เป็นข่าวไม่ใหญ่โตนัก สำหรับการตรวจพบ “ไอโซบิวทิลไนไตรท์” ในน้ำยาที่ชื่อว่า “ป๊อปเปอร์” ซึ่งมีลักษณะเป็นสารระเหยใช้สูดดมเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ให้เคลิบเคลิ้มเพิ่มความสุข หรือใช้ในการช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ โดยเฉพาะกลุ่มนักเที่ยวกลางคืน ผับ บาร์ และสถานบันเทิง รวมถึงกลุ่มชายรักชายนพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้ข้อมูลว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น ได้ทำการตรวจพิสูจน์ตัวอย่างของกลางที่ส่งโดยสถานีตำรวจในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อหาสารเสพติดและตัวยาอื่นๆ โดยมีการตรวจ “น้ำยาป๊อปเปอร์” (Poppers) ซึ่งมีลักษณะเป็นของเหลวใสสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นฉุน บรรจุในขวดสีชา ปิดฝาเกลียว ชื่อการค้าและฉลากเป็นภาษาต่างประเทศ ขนาดบรรจุประมาณ 9-10 มิลลิลิตร จำนวน 20 ตัวอย่าง พบว่า มีส่วนผสมของ “ไอโซบิวทิลไนไตรท์” (Isobutyl nitrite) ทุกตัวอย่าง “นอกจากน้ำยาที่ชื่อว่าป๊อปเปอร์แล้ว ยังได้มีการตรวจยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศผู้ชาย หรือ ไวอากร้า ลักษณะเป็นเม็ดสีน้ำตาล พิมพ์ตัวเลข “800” ทั้งสองด้าน อยู่ในแผงบรรจุ 6 เม็ด บนแผงพิมพ์รูปสุนัขสีแดง ข้อความภาษาจีนจำนวน 3 ตัวอย่าง ตรวจพบซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ซึ่งเป็นยาในกลุ่มเสริมสมรรถภาพทางเพศทุกตัวอย่าง” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บอก พร้อมกับให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าสำหรับ “ไอโซบิวทิลไนไตรท์” จัดอยู่ในกลุ่มสารระเหยประเภทไนไตรท์ (Volatile Nitrite) ออกฤทธิ์ทำให้เกิดการคลายตัวของหลอดเลือด (vasodilatation) และการคลายตัวของกล้ามเนื้อเรียบ (smooth muscle relaxation) ซึ่งสามารถก่อให้เกิดความผิดปกติต่อร่างกายทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรังคุณหมอศุภกิจ บอกด้วยว่า สารไอโซบิวทิลไนไตรท์หากสูดดมต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จะมีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง จากฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ทำให้มีอาการ เช่นปวดศีรษะ หน้ามืด เป็นลม วูบวาบตามตัวใจสั่น หรือบางรายมีผลต่อระบบสายตา ส่งผลให้มีการมองเห็นไม่ชัดเจน และอาจสูญเสียการได้ยิน ส่วนอาการรุนแรง มีตั้งแต่ หายใจไม่ออก กล้ามเนื้ออ่อนแรง และว่าสารตัวนี้ หากสูดดมต่อเนื่องเป็นเวลานานจะทำให้ระบบทางเดินหายใจ ผิวหนังหรือกระเด็นเข้าตา ก็อาจจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนหรือไหม้ได้ “ความเป็นพิษระยะ ยาวนั้นมีรายงานว่า ไอโซบิวทิลไนไตรท์อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ โดยมีการศึกษาในสัตว์ทดลองและมนุษย์ พบว่า ทำให้ปอดอักเสบ ภาวะซีด ลูคีเมีย พิษต่อตับ การกดไขกระดูก มีผลต่อภาวะซึมเศร้า และหากใช้ร่วมกับยากลุ่มฟอสโฟไดเอสเทอเรส-5 (พีดีอี-5) (Phosphodiesterase-5; PDE-5) ซึ่งเป็นยารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศจะทำให้เกิดการเสริมฤทธิ์ขยายหลอดเลือดอย่างมาก เกิดความดันเลือดต่ำอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้” คุณหมอศุภกิจบอกส่วน “ซิลเดนาฟิล” เป็นยาที่ใช้รักษาอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว (Erectiledysfunction) และโรคความดันในปอดสูง ออกฤทธิ์ด้วยการทำให้กล้ามเนื้อเรียบของอวัยวะเพศเกิดการคลายตัว ทำให้เลือดมาคั่งที่อวัยวะเพศมากขึ้น ช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้นานขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ความ ต้องการทางเพศให้สูงขึ้นอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ บอกว่า ซิลเดนาฟิล จัดเป็นยาควบคุมพิเศษ ที่ต้องสั่งใช้โดยแพทย์เท่านั้น เพราะมีผลข้างเคียงที่รุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต มีข้อห้ามใช้หลายประการ เช่น ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจที่ใช้ยาอมใต้ลิ้นหรือยาในกลุ่มไนเตรท (Nitrate) เนื่องจากยากลุ่มนี้จะทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลงจนถึงขั้นช็อกเสียชีวิตได้“ซิลเดนาฟิล เป็นยาควบคุม ต้องสั่งโดยแพทย์ ไม่ใช่ใครจะไปซื้อมากินเองได้ เพราะอันตรายมาก มีข้อมูลการเกิดภาวะช็อก หัวใจวายจากการใช้ยานี้เป็นจำนวนมาก เพราะโดยทั่วไป มีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่า ยานี้ไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กและสตรี รวมถึงผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับโรคหัวใจ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด หัวใจเต้นผิดจังหวะ ลิ้นหัวใจตีบ โรคหัวใจวาย โรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ และภาวะความดันโลหิตต่ำ รวมทั้งผู้ที่มีอาการเส้นเลือดในสมองตีบ” คุณหมอศุภกิจย้ำ พร้อมทั้งแนะนำว่า ไม่ควรซื้อยานี้มาทานเองหรือแม้แต่ซื้อผ่านออนไลน์ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้ได้รับยาที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ปลอดภัย.