การประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน พิจารณาถึงมาตรการผ่อนปรนที่จะเริ่มใช้ในวันนี้ โดย สมช. เสนอผ่อนคลายมาตรการป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่ยังคงให้ จ.สมุทรสาคร เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวดหรือ สีแดงเข้ม ต่อไป นั่นหมายถึงอะไรที่สั่งปิดก็จะปิดต่อไป ไม่ว่าจะเป็นสถานบริการ โรงเรียน สถานศึกษา ส่วนตลาดนัดเปิดได้แต่ต้องจำกัดคนเข้าใช้บริการ ร้านอาหารเปิดได้ถึง 21.00 น. ขณะที่ กทม.และปริมณฑล ยังอยู่ใน พื้นที่สีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดเหมือนเดิม ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังปิดบริการต่อไป ยกเว้น ร้านอาหาร ให้นั่งรับประทานได้ถึง 23.00 น. แต่ยังจำกัดจำนวนคนต่อโต๊ะ ยังงดดื่มสุราที่ร้าน แต่ซื้อกลับไปดื่มต่อที่บ้านได้อีก 20 จังหวัด เป็นพื้นที่ควบคุม หรือสีส้ม มีการผ่อนคลายอยู่แล้ว อีก 17 จังหวัด เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูงหรือพื้นที่ สีเหลือง และ อีก 35 จังหวัด เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง หรือ สีเขียว ก็มีมาตรการผ่อนคลายมากน้อยต่างกันไปแต่เอาเป็นว่าไม่ค่อยมีผลกับคนทั่วไปเท่าไหร่ โรงเรียนเปิดได้ สถานบริการเปิดได้ อบรมสัมมนาได้ ประชุมจัดเลี้ยงได้ ฟิตเนส นวดไทย เปิดได้ ตามเงื่อนไขทางจังหวัดกำหนดยกเว้นสนามไก่ชน ชนโค บ่อนพนัน อาบน้ำ อาบอบนวด ยังเปิดไม่ได้ แค่นั้นก็มีคำถามตามมาว่า แล้วจะควบคุมได้อย่างไร เพราะ โควิด-19 เดินได้ ยกตัวอย่าง นักเรียน นักศึกษาที่มีอยู่ทั่วทุกสารทิศ จะต้องเดินทางมาเรียนที่มหาวิทยาลัย โรงเรียนใน กทม.หรือปริมณฑล ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ไม่ให้กระทบกับการเรียนการสอน เช่นจะต้องกักตัว 14 วันก่อนเข้าเรียนหรือไม่ เป็นต้น กลายเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและมีผลกับการควบคุมโรคโดยตรงหรือกรณีการห้ามจัดเลี้ยง ดื่มสุรา จัดปาร์ตี้ ในร้านอาหาร ในโรงแรม หรือในที่กำหนดต้องห้ามอะไรก็แล้วแต่ ก็ยังปรากฏภาพการสังสรรค์ ปาร์ตี้ จัดงานวันเกิดกันบานตะไท โดยเฉพาะคนที่ต้องเป็นแบบอย่างของสังคมหรือบุคคลสาธารณะ ซึ่งไม่มีบทลงโทษที่เด็ดขาดและจริงจัง ปล่อยให้มีการลูบหน้าปะจมูกไปเรื่อยๆ แล้วจะมีประโยชน์อะไรกับการแบ่งโซน แบ่งสี แบ่งพื้นที่ ควบคุมในต่างประเทศไม่ต้องไปไกลที่ไหน ฟิลิปปินส์ ผู้นำประเทศเขาเอาจริงสั่งปรับคนไม่ปฏิบัติตามประกาศมาตรการควบคุมด้านสาธารณสุข สั่งขังคุก จับปรับเป็นล้านทันที งานนี้ไม่ได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ แต่เสียดายว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีแต่พวกงูๆปลาๆมาเป็นที่ปรึกษาถ้ารัฐคิดจะออกประกาศแล้วมาให้ โฆษกคุณหมอ ยืนแถลงไปวันๆ แทนที่จะเป็นประโยชน์กลับสร้างความสับสนให้กับสังคมและการดำเนินชีวิตประจำวันของชาวบ้านเปล่าๆทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับสำนึกและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการภาครัฐ ไม่อยากเอาไปเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่เราดูว่าด้อยกว่า เพราะที่ผ่านมา ระบบโทรคมนาคมก็มาก่อนเรา มี 4 จี 5 จีก่อน มีการทดลองฉีดวัคซีนเข็มแรกก่อนส่วนบ้านเราเก่งแต่ราคาคุยและการสร้างภาพ.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th
