มีข้อสันนิษฐานมานานว่านักล่าขนาดใหญ่ ที่บนชั้นสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร (apex predator) จะล่าสัตว์ใหญ่อื่นๆเช่นกัน แต่เมื่อเร็วๆนี้การวิจัยซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลสัตว์เลื้อยคลานทางทะเลขนาดใหญ่คล้ายโลมาที่ไม่มีครีบหลัง มีเพียง 4 ครีบที่แข็งแรง ในปากมีฟันทื่อแต่ทรงพลัง จัดเป็นหลักฐาน โดยตรงครั้งแรกในยุคไทรแอสสิก ที่แสดงให้เห็นการโจมตีกลืนกินสัตว์เลื้อยคลานทางทะเล ด้วยกันอย่างรุนแรง ซึ่งก็ม้วยมรณาไปทั้งคู่ ทีมนักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส สหรัฐอเมริกา เผยว่า ในทะเลน้ำตื้นอุ่นเมื่อราว 240 ล้านปีก่อนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน สัตว์เลื้อยคลานทางทะเลขนาดใหญ่วงศ์อิกทิโอซอร์ (Ichthyosaur) ได้ต่อสู้กับสัตว์ เลื้อยคลานทางทะเลที่คล้ายกิ้งก่าตัวใหญ่เท่าๆกัน หลักฐานก็คือซากฟอสซิลกุ้ยโจวอิกทิโอซอรัส (Guizhouichthyosaurus) ยาว 5 เมตร ขุดพบในมณฑล กุ้ยโจว พบว่าในท้องของมันมีลำตัวของซินพูซอรัส (Xinpusaurus) ยาว 4 เมตร เป็นสัตว์เลื้อยคลานทางทะเลชนิดหนึ่งในวงศ์ธาลัตโตซอร์ (Thalattosaur) แลคล้ายกับมังกรโคโมโด ซึ่งชี้ให้เห็น ว่าซินพูซอรัสตัวนี้ถูกตัดหัวในระยะประชิดและหางของมันก็ถูกตัดขาดนักบรรพชีวินวิทยา เผยว่าเหยื่อในกระเพาะอาหารของกุ้ยโจวอิกทิโอซอรัส ชี้ว่าอาหารถูกย่อยไปเพียงเล็กน้อย โดยกุ้ยโจวอิกทิโอซอรัสตัวนี้ตายไม่นานหลังจากมันเขมือบซินพูซอรัสเข้าไป ทั้งนี้ กุ้ยโจวอิกทิโอซอรัสจัดเป็นนักล่าทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น ก่อนที่ไดโนเสาร์จะปรากฏตัวในอีก 10 ล้านปีต่อมา.(ภาพประกอบ : ฟันของ Guizhouichthyosaurus)