ตามลากคอฆาตกรทมิฬฆ่าเผา สาวเสิร์ฟคาราโอเกะหมกป่า ละเมาะแก่งกระจาน เป็นเดนคุก ประวัติโชกโชนเพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าชิงทรัพย์แคดดี้สาว ถูกตัดสินจำคุก 25 ปี ติดจริงแค่ 5 ปี ออกมาได้ 10 เดือนไม่เข็ดหลาบก่อเหตุซ้ำอีก สารภาพตั้งใจชิงทรัพย์ ซิ่ง จยย.ตามประกบเหยื่อขณะขี่รถกลับบ้านคนเดียว บิดกุญแจดับเครื่องขึ้นซ้อนท้ายใช้มีดจี้บังคับพาเข้าป่า มัดมือปลดทรัพย์ได้เงินแค่ 800 บาท ก่อนลงมือฆ่าปิดปาก มีดฟันหลังเชือดคอซ้ำแล้วจุดไฟเผาอำพรางคดีพร้อมรถ จยย. แม่เหยื่อโหดขอให้โดนโทษประหาร ไม่ให้ออกมาก่อกรรมกับคนอื่นอีกกรณีพบศพ น.ส.กัญญาภัค หรือผึ้ง ชาติทอง อายุ 46 ปี สาวเสิร์ฟร้านคาราโอเกะ ถูกฆ่าเผาพร้อมรถ จยย. ในป่าละเมาะหมู่ 4 บ้านโป่งตาเพชร ต.วังจันทร์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ห่างจากถนนบายพาสแก่งกระจานยางชุม เข้าไปประมาณ 1 กม. โดยก่อนหน้านี้นายสันติ ชาติทอง อายุ 46 ปี สามีผู้ตายเข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ท่ายาง เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ก่อนจะมีชาวบ้านไปพบศพวันที่ 8 พ.ย. ตำรวจตั้งปมสังหารหลายเรื่องทั้งชู้สาว ส่วนตัว และชิงทรัพย์ความคืบหน้าตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้แล้วเป็นเดนคุกก่อเหตุเพื่อฆ่าชิงทรัพย์ ที่ บก.ภ.จ.เพชรบุรี เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 พ.ย. พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พร้อมพวกร่วมแถลงข่าวจับกุมนายอู่ทอง พรายแขวง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 2 ต.วังไคร้ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.กัญญาภัค ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ จ313/2563 ลงวันที่ 15 พ.ย.63 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝัง ซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย พร้อมของกลางมีดสั้น 1 เล่ม มีดง้าว 1 เล่ม และ รถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องหลังการจับกุมหลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวนแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางพบว่าคืนวันที่ 3 พ.ย. หลังเลิกงานผู้ตายขี่รถ จยย.ออกจากร้านคาราโอเกะอิ่มจัง อ.ท่ายาง มุ่งหน้ากลับบ้าน ระหว่างทางมีรถ จยย.ของคนร้ายทราบชื่อภายหลังคือนายอู่ทองขี่ตามไปถึงจุดเกิดเหตุ ประกอบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อื่นๆ ตำรวจไปขออนุมัติศาลออกหมายจับกุม ก่อนนำกำลังไปรวบตัวนายอู่ทองได้ที่บ้านใน อ.ท่ายาง เมื่อวันที่ 15 พ.ย.สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่า คืนเกิดเหตุขี่รถ จยย.อยู่บนถนนบายพาสสายแก่งกระจานหนองหญ้าปล้อง พบผู้ตายขี่รถ จยย.อยู่ด้านหน้า จึงสะกดรอยตามไปหวังชิงทรัพย์ กระทั่งก่อนถึงที่เกิดเหตุ 1 กม. สบโอกาสเร่งเครื่องขึ้นประกบเอื้อมมือไปดับสวิตช์กุญแจรถผู้ตายให้จอด จากนั้นขึ้นคร่อมซ้อนท้ายใช้มีดจี้บังคับให้ผู้ตายขี่รถเข้าไปในป่าละเมาะที่เกิดเหตุ ใช้เสื้อคลุมของผู้ตายผูกมัดมือทั้งสองข้างติดไว้กับแฮนด์รถ ค้นทรัพย์สินในตัวได้เงินสด 800 บาท ผู้ตายทำท่าขัดขืน ตนเกรงว่าหากปล่อยตัวจะไปแจ้งตำรวจ ตัดสินใจฆ่าทิ้งโดยใช้มีดง้าวที่พกติดตัวฟันเข้ากลางหลัง ใช้มีดปลายแหลมปาดคอซ้ำ 2 แผล และจ้วงแทงสะบักหลังอีก 1 แผล จนเสียชีวิต จากนั้นผลักรถ จยย.ทับศพ เขย่ารถให้น้ำมันไหลออกมาแล้วจุดไฟเผาอำพรางคดี ก่อนหลบหนีออกมาขี่รถ จยย.ตัวเองไปกบดานอยู่ที่บ้านกระทั่งถูกตำรวจติดตามจับกุมจากการตรวจสอบประวัติและคำรับสารภาพเพิ่มเติมของผู้ต้องหาพบว่าเคยต้องโทษหลายคดี เมื่อปี 55 ถูกจับกุมข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ปี 56 ก่อเหตุกระชากกระเป๋าผู้หญิง 4 ราย และใช้มีดขู่บังคับข่มขืนในพื้นที่ อ.ท่ายาง และก่อเหตุชิงทรัพย์ใช้มีดแทงแคดดี้สนามกอล์ฟใน อ.ท่ายาง เสียชีวิต ศาลตัดสินจำคุก 25 ปี 6 เดือน 15 วัน ติดคุกจริง 5 ปี 2 เดือน 8 วัน พ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 5 ม.ค.63 กระทั่งมาก่อเหตุฆ่าเผาสาวเสิร์ฟคาราโอเกะรายนี้ด้านนายสันติ สามีผู้ตาย เผยว่า ที่ผ่านมาตกเป็นจำเลยสังคมว่าเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าภรรยาตัวเอง แต่ไม่กังวลเพราะรู้ตัวเองดีว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของภรรยา ยืนยันความบริสุทธิ์มาโดยตลอด กระทั่งตำรวจจับกุมคนร้ายตัวจริงได้ มีประวัติอาชญากรรมโชกโชน พฤติกรรมรุนแรงแม้ติดคุกแล้วยังไม่สำนึกกลับตัวเป็นคนดี อยากให้ถูกลงโทษอย่างเด็ดขาด ไม่ควรปล่อยให้ออกมาทำร้ายสังคมและคนอื่นอีกภายหลังแถลงข่าวตำรวจคุมตัวนายอู่ทองไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ มีญาติและชาวบ้านพากันมามุงดูจำนวนมาก พร้อมตะโกนด่าทอสาปแช่งด้วยความเคียดแค้น ตำรวจต้องคอยคุมกันตัวผู้ต้องหาอย่างแน่นหนา ป้องกันถูกรุมประชาทัณฑ์ หลังทำแผนฯเสร็จสิ้นนำตัวกลับไปสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.แก่งกระจาน ด้านมารดาผู้ตายกล่าวว่า อยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษประหารชีวิต เนื่องจากที่ผ่านมาก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง ถูกจับติดคุกยังไม่เข็ดหลาบ ขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่อยากให้คนอื่นตกเป็นเหยื่ออีก