพ.ศิริราชปิยมหาราชการุณย์ และศูนย์การแพทย์กาญจนา ภิเษก โดยไอซียูสนามศิริราชที่จัดสร้างขึ้นใหม่นี้ออกแบบและจัดสร้างแบบโมดูลาร์ ได้รับความร่วมมือจากบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) รวม 2 หลัง ใช้งบประมาณรวม 100 ล้านบาทยังไม่เห็นฝั่งหวั่นด่านหน้าล้าวันเดียวกัน รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อวานตอนเย็นร่วมฟังการประชุมเตรียมความพร้อมทางการแพทย์ใน กทม. ทุกภาคส่วนเร่งทำงานกันอย่างสุดความสามารถ เพื่อยับยั้งโรคร้ายนี้กันอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนการว่ายทวนกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากนี้ นอกจากยังมองไม่เห็นฝั่งใกล้เข้ามาเสียที ที่กลัวสุดคือผู้กล้าว่ายทวนน้ำเหล่านี้จะหมดแรงจมน้ำไปเสียก่อน แม้จำนวนผู้ป่วยโดยรวมจะไปต่อแบบช้าๆ ส่วนจำนวนผู้ป่วยอาการรุนแรง-ใช้เครื่องช่วยหายใจ-เสียชีวิต แม้จะดูค่อนข้างคงที่ แต่อาจเป็นเพราะผู้ป่วยหนักส่วนหนึ่งเข้าไม่ถึงการรักษา หรือเข้าถึงแล้วแต่เลือกการรักษาแบบประคับประคอง จะเห็นได้ชัดเจนว่าเรายังไม่ถึงยอดคลื่นที่สถานการณ์เริ่มจะคงตัว ยังมีรอยกระเพื่อมให้เห็นการแกว่งไปมาของตัวเลขอยู่ มาตรการตรวจเชิงรุกที่เราควรทำได้มากหลังจากล็อกดาวน์ ยังทำไม่ได้ถึง 25เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ป่วยใหม่รายวัน แสดงว่าการหยุดยั้งการระบาดยังห่างไกลความจริงอีกมากหากคิดแบบเดิมได้ผลแบบเดิมรศ.นพ.นิธิพัฒน์ระบุด้วยว่า สายพันธุ์เดลตาครอบคลุม 95.4 เปอร์เซ็นต์ ใน กทม. และ 83.2 เปอร์เซ็นต์ในภูมิภาค อย่างที่เคยเตือนผู้กำหนดนโยบายไว้เมื่อนานแล้วว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้มาตรการต่างๆ จนถึงการล็อกดาวน์แบบจำกัดไม่ได้ผลดี ยังดีว่าโครงสร้างระบบบริการสุขภาพในเขตหัวเมืองสามารถรับมือกับเหตุวิกฤติได้ดีกว่าเขตเมืองหลวง แต่ความทนทานคงจะมีขีดจำกัด เมื่อเพ่งไปดูมาตรการรับมือที่ภาครัฐดำเนินการไป ยิ่งทำแบบเดิมๆที่คิดว่าจะได้ผล ดูเหมือนว่าเป็นเพียงแค่การชะลอไม่ให้กราฟพุ่งขึ้นเร็วมากเท่านั้น โจทย์ใหญ่สำหรับ ศบค. และรัฐบาลจะต้องขบคิดกันหนักในสัปดาห์หน้า คือจะดำเนินมาตรการอะไรออกมาอีก เพื่อบังคับให้เส้นกราฟวกกลับ หากยังคิดแบบเดิมๆ เราคงได้ผลแบบเดิมๆ หากทีมที่รับผิดชอบยังเป็นหน้าเดิมๆ ผลลัพธ์ที่แย่กว่าเดิมคงไม่ใช่เรื่องแปลกแล้ว2 จังหวัดยังติดเชื้อทะลุพันคนสำหรับในส่วนภูมิภาค เมื่อวันที่ 14 ส.ค. หลายจังหวัดยังพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่หลักหลายร้อยถึงเกินพันคนจากคลัสเตอร์สถานประกอบการ จ.สมุทรสาคร ติดเชื้อเพิ่ม 1,819 คน เสียชีวิตอีก 14 ศพ รวมเสียชีวิตสะสม 276 ศพ ตามด้วย จ.ชลบุรี ติดเชื้อเพิ่มอีก 1,254 คน เสียชีวิตเพิ่ม 13 ศพ รวมเสียชีวิตสะสม 235 ศพ ส่วน จ.นนทบุรี เจอติดเชื้อเพิ่ม 570 คน จำนวนนี้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 2 คน ขณะที่ จ.บุรีรัมย์ ยังหนักเมื่อเจอผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 387 คน ตามด้วย จ.นครราชสีมา พบอีก 313 คน ขณะที่ จ.ศรีสะเกษ ติดเชื้อวันเดียว 311 คน เสียชีวิตอีก 3 ศพ รวมเสียชีวิตสะสม 31 ศพ เช่นเดียวกับ จ.สระแก้ว พบผู้ติดเชื้อวันเดียวเพิ่มสูงถึง 303 คน และเสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ศพ คลัสเตอร์โรงงานผุดเพิ่มด้าน จ.ระยอง พบติดเชื้อเพิ่ม 297 คน และพบคลัสเตอร์โรงงานอาหารทะเลแช่แข็งใน อ.แกลง ที่พนักงานทั้งหมด 1,890 คน ตรวจเชิงรุกด้วยชุด ATK 800 คน พบติดเชื้อ 160 คน จึงมีการตั้ง รพ.สนามฉุกเฉินในโรงงานกักตัวพนักงาน เช่นเดียวกับ จ.เชียงราย พบผู้ติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ที่โรงงานอบลำไย ต.ม่วงคำ อ.พาน อีก 2 แห่ง รวม 18 คนขณะที่ จ.สุพรรณบุรี เจอผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 181 คน เสียชีวิตเพิ่ม 3 ศพ รวมเสียชีวิตสะสม 96 ศพ4 จชต.ป่วยใหม่ยังไม่นิ่งส่วนในกลุ่ม 4 จังหวัดชายแดนใต้ที่ถูกกำหนดเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังไม่นิ่ง โดย จ.สงขลา พบเพิ่ม 278 คน จ.นราธิวาส 232 คน จ.ปัตตานี 198 คน และ จ.ยะลา 100 คน ส่วน จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ระนอง พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 138 คน และ 134 คน ตามลำดับ โดยที่ จ.ระนอง ยังพบผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดระนอง ติดเชื้อถึง 25 คน จากนักโทษใหม่หลังแยกกักตัวก่อนเข้าแดนไปแล้ว 19 วันร่วมกตัญญูรุดช่วยเนอร์สซิ่งโฮมผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงดึกของวันที่ 13 ส.ค. นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมด้วย บิณฑ์-เอกพัน บรรลือฤทธิ์ พร้อมทีมส่งต่อลมหายใจ มูลนิธิร่วมกตัญญูนำอุปกรณ์ช่วยชีวิต ทั้งยาสมุนไพรทางเลือก ถังออกซิเจนขนาดใหญ่ มายังสถานดูแลผู้สูงอายุ มุฑิตา เนอสซิ่งโฮม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม หลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือว่า ภายในสถานดูแลผู้สูงอายุ มุฑิตา เนอสซิ่งโฮม มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 30 คน มีผู้เสียชีวิตแล้ว รวม 6 ศพ สำหรับผู้ป่วยสีแดง ที่มีอาการหนักได้เดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ขณะเดียวกันยังมีผู้สูงอายุอีกจำนวน 13 คน และ ผู้ดูแลอีก 11 คน ยังคงอาศัยอยู่ภายในสถานดูแลผู้สูงอายุ กลัวว่าจะมีอาการติดเชื้อรวบติวเตอร์ตุ๋นฉีดซิโนฟาร์มต่อมาเมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.พีระเดช เจริญเดช ผกก.สภ.บางใหญ่ ร่วมกันจับกุมตัวนายเจษฎา ผิวสุวรรณ อายุ 39 ปี ได้ที่ร้านกาแฟ ริมถนนกาญจนาภิเษก ต.บางคู่เวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ในข้อหาฉ้อโกง กรณี น.ส.จิตรลดา แพร่ไพศาลภูบาล อายุ 32 ปี ชาว อ.บางใหญ่ นนทบุรี แจ้งความกับ ร.ต.อ.ธีรพงศ์ สะอาด รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ว่า ถูกนายเจษฎา ผิวสุวรรณ หลอกว่ามีโควตาฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม แต่มีค่าใช้จ่ายหัวละ 2,500 บาท จึงรวบรวมคนเพื่อไปฉีดวัคซีน 465 คน นายเจษฎาให้โอนเงินเข้าบัญชีชื่อนางสุณี ชัยสุวรัตน์ ทั้งหมด 7 ครั้ง เป็นเงิน 1,162,500 บาท แต่เมื่อถึงวันนัดฉีดวัคซีนที่ รพ. เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ทาง รพ.กลับแจ้งว่าไม่มีการฉีดวัคซีน เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีนายเจษฎาและนางสุนี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ก่อนตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ นอกจากนี้ยังพบว่านายเจษฎามีหมายจับคดีฉ้อโกงของศาลจังหวัดหลังสวน หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความถูกนายเจษฎา หลอกเงินค่าติวเตอร์เข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เหตุเกิดเดือนสิงหา 2563 ด้วย หลังสอบสวนได้นำตัวส่ง สภ.บ้านในหูต จ.ชุมพร ดำเนินคดี ส่วนคดีฉ้อโกงการฉีดวัคซีน พนักงานสอบสวนจะทำหนังสืออายัดตัวดำเนินคดีต่อไปภูมิคุ้มกันไม่ดีให้ฉีดเข็ม 3ขณะที่สถานการณ์โควิดทั่วโลก ณ วันที่ 14 ส.ค. มีผู้ป่วยสะสม 206,958,502 คน เสียชีวิตสะสม 4,358,274 คน ด้านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือเอฟดีเอ อนุมัติการใช้ในกรณีฉุกเฉินสำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์และโมเดอร์นาเป็นบูสเตอร์โดสสำหรับผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อย่างเช่น ผู้ปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยด้วยมะเร็งบางชนิด หรือความผิดปกติอื่นๆ ที่มีอยู่น้อยกว่าร้อยละ 3 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งมีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษที่จะมีอาการป่วยหนัก ในขณะที่ประชาชนทั่วไปที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มในเวลานี้ โดยมีอีกหลายประเทศ อย่างฝรั่งเศสและอิสราเอล มีคำแนะนำที่คล้ายคลึงกัน ในขณะที่สหรัฐฯกำลังเผชิญการระบาดอย่างหนักของเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มในรอบ 24 ชั่วโมง ถึง 155,297 คน และมีผู้เสียชีวิต 769 ศพ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมทั้งประเทศ รวมเป็น 37,364,700 คน และเสียชีวิตรวม 637,161 ศพ