หลายคนยังคงคลำหา “ปลูกพืชอะไรดีหลังทำนา” ที่ได้เงินคุ้มค่าแก่การลงมือลงแรง ไม่ต้องปล่อยที่นาทิ้งร้างไร้ประโยชน์ วันนี้ขอแนะนำ “แตงร้าน” พืชหมุนเวียน อายุการเก็บเกี่ยวสั้น ขายง่าย ตลาดมีความต้องการตลอดทั้งปี ถือเป็นอีกช่องทางที่ดีที่จะช่วยสร้างรายได้และความมั่นคงให้กับเกษตรกร“เดิมทีทำนาอย่างเดียว แต่สนใจอยากหาพืชชนิดอื่นมาปลูกหลังทำนา เพื่อนๆ เกษตรกรเลยแนะนำให้ปลูกแตงร้าน เพราะมีตลาดรองรับทั้งปี ที่สำคัญเป็นพืชอายุสั้น ให้ผลิตผลเร็วเพียง 35-38 วัน แถมยังเก็บเกี่ยวได้ถึง 25-30 ครั้ง ต่อการปลูก 1 ครอป ให้ผลิตผลสูงถึงไร่ละ 5-6 ตัน ปลูกไปสักพัก เริ่มติดใจ เพราะขายคล่องได้เงินไว แถมกำไรดี เมื่อมีลู่ทางจึงให้ลูกสาวออกจากโรงงานมาลุยทำแตงร้านเต็มตัว ให้เขาปลูกเอง ดูแลเอง และออกลุยหาตลาดเอง ใช้พื้นที่ปลูกแตงร้านแค่ 2 ไร่ ก็สามารถทำกำไรได้มากถึง 5-7 หมื่นบาทต่อรอบการปลูกเลยทีเดียว” สากล ศรีดี หรือ ลุงกล เกษตรกร ต.มาบแก อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ บอกถึงการปลูกแตงร้านหลังนา...การปลูกแตงร้านนั้นใช้ต้นทุนไม่มาก มีพื้นที่น้อยก็ทำได้ และที่สำคัญคือปลูกไม่ยาก แม้แต่เกษตรกรมือใหม่อย่างลูกสาวลุงเองซึ่งไม่เคยทำเกษตรมาก่อนก็ทำได้ แถมยังหาตลาดได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลาง ทำให้ขายผลิตผลได้ราคาดีมากขึ้นกว่าการขายผ่านพ่อค้าคนกลางที่มารับจากแปลงถึง กก.ละ 2-3 บาทส่วนจะปลูกแตงร้านอย่างไรให้ได้สตางค์ อันดับแรกอยู่ที่การเลือกสายพันธุ์ โดยที่นี่ใช้สายพันธุ์เขียวอมตะ 2 ของเจียไต๋ ที่มีจุดเด่นที่ทรงกระบอกสวย สีเขียวสม่ำเสมอ เนื้อหนา จากนั้นเตรียมแปลงปลูก เริ่มจากการไถดะและตากหน้าดินประมาณ 1 อาทิตย์ แล้วจึงยกร่อง โดยมีระยะห่างระหว่างแปลง 1.5 เมตร ยกร่องสูง 30 ซม. เพื่อช่วยให้การระบายน้ำดี เพราะแตงร้านไม่ชอบน้ำท่วมขัง ต่อมาต้อง เตรียมระบบน้ำ...การปลูกแตงร้านเหมาะกับการใช้ระบบน้ำหยด เพราะแตงร้านต้องการน้ำสม่ำเสมอ แต่ไม่ท่วมขัง โดยวางสายน้ำหยดให้มีจุดให้น้ำห่างกันทุก 10 เซนติเมตร ข้อดีของระบบนี้ คือ ช่วยคุมปริมาณการให้น้ำได้อย่างพอดีและทั่วถึง ลดโอกาสการเกิดวัชพืชและศัตรูพืช อันดับต่อมาคือ การเตรียมวัสดุคลุมดิน ควรคลุมหน้าแปลงด้วยพลาสติก โดยให้ระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ 30 ซม. สาเหตุที่ต้องคลุมดินก็เพื่อรักษาความชื้นในดิน ป้องกันวัชพืช และป้องกันการพังทลายของหน้าดินจากปัจจัยภายนอก เช่น ฝน ลม สัตว์ หรือมนุษย์ที่สำคัญต้อง เตรียมค้าง เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ ลดการเกิดโรคจากเชื้อรา ช่วยให้เก็บเกี่ยวผลิตผลง่าย โดยแตงร้านที่ได้จะมีทรงตรงสวย สามารถทำค้างได้ทั้งแบบ “เสาหลัก” ซึ่งใช้ต้นทุนต่ำ หรือ “กระโจม” ที่มีความแข็งแรงคงทนมากขึ้น โดยการปักค้างทั้ง 2 แบบ ควรทำให้เสร็จหลังหยอดเมล็ดไม่เกิน 7 วัน เพื่อให้พอดีกับต้นแตงร้านที่จะเลื้อยขึ้นมา สำหรับที่นี่เลือกใช้เป็นแบบเสาหลัก โดยให้ค้างมีความสูงราว 2.5 เมตร ระยะห่างระหว่างเสาอยู่ที่ 1.5 เมตร เมื่อปักค้างให้มั่นคงแล้ว จึงขึงตาข่ายต่อสูงประมาณ 2 เมตร ด้วยเชือกปอสีขาว เบอร์ 8 ร้อยตาข่ายบน เพราะเป็นเชือกที่เหนียวและทนมาก ใช้ได้งานได้นาน 2-3 รอบปลูกระหว่างการปลูกควร การจัดเถาและแต่งแขนง หมั่นดูแลแปลงปลูกแตงร้านให้สม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มปริมาณผลิตผล โดยเฉพาะการจัดเถาและแต่งแขนง ช่วงแรกควรมัดยอดเถาแตงร้านกับค้าง เพื่อให้ต้นแตงร้านเลื้อยขึ้นค้างได้ ออกดอกออกผลดี และช่วงระยะ 15-20 วัน ควรตัดแขนงข้อที่ 1-3 ทิ้ง จะช่วยให้พุ่มโปร่ง แสงแดดส่องถึง ลดโรคและแมลง การเก็บเกี่ยวง่าย และเพื่อผลิตผลแตงร้านที่มีขนาด และน้ำหนักที่สมบูรณ์ ทรงสวย สำหรับเทคนิคการดูแลบริหารจัดการ ช่วงการเตรียมดิน ให้ปุ๋ยรองพื้นสูตร 15-15-15 ไร่ละ 25 กก. ช่วงระยะกล้า (อายุ 7-10 วัน) ควรให้ปุ๋ยแบบผสมและแบ่งใส่วันละ 1.5 กก. ต่อไร่ โดยผสมปุ๋ยสูตร 46-0-0 ไร่ละ 1 กก. เข้ากับปุ๋ยสูตร 16-16-16 บลู ไร่ละ 5 กก. ช่วงระยะทอดยอด (อายุ 11-27 วัน) เพื่อช่วยพัฒนาการเติบโตของทุกส่วน ควรให้ปุ๋ยสูตร 16-16-16 บลู วันละ 1.5 กก.ต่อไร่ช่วงติดดอกไปจนถึงระยะขยายขนาดผล (อายุ 28-38 วัน)ในช่วงนี้เพื่อช่วยบำรุงดอกและขยายผล ควรให้ปุ๋ยแบบสลับระหว่างสูตร 16-16-16 บลู หรือ สูตร 13-13-24 โดยให้วันละ 1.5 กก.ต่อไร่ และ ช่วงระยะผลิตผล ควรบำรุงด้วยปุ๋ย โดยสลับระหว่างปุ๋ยสูตร 16-16-16 บลู หรือ สูตร 13-13-24 หรือ สูตร 15-9-20 โดยใส่วันละ 1.5 กก.ต่อไร่. กรวัฒน์ วีนิล